PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

สุทิน วรรณบวร: ระเบิดสุราษฎร์ธานี สัมภเวสีก้าวพลาด

@แผนการชั่วที่คิดจะก่อการร้าย 100 จุดต้องชะงักเพราะอเมริกาไม่รับลูก ปลุกกระแสต่อว่าผู้ก่อการร้ายกำลังขยายพื้นที่ปฏิบัติการมาสู่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ คดีก่อการร้าย 150 ครั้งที่ทำชั่วไว้ในปี2552-2553 กำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ที่ดินเขาใหญ่กำลังถูกมาตรา44 จัดการ เครือญาติต้องรับความผิดอาญาเพิ่ม ประตูคุกเปิดรอคนใกล้ชิด และสมุนบริวารคนแดนไกล ระเบิดสุราษฎร์ธานี จึงเป็นเรื่องที่สัมภเวสีก้าวพลาด”

ระเบิดสุราษฎร์ธานี สัมภเวสีก้าวพลาด

คนข่าวที่คุ้นเคยกับเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้มาหลายสิบปี วิเคราะห์ให้ฟังว่า เหตุระเบิดเซ็นทรัลที่เกาะสมุย และไฟไหม้โคออป เป็นเรื่องฝนตกขี้หมูไหลที่คนแดนไกล, คนเขาใหญ่ และยะลา มารวมกัน

สื่อกระแสหลักทั้งภายในและต่างประเทศทั่วโลก รวมทั้งสื่อสังคมซึ่งมีอิทธิพลมากต่อการรับรู้ของผู้คนในยุคดิจิตอล เสนอข่าวเหตุการณ์ระเบิดชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล เฟสติวัลสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเหตุไฟไหม้สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด หรือโคออป เมื่อวันที่ 10 เมษายน นำเสนอสอดคล้องกันคือ ให้น้ำหนักว่าเป็นการกระทำของกลุ่มอำนาจเก่าที่มีเป้าหมายทำลายเศรษฐกิจชาติ ดีสเครดิต คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และ คู่แค้นทางการเมือง ในคราวเดียวกัน

สำนักข่าวเอพี รอยเตอร์ และ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวระเบิดในห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ที่เกาะสมุย ในทำนองเดียวกันคือ เหตุระเบิดทำให้มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน รวมทั้งเด็กหญิงชาวอิตาเลี่ยนวัย 12 ปีหนึ่งคน รายละเอียดของระเบิดก็เหมือนกันทุกสำนักคือ ระเบิดซ่อนในรสมาสด้าที่ถูกปล้นมาจากจังหวัดยะลา

สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของพลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกรัฐบาลว่า มีหลักฐานหลายอย่างบ่งชี้ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่า “ทั้งหลักฐานจากที่เกิดเหตุ หลักฐานจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่เชิญตัวมาสอบปากคำ ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า เป็นกลุ่มผู้ที่เกี่ยวโยงกับอำนาจเก่าที่เคยก่อเหตุในกรุงเทพฯ”

ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า คาร์บอมบ์เหมือนกับระเบิดที่ใช้ในสามจังหวัดภาคใต้ ก็ได้รับคำชี้แจงจากพันเอกบรรพต พูลเพียรว่า “เป็นไปได้ว่ามีคนประสงค์ร้ายต่อประเทศชาติจ้างคนร้ายที่เชี่ยวชาญ ให้มาวางระเบิดที่สุราษฎร์ฯ เพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง”

ส่วนวิทยุเสียงอเมริกา(วีโอเอ) อ้างคำสัมภาษณ์ของนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันกับพันเอกบรรพต หนังสือพิมพ์ซิดนี่ เฮอรอล ในออสเตรเลียให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ในอดีตผู้ก่อความไม่สงบจากสามจังหวัดภาคใต้ ไม่เคยขยายพื้นที่ปฏิบัติการร้าย ขึ้นมาถึงเมืองท่องเที่ยว หนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟในลอนดอน ก็นำเสนอข่าวในทำนองเดียวกัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อตะวันตกเสนอข่าวทำเนียบขาวแต่งตั้งนายเกล็น ทาวน์เซนด์ มาดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐประจำประเทศไทย หลังจากว่างเว้นทูตมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2557 โดยไม่ได้กล่าวถึงเรื่องคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุยเลย อเมริกาซึ่งเป็นหัวโจกต่อต้านพฤติกรรมก่อการร้ายทุกรูปแบบ และมักออกความเห็นสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่า กลับปิดปากเงียบ ทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อเหตุระเบิดรถยนต์ในแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกเลย เป็นเรื่องผิดปรกติที่ทำเอาสัมภเวสีหนีคุกแทบกระอักออกมาเป็นเลือด

นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักวิชาการสถาบันมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมักออกความเห็นที่เป็นคุณต่อระบอบทักษิณ เป็นแหล่งข่าวคนแรกที่สื่อ
ตะวันตกมักขอความเห็นทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่คราวนี้ไม่มีความเห็นของนักวิชาการคนนี้ในสื่อตะวันตกเลย ถือเป็นเรื่องผิดความคาดหมายอย่างหนึ่งของกลุ่มอำนาจเก่าเช่นกัน
การให้ข่าวที่ชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมแบบทหารของพลตรีสรรเสริญ ทำให้ชาวโลกได้รู้ความจริง และสร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มอำนาจเก่าเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวสัมภเวสีหนีคุก เพราะความตั้งใจที่จะสร้างสถานการณ์เลวร้ายทำลายภาพลักษณ์ประเทศให้ชาวโลกเข้าใจว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ได้ขยายพื้นที่ก่อการร้ายขึ้นมาถึงเมืองท่องเที่ยวสำคัญแล้ว แต่กลับส่งผลในทางตรงกันข้าม และความผิดพลาดคราวนี้มันจะนำความหายนะมาถึงกลุ่มอำนาจเก่าเร็วขึ้นมากกว่าที่คิด

ส่วนความคิดชั่วร้ายที่จะทำลายเศรษฐกิจของชาติ ทำลายภาพลักษณ์ประเทศจากการระเบิดห้างสรรพสินค้า และเผาโคออปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ไม่เป็นผลตามความตั้งใจของคนร้าย เพราะสมาคมการท่องเที่ยว และโรงแรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานียืนยันว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน ไม่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวและโรงแรมเพราะยังไม่มีใครยกเลิกห้องพัก ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินเกาะสมุย และบินรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเกาะสมุยถึงวันละ 50 เที่ยวบินยืนยันว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทาง

นายภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติวิเคราะห์ว่า เหตุระเบิดและไฟไหม้ที่สุราษฎร์ฯน่าจะเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นถึง 150 ครั้งในปี 2552-2553 เมื่อคราวที่แนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) จัดชุมนุมก่อเหตุรุนแรง ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเป็นที่น่าสังเกตกว่ามีคนโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวก่อนระเบิดจะเกิดขึ้นนานสิบกว่าชั่วโมง ว่า จะมีเหตุร้าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมเหมือนกับคราวที่เสื้อแดงฮาร์ตคอร์ โพสต์ข้อความล่วงหน้าก่อนที่คนร้ายจะยิงใส่ขบวนรถของ เครือข่ายนักศึกษาประชาชน (คปท.) แนวร่วม กปปส.เมื่อปี 2557

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถบัสและรถปราศรัย คปท.ที่บริเวณทางด่วนแจ้งวัฒนะ ส่งผลให้มีผู้ชุมนุม คปท.ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 3 ราย ผู้ปราศรัยคนหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ก่อนเกิดเหตุคนร้ายยิงใส่ ขบวนรถ คปท.คนเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่าลุงยิ้ม ตาสว่าง โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่า “วันนี้โกตี๋จะจัดหนัก คปท.”

เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในจังหวัดสุราษฎร์ธานีครั้งนี้ แนวร่วมนปช.นายนรินทร์ อ่ำหนองบัว ใช้ชื่อ “เอ็ม เสื้อแดง” โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่า “คืนนี้จะจัดหนักสุราษฎร์ฯใครเอากับกูบ้างกูไม่เอา คสช.กูไม่เอามาตรา 44…..” ข้อความนี้แพร่กระจายในสื่อสังคมสิบกว่าชั่วโมงก่อนเสียงระเบิดดังขึ้นในชั้นใต้ดินลานจอดรถห้างเซ็นทรัลฯ และแสงเพลิงจะลุกวาบขึ้นในโคออป ทำให้คนข่าวที่คุ้นเคยกับข่าวเสื้อแดง และเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้ฟันธงว่า ระเบิดและการวางเพลิงโคออป เป็นฝีมือกลุ่มอำนาจเก่าร่วมมือกับผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้

“คนที่โพสต์ข้อความก่อนมีเหตุระเบิดเป็นแดงอยากดัง ที่รับรู้เรื่องนี้มาจาก แดงในระนาบเดียวกันที่แฝงตัวอยู่ในเกาะสมุยมานานแล้ว”คนข่าวที่คุ้นเคยกับเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้มาหลายสิบปีวิเคราะห์ให้ฟังว่า เหตุระเบิดและไฟไหม้โคออป เป็นเรื่องฝนตกขี้หมูไหลที่คนแดนไกล, คนเขาใหญ่ และยะลา มารวมกัน

“คนแดนไกล,เขาใหญ่,ยะลา” แค้นฝังเข็มคนสุราษฎร์ธานีมานานหลายปี ตั้งแต่เรื่องเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้ เรื่องปัญหาบ้านพักส่วนตัว เรื่องก่อการร้ายกลางเมืองในปี 2552-2553 เรื่องการชุมนุมไล่รัฐบาลทรราชครั้งประวัติศาสตร์ จนถึงวันที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชายึดอำนาจจากรัฐบาลหุ่นเชิดของคนแดนไกล

คนแดนไกลเคยส่งท่อน้ำเลี้ยงผ่านยะลา ไปถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและโจรรับจ้าง ที่จัดตั้งไว้ในพื้นที่เป็นเวลานานหลายปี ผู้ก่อการร้ายจัดตั้งและโจรจัดตั้งเหล่านี้ หลายสิบคนทั้งที่ถูกตั้งข้อหาแล้วและยังไม่ถูกตั้งข้อหา หลบมาแฝงตัวทำงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และในเกาะสมุยเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว เมื่อถึงวันที่คนแดนไกลสมคมกับเขาใหญ่ วางแผนชั่วทำลายเศรษฐกิจชาติ ทำลายคสช. และทำลายสุราษฏร์ธานี ในเวลาเดียวกัน ยะลา ซึ่งเป็นตัวผ่านท่อน้ำเลี้ยงมาตลอดจึงจัดให้

แต่ความหายนะกลับมาเกิดขึ้นกับนรกสามเส้า เพราะแผนชั่วร้ายเล็ดลอดไปถึงหู”แดงระดับยาม” ผ่านไปถึงหู”แดงอยากดัง”เพื่อสร้างราคาจากแผนการที่นรกสามเส้าทำให้ประเทศนี้วิบัติฉิบหายไปพร้อมๆกับ คสช. และสุราษฎร์ธานี แต่เมื่อแผนการชั่วไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ความวิบัติฉิบหายก็ย้อนกลับเข้าสู่สัมภเวสีหนีคุก และนรกสามเส้า

แผนการชั่วที่คิดจะก่อการร้าย 100 จุดต้องชะงักเพราะอเมริกาไม่รับลูก ปลุกกระแสต่อว่าผู้ก่อการร้ายกำลังขยายพื้นที่ปฏิบัติการมาสู่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ คดีก่อการร้าย 150 ครั้งที่ทำชั่วไว้ในปี2552-2553 กำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ที่ดินเขาใหญ่กำลังถูกมาตรา44 จัดการ เครือญาติต้องรับความผิดอาญาเพิ่ม ประตูคุกเปิดรอคนใกล้ชิด และสมุนบริวารคนแดนไกล “ระเบิดสุราษฎร์ธานี จึงเป็นเรื่องที่สัมภเวสีก้าวพลาด”

ไม่มีความคิดเห็น: