"ขณะนี้" เครื่องยนต์ตัวเดียวที่พยุงเศรษฐกิจได้คือ การท่องเที่ยว
ในอนาคตอันใกล้ เราต้องดันด้านการลงทุนภาคเอกชนให้เกิด การลงทุนภาครัฐก็ด้วย ซึ่งมันก็งูกินหางไปกับการบริโภคภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชน แบบไอ้โน่นยังไม่มี ไอ้นี่ก็เลยไม่มา
อย่างไรก็ดี พี่เคยบอกไว้ในไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วว่า อย่าหวังว่าปี 2558 นี้เศรษฐกิจจะโตในระดับปกติที่ชอบคาดหวังกัน และขอไม่ให้บอกตัวเลขเป้าหมายที่เวอร์ แล้วมาลดลงเรื่อยๆ แบบที่เคยเห็นในรัฐบาลก่อนที่ลดถี่ยิ่งกว่าการเปลี่ยนคำทำนายดัชนีหุ้น เพราะผลกระทบจากนโยบายรัฐที่ผิดพลาดยังมีอยู่ และเรากำลังอยู่กับรัฐบาลชั่วคราวเพื่อปฏิรูป ซึ่งการปฏิรูปคือการสร้างพื้นฐานใหม่
ในการปฏิรูปเพื่อสร้างฐานใหม่นั้น WE have the price to pay คือต้องยอมอยู่กับ GDP ในระดับ 2%-3% ไปพักหนึ่ง และเมื่อเข้าที่แล้ว เราถึงจะมีสปริงบอร์ดให้ก้าวกระโดดได้ไปอีกนาน แต่ไม่ใช่ในปีนี้แน่ๆ
จะโทษรัฐบาลก่อนหน้าouhไปทุกเรื่องก็ไม่ได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการสะสมของปัญหาที่หมักหมมมานาน และจะปะทุให้เห็นมาเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะเดี๋ยวก็ชิน
ตัวอย่างเช่น หนี้ของรัฐบาลตามภ่าระผูกพันที่ต้องจ่ายให้กับการเกษียณของข้าราชการคือเงินบำนาญ น่าจะไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ยังไม่รวมเงินบำนาญประกันสังคมอีกด้วย เพราะรัฐบาลไม่ไดตั้งยอดหนี้นี้ไว้ เรียกว่าเป็น Unfunded Liabilities ซึ่งต้องรีบแก้ไขโดยเร็ว
รัฐบาล คสช มีหน้าที่หลักในการปฏิรูป และหนึ่งในนั้นที่ไม่น่าจะคาดหมายไว้เลยคือ Unfunded Liabilities ที่ไม่ได้โผล่ตรงไหนให้เห็นมาก่อนหน้า เมื่อมาถึงเวลานี้แล้ว ถ้าไม่รีบทำ กลับหมกเอาไว้อีก ชะตากรรมของเราทั้งหมดคงไม่พ้นกรีซ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ได้ ทั้งด้านการค้าที่ภาคธุรกิจจำนวนมากยังไม่ได้ปรับตัว การศึกษา ด้านความเป็นอยู่ของคนในสังคม และแผนสำหรับผู้ชราภาพ ... เหล่านี้ทั้งหมดกำลังทับถมมาอย่างรวดเร็ว
เราต้องเข้าใจและอดทนเป็น ต้องยอมจ่ายเพื่อตั้งฐานใหม่ และต้องปฏิรูป ต้องไม่ยอมให้นักการเมืองกับข้าราชการทำความเสียหายให้กับประเทศได้อีกแล้ว เพราะในที่สุด ผู้รับชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือประชาชนผู้จ่ายภาษี ไม่ใช่คนที่ทำความเสียหายให้เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น