PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

งานเข้า "บุช"

คนตระกูลบุช เพื่อนรักทักกี้ ที่กำลังเจอข้อหาร้ายแรง การสอบสวนที่อื้อฉาว กลุ่มก่อการร้ายอัลเคดา การไล่ล่า บิน ลาเดน สุดขอบฟ้า ชวนชาวโลกต่อต้านการก่อการร้าย และปราบปรามกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง โดยเฉพาะประเทศ ที่มีทรัพยากรน้ำมันมหาศาล แล้วเพรียกหาแต่สิทธิมนุษยชน และเที่ยวชี้นิ้วกราดไปทั่วว่า เป็นผู้ก่อการร้าย และเผด็จการ ลองมาดูประวัติคนตระกูล "บุช"
ปี 1992 ประธานาธิบดี ” George Bush ผู้พ่อ” ลงสมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอบ 2 พ่ายแพ้ต่อ ”บิล คลินตัน” กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอเมริกัน ในนามของ ” Carlye Group" บริษัทจัดการสินทรัพย์ ทางเลือกระดับโลก ซึ่งมีบทบาทในธุรกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ได้เสนอตำแหน่งที่ปรึกษา กลุ่มธุรกิจบริษัทให้กับ ”บุชผู้พ่อ” เนื่องจากมีสัมพันธ์ที่ดีกับ นักธุรกิจชาวอาหรับ โดยดึง Carlye Group ให้เข้าไปซื้อกิจการบริษัท ที่ทำการฝึกอบรมหน่วยองครักษ์ ของราชวงศ์ซาอุฯ โดยตรง แล้วยังชักชวน สมาชิกราชวงศ์ซาอุฯ นักธุรกิจอาหรับ รวมไปถึงครอบครัว ”บิน ลาเดน” ให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วน ใน “Carlye Group”
”George Bush” ได้รับการอุ้มชู จากครอบครัวบิน ลาเดนมาโดยตลอด ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ทหารสหรัฐฯในซาอุฯ 5 ราย ก็เสียชีวิตจากการถูก ลอบวางระเบิดโดยกลุ่มก่อการร้าย ที่เชื่อว่ามีสายสัมพันธ์โยงใย กับ ”อัล-กออิดะห์” อีกครั้ง…. แต่ผู้ต้องสงสัยที่ถูกทางการซาอุฯ จับกุมตัวไว้ได้ ก็ถูกประหารชีวิตทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ร่วมทำการสอบสวน…
”คาลิด อัล มิห์ดาร์” กับ ”นาวาฟ อัล ฮาซมี” ผู้ซึ่ง เชื่อกันว่าเป็นผู้ที่ควบคุมเครื่องบิน ไฟลท์ที่ พุ่งชนอาคารเพนตากอน ในเหตุการณ์ 9/11 เคยพักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนการบิน ค่าใช้จ่ายและค่าเล่าเรียนของคนทั้งสอง ก็ว่ากันว่าได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหญิง ”ไฮฟา” ภรรยาของเจ้าชาย ”บันดาร์” เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำสหรัฐฯ ที่มีความสนิทสนมกับครอบครัว อดีตประธานาธิบดี ”บุช” ในชนิดแทบจะเป็น สมาชิกครอบครัวเดียวกันก็ว่าได้…
“บุชผู้ลูก” ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ด้วยการสนับสนุนของ “Carlye Group” และกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมัน ก่อนเกิดเหตุการณ์ 9/11 CIA และ FBI ต่างยืนยันต่อประธานาธิบดีอเมริกัน ถึงความเป็นไปได้ว่า การโจมตีสหรัฐฯ ด้วยการวินาศกรรมอาจจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และมีการระบุเอาไว้ชัดเจนว่า กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ น่าจะมีความเกี่ยวพันกับ ”โอซามะบิน ลาเดน” ผู้นำองค์กร ”อัล-กออิดะห์”!!!
ท่าทีของประธานาธิบดี ” George Bush” ไม่ได้แสดงปฏิกิริยากระตือรือร้น ระหว่างที่เครื่องบิน 2 ลำกำลังพุ่งหัวดิ่งเข้าชน ตึกเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ”บุชผู้พ่อ” และผู้บริหาร George Bush ก็กำลังยืนดูที.วี. ร่วมกับ ”ชาฟิก บิน ลาเดน” พี่ชายต่างมารดาอีกราย ของโอซามา และบรรดาสมาชิกราชวงศ์ ซาอุดิอาระเบีย… เนื่องในโอกาสการพบปะประชุม ของบรรดาผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ “Carlye Group” ที่ตรงกับวันนั้น…และวินาทีนั้นพอดิบพอดี…
“ซาเล็ม บิน ลาเดน” และ ”คาลิบ บิน มาห์ฟูซ” นายธนาคารชาวอาหรับ ผู้ดูแลกิจการธนาคารในเครือของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย จ้าง ”จิม บาธ” เพื่อนสนิท ” บุช ผู้ลูก ” ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ CIA ให้ เข้าไปตีสนิทกับ นักธุรกิจชาวอาหรับ ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่าง ”ตระกูลบิน ลาเดน” กับ ”ตระกูลบุช” เริ่มมีความผูกพันกัน และกันนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หน่วยงาน CIA . ในระยะนั้นได้กลายเป็น ผู้รับจ้างฝึกหน่วยทหารองครักษ์ให้ กับราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับร่วมทำธุรกิจการบิน กับนักธุรกิจอาหรับ ในขณะที่หลังจาก ”จอร์จ ดับเบิลยู บุช” พ้นกำหนดการเป็นอาสาสมัครรับใช้ชาติ และเริ่มเข้าสู่วงการธุรกิจของครอบครัว ด้วยการจัดตั้ง บริษัทขุดเจาะน้ำมันชื่อว่า ”อาร์บัสโธ” เงินลงทุนก้อนใหญ่ของบริษัทนับล้านดอลลาร์ ก็ได้มาจากครอบครัว ”บิน ลาเดน” ที่ลงทุนผ่าน ”จิม บาธ” นั่นเอง…
เมื่อประธานาธิบดี ”จิมมี่ คาร์เตอร์” วางโครงการที่จะให้ เงินสนับสนุนแก่ กลุ่มนักรบอิสลาม ที่เรียกกันว่า ”มูจาฮิดีน” ในอัฟกานิสถาน เพื่อให้ต่อต้าน กองกำลังของโซเวียตรัสเซี ย ที่บุกเข้ายึดประเทศอัฟกานิสถาน ในช่วงของรัฐบาลประธานาธิบดี ”โรนัลด์ เรแกน” ซึ่งมี ”บุชผู้พ่อ” ดำรงตำแหน่ง รองประธานาธิบดี ”โอซามา บิน ลาเดน” น้องชายคนโปรดของ ”ซาเล็ม” ได้เข้าร่วมทำสงครามญิฮาด เพื่อขับไล่รัสเซียร่วมกับ พวกมูจาฮิดีน ในอัฟกานิสถานขึ้นมาทันที…
นับตั้งแต่นั้นมา “ซาเล็ม” ก็ได้ขยายบทบาท ใกล้ชิดกับรัฐบาลอเมริกัน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกำลังสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุน ทางการเงินให้กับ แผนการลับของรัฐบาลประธานาธิบดี ”เรแกน” เพื่อจัดตั้งกลุ่มกบฏ ต่อต้านรัฐบาลฝ่ายซ้ายของนิคารากัว ที่รู้จักกันในนาม ”กบฎคอนทรา” เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 3-4 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ
ไม่เพียงเท่านั้น… เมื่อบริษัทน้ำมันของ ”บุชผู้ลูก” เกิดปัญหาทางการเงินขึ้นมา “ซาเล็ม”และ ”คาลิด”ก็กลายเป็นผู้ยื่นมือ เข้าประคับประคองพลิกฟื้น ฐานะของกิจการน้ำมันแห่งนี้ ด้วยการทุ่มเงินลงทุนผ่าน ”บาธ”
เมื่อโซเวียต จำต้องถอนกำลังออกจาก อัฟกานิสถาน “โอซามะ บิน ลาเดน” ในฐานะผู้นำของบรรดานักรบอิสลาม ที่ได้รับการฝึกปรือโดยหน่วยงาน CIA . มาอย่างช่ำชอง ได้เดินทางกลับ ซาอุดิอาระเบีย และได้เสนอต่อ สมาชิกราชวงศ์ซาอุฯ อาสาจะรวบรวมบรรดา นักรบอิสลามต่อสู้กับกองทัพซัดดัม แทนที่จะเปิดโอกาสให้กองกำลังสหรัฐฯ ใช้ซาอุดิอาระเบียเป็นฐานทัพในการขับไล่ ”ซัดดัม” ให้ออกจากคูเวต…แต่ข้อเสนอนี้ได้รับการปฏิเสธ
การลองสังหาร บินลาเดน กลับ เป็นเรื่องที่คนอเมริกัน ทุกคนเห็นด้วย เพราะไม่รู้เบื้องหลังที่แท้จริง


ไม่มีความคิดเห็น: