PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

'พิเชษฐ'ลั่นอย่าหวัง!ร่วมหนุนม็อบ

'พิเชษฐ พันธ์วิชาติกุล' ลั่นไม่หนุนระดมคร่วมม็อบ ประกาศอำลาการเมือง แจงอิ่มตัว ชี้ การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ แนะ ปชป.อย่าขัดขวาง

6 ก.พ.57 นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนข้อความโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล (พระอภัยมณี)” เกี่ยวกับคำกล่าวปราศรัยในงานประชุมเลือกกรรมบริหารพรรค เขต 3 จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ตนอำลาการเมือง เนื่องจากอายุ 70 ปี และอิ่มตัวทางการเมืองแล้ว ตนเป็น ส.ส.คนแรกของจังหวัดกระบี่ที่เป็นส.ส.เขตติดต่อกันถึง 22 ปีโดยไม่เคยสอบตก ไม่เคยทิ้งประชาชนและพื้นที่ไปเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งที่เป็นอดีตรัฐมนตรี และงานสบายกว่า

นายพิเชษฐ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ด้วยว่า ตนได้มาที่หน่วยเลือกตั้ง เพื่อลงคะแนนแต่หน่วยเลือกตั้งปิด ที่มาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ต้องการละทิ้งหน้าที่ในโอกาสสุดท้ายที่กำลังจะจบชีวิตการเมือง ไม่ได้ตั้งใจจะกระทำการขัดกับหัวหน้าพรรคที่ประกาศไม่ไปเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่ โดยส่วนตัวรักและชื่นชมหัวหน้าพรรคมาโดยตลอด

“การไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสิทธิ แต่การไปลงคะแนนเลือกตั้งเป็นหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อไปการเมืองเป็นประการใดก็ตาม ขอสมาชิกอย่าไปขัดขวางการเลือกตั้งเด็ดขาด เพราะเราไม่เคยทำเช่นนี้ “นายพิเชษฐ กล่าว

นอกจากนี้ นายพิเชษฐ ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมของกปปส.ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บว่า ไม่อยากเห็นภาพแม่นายวสุ สุฉันทบุตร ที่ประคองใบหน้าลูกชายคนเดียวมองหน้าด้วยความอาลัย พร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลจับขอบแว่นดำพรางดวงตาที่แดงกร่ำ หญิงม่ายผู้อดออมส่งเสียลูกคนเดียวจนจบการศึกษาชั้นปริญญาโทจากออสเตรเลีย หวังได้พึ่งพายามแก่เฒ่าฝากผีฝากไข้ แต่นายวสุ กลับทิ้งให้แม่ต้องมาทำศพลูกชายเสียเอง นายวสุจะเป็นวีระบุรุษของใครก็ตาม แต่เป็นคนใจดำกับแม่ตนเองเกินไป ตนจึงไม่ไปงานศพเขา ขณะที่ ภรรยานายสุทิน มีบุตรอายุเพียง 5 ขวบ ดูเหมือนชื่อแก้วตา แต่วันนี้แม่ของแก้วตาต้องเป็นหญิงม่าย และแก้วตาต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ 5 ขวบ ส่วนนายประคอง มีลูกคนเล็กอายุเพียง 3 ขวบ ไม่รู้ว่าพ่อตายแปลว่าอะไร และดาบตำรวจผู้ตายคนหนึ่ง ลูกชายที่อุ้มอยู่ในมือแม่ พยายามโยนตัวไปหาศพพ่อที่นอนตายอยู่ พร้อมปลุกพ่อให้ตื่นกลับบ้าน รวมทั้งน้องสาวที่เป็นแพทย์หญิงประจำ รพ. 2 แห่งใกล้ รามคำแหง แจ้งให้ทราบว่า ศพที่รามคำแหงมีสองศพ ผ่านมือเธอที่โรงพยาบาล ซึ่งศูนย์นเรนทรรายงานว่า จนถึงวันนี้คนบาดเจ็บเกิน 600 คนแล้ว คนเจ็บที่ผ่านสายตาเธอต้องพิการตลอดชีวิตในลักษณะต่างๆ หลายสิบราย

“ผมยอมให้คนกระบี่โกรธผมที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปเสี่ยงความตายความพิการเช่นนั้น และจนบัดนี้ ใครก็อย่ามาขอสนับสนุนการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ จากผมเด็ดขาด บอกกล่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจกัน”นายพิเชษฐ กล่าว
http://www.komchadluek.net/detail/20140206/178370.html#.UvM9oG9qkrt


ไม่มีความคิดเห็น: