PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"จารุพงศ์" ลั่นเดินหน้าแก้ รธน.ต่อ เป็นสัญญาที่ให้ไว้ "โภคิน" ย้ำการรับวินิจฉัยส่อขัด รธน.เสียเอ

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2556, 19:34 น.

"จารุพงศ์" ชี้ พท.ต้องเดินหน้าแก้ รธน.ต่อ ย้ำเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับ ปชช. "โภคิน" ชี้ ศาลรธน. ตัดสินแปลก ผิดมาตรา 68 แต่ไม่ยุบพรรค

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพท. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรพท. หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. ว่า พรรคได้สัญญากับประชาชนว่าเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนที่มีการทำประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 ก็มีการระบุว่าให้รับไว้ก่อนแล้วจะแก้ในภายหลัง นี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วไม่รู้คนที่พูดลืมไปหรือยัง แต่พอเราทำตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน ขยับทีไรก็เป็นเรื่องทุกที จนที่สุดต้องระงับไว้ 2 ปี ครึ่งทางแล้วหากไม่เดินหน้าต่อไปคงไม่ได้ และก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกให้เราแก้รายมาตรา จึงแก้มาตราสำคัญคือที่มา ส.ว. ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ศาล รธน. บอกว่าเลือกตั้งทั้งหมดแบบ รธน. ปี 40 สู้แบบ รธน.ปี 50 ไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็ต้องเดินหน้าต่อ แต่จะเดินหน้าอย่างไร ทางพรรคก็ต้องคุยกันก่อน "มันจะต้องก้าวไปสู่ระบอบประชาธิปไตย รับไม่ได้ที่บอกว่า ส.ว.สรรหา ดีกว่า ส.ว.ที่ประชาชนเลือกตั้งมา แล้วบอกว่าเป็นสภาผัวเมียนั้นรับไม่ได้ ก็ต้องสู้กันต่อไป แต่ต้องสู้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง" นายจารุพงศ์ กล่าว เมื่อถามถึงการที่ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถาน เกรงว่าจะมีการปะทะกับมวลชนกลุ่มอื่นหรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมวลชนทุกคนต้องเข้าใจว่าใครทำอะไรอย่างไร ซึ่งเห็นว่าควรพูดกันด้วยเหตุผล เพราะที่สุดแล้วประเทศชาติเสียหายหากมีปัญหาเกิดขึ้น ด้านนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เรื่องที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่ามีอำนาจวินิจฉัยในเรื่องนี้และฟังว่าการแก้ไขดังกล่าวผิดทางเทคนิค ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 68 แต่ไม่ตัดสิทธิการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคหรือยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องนั้น ตรงนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้อธิบายเหตุผลไว้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จึงดูแปลกๆ

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ก็ระบุว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ การที่รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ใช้การใช้สิทธิเสรีภาพของบุคคล แต่เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ ดังนั้นการรับคำร้องและวินิจฉัยเรื่องนี้ ถือว่าจงใจกระทำขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง และตามหลักนิติธรรมทุกคนต้องเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด ประชาชนจะตัดสินเองว่าอยากมีรัฐธรรมนูญแบบไหน หากแก้แล้วไม่ถูกใจเมื่อมีการเลือกตั้งคราวหน้าประชาชนก็ไม่เลือกเอง หากเป็นอย่างนี้บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย

ไม่มีความคิดเห็น: