PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สถานการณ์ข่าว3มิ.ย.58

โรฮีนจาจับนายพลมนัส

"ประวิตร" ยันคดี "มนัส" ยึดกฎหมาย คาดพบระเบิดหลายจุดใน กทม. ไม่โยงป่วน ขณะการเลือกตั้งตามโรดแมป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพ
บก ในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาว่า เป็นเรื่องของส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกองทัพ ซึ่งการดำเนินคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการสอบสวน ส่วนการตั้งคณะกรรมการ

ของกองทัพเป็นการสอบสวนทางวินัย ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ พล.ท.มนัส เป็นบุคคลที่ตั้งใจทำงานเพื่อกองทัพมาโดยตลอด ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร
ภาค 4

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีการพบระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ไม่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องของการเลือกตั้งนั้น ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเกิดขึ้นในปี 2559 หรือ 2560 เนื่องจากต้องเป็นไปตามขั้นของโรดแมป
------------------
"วิเชียร" แจงทริปรีพอร์ตส่งสหรัฐฯ ประเมินผลปลายเดือน มิ.ย. - "ประวิตร" ย้ำ รบ.ไทย ดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองตามหลักมนุษยธรรม

นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวถึงการจัดทำรายงานสถานการณ์การค้า

มนุษย์ หรือ ทริปรีพอร์ต ที่ได้ส่งไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาว่า จะมีการประเมินผลในปลายเดือนมิถุนายน นี้ ซึ่งไทยได้รายงานความคืบหน้า การดำเนินการ พร้อมตัวอย่าง

การจับกุมการดำเนินคดี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ และดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองตามหลัก

มนุษยธรรม
//////////////
รัฐธรรมนูญ

"สุรชัย" กล่าวในการสัมมนา "วิเคราะห์ร่าง รธน." เชื่อทุกคนอยากเห็น รธน.ใหม่ ฉบับถาวรและดีที่สุด 

บรรยากาศการสัมมนาหัวข้อ "วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ ในมุมมองด้านวิชาการและการเมือง" ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการการเมืองสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณา

ศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1
กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงสุดท้ายของการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ทุกคนมีเป้าเหมือนกัน ที่ต้องการเห็นรัฐธรรมนูญใหม่นี้เป็นฉบับถาวร และที่ดีที่สุด ตามที่ประชาชนต้องการ นำมาใช้ในการ

ปกครองประเทศ

ทั้งนี้ ความแตกต่างในห้องนี้จะเป็นความคิดเห็นที่สร้างสรรค์นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นฉบับที่ 20 ของประเทศไทย ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ โดยกฎหมายใด

จะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้ รวมถึงบัญญัติองค์กรต่าง ๆ ของอำนาจรัฐขึ้นมา ประชาชนจึงให้ความสนใจอย่างมาก
-----------------
"มนูญ" ชี้แจงคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ให้กำหนดชัดผู้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม

คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ รับฟังคำชี้แจงประกอบคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจากสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ วันนี้ เป็นคำขอที่ 3 ซึ่ง นายมนูญ ศิริวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการ

ปฏิรูปด้านพลังงาน เป็นผู้เสนอ โดยต้องเขียนให้ชัดเจนว่า ใครควรเป็นผู้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงอยากให้กำหนดขอบเขตสิทธิชุมชนในการเข้าไปบริหารจัดการพลังงานร่วม
กับภาครัฐว่า มีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน เพราะเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคต่อโครงการใหญ่ ๆ ที่ต้องการความรวดเร็ว

นอกจากนี้ ขอแก้ไข ลดจำนวน ส.ว. จาก 200 คน เหลือ 150 คน, ให้ ส.ว. เลือกตั้งแต่ละจังหวัด “ไม่ต้องผ่านการกลั่นกรอง” โดยให้เหตุผลว่า การเลือกตั้ง ส.ว. จังหวัดไม่จำเป็นต้องมีคนมากลั่น

กรอง ควรมอบให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจโดยตรง
-----------------------
"โภคิน" ชี้ รธน.ควรดำรงไว้ในสิ่งที่สังคมมีการตกผลึกแล้ว ย้ำต้องตอบโจทย์เกิดการปรองดอง

นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 40 และ 50 นี้ ได้ให้ความสำคัญกับถ้อยคำที่นำเสนอมากกว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความ

ยุติธรรมและต้องไม่เป็นอคติจากตัวเอง ทั้งนี้ ในสังคมไทย มีการตกผลึกเรื่องนายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. และ ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองมานานแล้ว พร้อมยังเห็นว่าสิ่งที่ได้ตกผลึก
แล้วควรที่จะดำรงเอาไว้ เพราะการเปลี่ยนจะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก และการที่รัฐธรรมนูญไม่สามารถอยู่ยาวได้นั้น อาจไม่ได้เกิดมาจากรัฐประหารเท่านั้น แต่อาจเกิดมาจากเนื้อหาสาระในรัฐ

ธรรมนูญด้วยก็ได้

นอกจากนี้ นายโภคิน ยังกล่าวว่า การหาเสียงแบบประชานิยมที่ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดนั้น เป็นเหตุทำให้ประชาชนหันมาสนใจเรื่องการเมืองมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องปากท้องของ

ประชาชน จึงย้ำว่ารัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่นี้ต้องตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ให้ได้ นั่นคือการทำให้เกิดการปรองดอง ต้องสานต่อสิ่งที่ได้ตกผลึกไปแล้ว ต้องทำให้เกิดความต่อเนื่องในรัฐธรรมนูญ
----------------------------
"จุรินทร์" ชี้ รัฐธรรมนูญ ที่กำลังยกร่างยังไม่ตอบโจทย์ ต้องรื้อใหม่ 4 เรื่อง เพื่อป้องกันประเทศกลับไปสู่วิกฤติอีก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการสัมมนา "วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ ในมุมมองด้านวิชาการและการเมือง" ว่า สิ่งที่ต้องให้ความสนใจ คือ รัฐธรรมนูญ เป็น

กฎหมายสูงสุดที่จะนำมาใช้ปกครองประเทศ และยังเป็นตัวชี้วัดความเป็นประชาธิปไตยด้วย ซึ่งปัญหาจริงๆ นั้น อยู่ที่คนนำไปใช้ และเมื่อเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น พยายามให้มีนิรโทษกรรม จนส่ง

ผลเสียและผลกระทบ จนต้องดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้องทำอย่างไรให้การเมืองโปร่งใส และปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่นี้ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร และมองว่าต้องมีการรื้อใหม่ในเรื่อง 4 เรื่องด้วยกัน คือ การตัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น ในเรื่องระบบโอ

เพ่นลิสต์ ที่เป็นการจำกัดอำนาจประชาชนอย่างมาก มีการแต่งตั้งองค์กรขึ้นมากมาย /ต้องรื้อประเด็นที่ในอดีตเกิดปัญหามาแล้ว และต้องรื้อเรื่องที่อาจเป็นชนวนที่จะนำประเทศไปสู่วิกฤติอีก
----------------------------
วิษณุ เผย ประชามติ หากผ่าน สปช. ทำได้เลย 6 มิ.ย. เตรียมชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ เพียงคนเดียว คาดใช้เวลา 3 ช.ม.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยถึงการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อนำไปสู่การทำประชามติ ว่า ได้มีการพูดคุยกันได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีบางอย่างติดอยู่ต้องถามคณะ

รักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่าคิดอย่างไร เพราะเดิมที คสช.ไม่ได้คิดอะไรให้ไปดำเนินการกันมา ซึ่งหลัก ๆ แล้วคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เพื่อนำไปสู่การทำประชามติ และบัดนี้ดูจะยุติ

แล้วว่าจะทำประชามติแบบต้องทำ ไม่ใช่เลือก เนื่องจากก่อนหน้านี้ จะมีการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่วันนี้คณะรัฐมนตรีให้สัญญาณชัดเจนแล้ว ซึ่งถ้าผ่านสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.

ก็ให้ไปสู่การทำประชามติได้เลย

ทั้งนี้ นายวิษณุ ยังระบุว่า ส่วนข้อเสนอของรัฐบาลที่เสนอไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเชื่อว่าคณะกรรมาธิการฯ จะดำเนินการแก้ไข แต่ไม่ทั้งหมด ซึ่งในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ตนจะไปชี้

แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ อย่างละเอียดเพียงคนเดียว โดยเชื่อว่าระยะเวลา 3 ช.ม.เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ ภาระหน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ จะหมดเมื่อไหร่นั้น หากประชามติผ่านยังต้องอยู่เพื่อทำ

กฎหมายลูก ซึ่งมีการเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลว่าคณะกรรมาธิการฯ จะต้องอยู่จนถึงวันเลือกตั้งและเปิดสภาวันแรก แต่หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน สปช. ก็จะต้องหมดหน้าที่ในวันนั้นเลย
---------------------------------
สุริยะใส หวัง รธน.นี้จะแก้ปัญหาที่สั่งสมมานานได้ ชมมุ่งเน้นพลเมืองเป็นใหญ่

นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตรกรรมสังคมและผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวในการสัมมนา "วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญ ในมุมมองด้านวิชาการและการ

เมือง" ว่าการเอาปัญหาที่เกิดขึ้นไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญจำนวนมาก คาดหวังว่ารัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่นี้ จะเป็นยาวิเศษ มาแก้ปัญหาที่สั่งสมมานาน หากดูให้ดีจะเห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐ

ธรรมนูญ

ทั้งนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวว่า ระบบคิดของราชการมีปัญหา จึงทำให้ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พร้อมกันนี้ วิกฤตที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องที่ควรคำนึงถึงมากที่สุด คือ ไม่ควรนำ

ทุกเรื่องไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังเห็นว่า รัฐธรรมนูญนี้ได้มุ่งเน้นให้พลเมืองเป็นใหญ่นั้น เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่ต้องดูให้ดีว่าจะเกิด

ปัญหาอะไรขึ้นมาบ้าง
------------------------
นายกฯ พร้อมแก้รัฐธรรมนูญ ทำประชามติ ยึดตามขั้นตอน ยันคนผิดต้องเข้ากระบวนการ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ว่า เมื่อ

วานนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีมติให้ดำเนินการทำประชามติ ซึ่งเรื่องการทำประชามติ หากเป็นความต้องการของประชาชน ก็จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว อย่างไรก็ตาม

ต้องดำเนินการตามขั้นตอนโดยต้องดูว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. จะผ่านร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนการประชุมแม่น้ำ 3 สาย ในวันพรุ่งนี้ ทางคณะรัฐมนตรี จะชี้แจงในงาน 5 กลุ่มหลักที่

กำลังดำเนินการ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องการปฏิรูปด้านต่าง ๆ ได้เริ่มทำในสมัยนี้ ซึ่งการปฏิรูปตำรวจให้สามารถทำงานได้ก่อน ให้ดำเนินคดีและนำบุคคลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ โดย

ไม่ได้รังแกใครและเป็นไปตามหลักฐาน และให้โอกาสสู้คดี ซึ่งยังมีวันพ้นความผิด ไม่ใช่ไม่สู้คดีแล้วบอกว่าตนเองถูกต้อง
-------------------------
"ประสาร" แจงหารือในกลุ่มเห็นตรงกันเพิ่มมาตราใหม่ใน รธน. เชื่อ กมธ.ยกร่างฯ แก้ตามเหมาะสม หนุนเจตนารมณ์ 4 ประการ

นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้เสนอคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ กลุ่มที่ 4 พร้อมคณะกล่าวก่อนเข้าชี้แจงเพิ่มเติมคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ว่า จากการหารือ

ในกลุ่มเห็นตรงกัน ที่จะเสนอเพิ่มมาตราใหม่ในรัฐธรรมนูญในประเด็นหลัก อาทิ ให้บัญญัติปิโตรเลียมเป็นทรัพยากรของปวงชนชาวไทย และให้บริษัทพลังงานแห่งชาติ ทำหน้าที่บริหารจัดการ
พลเมืองสามารถใช้สิทธิ์ทางศาล ฟ้องร้อง เพื่อติดตามสมบัติของชาติคืนได้ ให้จัดตั้งศาลคดีทุจริต เป็นศาลชำนัญพิเศษ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นองค์อิสระ

ตามรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ ยังเสนอให้เพิ่มเติมประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญให้มีความสมบูรณ์ อาทิ ให้พลเมืองไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน เข้าชื่อเสนอวุฒิสภาให้รัฐบาลทำประชามติในเรื่องประโยชน์สาธารณะ ให้

ประชาชนเลือกตั้ง ส.ว. ได้โดยตรง พร้อมกันนี้ ให้พลเมืองมีสิทธิชุมนุนโดยสงบและปราศจากอาวุธ

อย่างไรตาม เชื่อว่า กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะมีการปรับแก้ไขตามความเหมาะสม พร้อมสนับสนุนเจตนารมณ์ของการร่างรัฐธรรมนูญ 4 ประการ คือ พลเมืองเป็นใหญ่ การเมืองใสสะอาด

และสมดุล หนุนสังคมที่เป็นธรรม นำชาติสู่สันติสุข
----------------
บวรศักดิ์ บอกอาจทบทวนตัดกลุ่มการเมืองออก ยืนยันยังไม่ปรับแก้ ขอฟังทุกกลุ่ม ขณะอาจเลื่อนเก็บตัวหัวหิน

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การรับฟังคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญต้องรอให้ครบทุกคำขอ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการปรับแก้ไขและพิจารณาปรับลด

จำนวนมาตราลงตามที่หลายฝ่ายเสนอแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีคำขอใดกระทบกับโครงสร้างรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อเสนอที่ให้ตัดกลุ่มการเมืองออกนั้น อาจมีการทบทวนกันอีกครั้ง แต่หากตัดออกก็ต้อง

แลกกับการจัดตั้งพรรคการเมืองได้ง่ายขึ้น ขณะการควบรวมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าด้วยกัน มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ นายบวรศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า อาจเลื่อนการประชุมนอกสถานที่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากวันที่ 22 มิถุนายน ถึง วันที่ 3 กรกฎาคม เป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมแทน เนื่องจากต้อง

รอคณะรัฐมนตรีว่าจะขยายเวลาไปอีก 30 วันหรือไม่
--------------
ผู้ขอแก้ไขชี้แจงกลุ่ม 3 เสนอให้ตัดกลุ่มการเมืองออกเห็นชอบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม ออกเสียงประชามติเขียนให้ชัดเจนใน รธน.

นายปกรณ์ ปรียากร พร้อมด้วย พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการรับฟังการเข้าชี้แจงเพิ่มเติมในคำขอแก้เพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มที่ 3 และ

กลุ่มที่ 4 โดยวันนี้ เป็นวันที่ 2 ของการรับฟังคำชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มของ นายมนูญ ศิริวรรณ ที่เสนอให้ตัดคำว่ากลุ่มการเมืองออกไป เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งแบบสัด

ส่วนผสม แต่ไม่เห็นด้วยกับระบบโอเพ่นลิสต์ ส่วนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้ง ต้องเปิดเผยการเสียภาษีย้อนหลัง 3  ปี ขอเพิ่มให้เป็น 5 ปี และขอแก้ไขจำนวนสมาชิกวุฒิสภา จาก 200

คน เหลือ 150 คน โดยให้มาจากการเลือกตั้ง 77 คน และมาจากการสรรหา 73 คน ให้การลงมติแบบไม่ไว้วางใจเป็นการกระทำแบบลับ นอกจากนี้ ยังขอให้ตัดข้อความ ว่า พลเมืองมีส่วนร่วมใน

กระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และให้ตัดสภาตรวจสอบพลเมืองออกไป

ทั้งนี้ เห็นด้วยกับควบรวมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กับผู้ตรวจการแผ่นดิน และขอตัดข้อความในมาตรา 308 (1), (2) ออก โดยให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี และให้มีการออก

เสียงประชามติโดยการเขียนให้ชัดเจนลงไปในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรแก้ไขในหมวดการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง
----------------------
ผู้ชี้แจงคำขอแก้ไขกลุ่ม 4 เสนอเพิ่มเติมสิทธิพลเมือง หนุน ปชช.มีส่วนร่วมทางการเมือง ส.ว. ต้องมาจากกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย

นายปกรณ์ ปรียากร พร้อมด้วย พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการรับฟังการเข้าชี้แจงเพิ่มเติมในคำขอแก้เพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มที่ 4 โดยมี

นายประสาร มฤคพิทักษ์ พร้อมคณะ เข้าชี้แจง ได้มีการขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของสิทธิพลเมือง สิทธิชุมนุน สิทธิสตรี สิทธิผู้บริโภค และสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน รวมถึงการตั้งกอง

ทุนหนุนชาวบ้านปลอดคอร์รัปชั่น สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง และเน้นการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนขอแก้ไขในมาตรา 121 ให้ประชาชนเลือก ส.ว. ได้โดยตรง และ ส.ว.ต้องมา

จากกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย มีเขตเลือกตั้งตามโซนจังหวัดต่างๆ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถเลือกจากผู้สมัครทุกสายอาชีพ สายอาชีพละหนึ่งคน

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะรวบรวมทุกประเด็น เพื่อนำไปพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญต่อไป
///////////////
นัดถกแม่น้ำสามสาย

"สุรชัย" เผย สัมมนาร่วม ครม. - สปช. - สนช. วันพรุ่งนี้ ให้สื่อเข้าร่วมฟัง ยันไม่มีเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ระบุว่า การสัมมนาร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี  สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ สนช. ในวันพรุ่งนี้ โดย นายกรัฐมนตรี

พร้อมคณะรัฐมนตรี จะเดินทางมาแถลงผลงานรอบ 1 ปี ของรัฐบาลด้วยตัวเอง และในช่วงต่อไปจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันทำเพื่อประเทศ

ทั้งนี้ อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง พร้อมจะมีการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันด้วย ส่วนเรื่องการกำหนดกรอบเวลาในการซักถาม จะใช้วิธีการคำนวณจากจำนวนสมาชิกทั้งหมด และนายก

รัฐมนตรี จะใช้เวลาแถลง 30 นาที เป็นรูปแบบการสัมมนาไม่ใช่อภิปราย พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการหารือเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเปิดโอกาสให้กรรมาธิการยกร่าง ได้ทำงานอย่างเป็นอิสระ

นอกจากนี้ นายสุรชัย ยังกล่าวถึงเรื่องที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีท่าทีจะไม่แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในบางประเด็นนั้น กล่าวว่า จะต้องดูเหตุผลของผู้ขอแก้ไข และผู้ร่าง ทั้งนี้ เชื่อว่า

กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะปรับปรุงเพื่อให้ทุกคนยอมรับ

อย่างไรก็ตาม นายสุรชัย ระบุว่า ทางคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้ส่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 เพื่อทำประชามติและยืดเวลาการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ จาก 60 วัน เป็น 90 วัน มา

ยัง สนช. หากส่งมาถึงจะสามารถพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 15 วัน
----------------------------
"อลงกรณ์" แจงประชุมแม่น้ำ 3 สาย พรุ่งนี้ เปิดโอกาสให้ทราบนโยบายของทั้ง 3 ฝ่าย - "สุวพันธุ์" บอกจัดประชุมแม่น้ำ 5 สาย 17 มิ.ย. รอยืนยันจากนายกฯ

นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขาธิการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ วิป สปช. กล่าวถึงผลการประชุมของ วิป สปช. ว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมร่วมกันของแม่น้ำ 3 สาย

ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ สนช. เพื่อรับฟังการดำเนินงานตลอดเวลาที่ผ่านมาของรัฐบาล ซึ่งการจัดประชุมร่วมกันนี้ ถือเป็นการจัดครั้งแรก เพื่อให้ สนช. และ

สปช. ได้รับทราบผลการทำงานของรัฐบาล รวมถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นของทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการร่วมกัน และยังจะเป็นการเปิดโอกาสให้ได้รับทราบ

แนวทางนโยบายการทำงานของทั้ง 3 ฝ่ายด้วย

ขณะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะมีการจัดการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 17 มิถุนายน ที่สโมสรทหารบกวิภาวดี ทั้งนี้ ต้องรอการยืน

ยันจากนายกรัฐมนตรี
//////////////
ถกปรองดอง

การหารือแนวทางสำหรับเดินหน้าปฏิรูปประเทศยังอยู่ระหว่างการประชุม คาดทำความเข้าใจกรณีถอดพาสปอร์ต "ทักษิณ"

บรรยากาศการประชุมแนวทางสำหรับเดินหน้าปฏิรูปประเทศระหว่างศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) และตัวแทนประชาชน ครั้งที่ 2 ล่าสุดยังคงอยู่ในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้น

เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็นของปัญหา และข้อเสนอแนะจากทุกกลุ่ม พร้อมทั้งร่วมพิจารณาหาทางออกในการลดความขัดแย้ง และขจัดเงื่อนไขที่จะสร้างความแตกแยกในสังคมไทย

ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ คาดว่าจะมีการทำความเข้าใจถึงการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีการเชิญทั้ง นายนพดล ปัทมะ และ นายสุรพงษ์

โตวิจักษณ์ชัยกุล มาพูดคุย ซึ่งทั้ง 2 คนเคยอนุมัติหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนหน้านี้
----------------------
นพดล แจงหารือร่วม ศปป. เป็นเรื่องอนาคต ยันไม่พูดถึงทักษิณและความเคลื่อนไหว

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้าหารือร่วมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปประเทศ หรือ ศปป. ว่า ที่ประชุมมี

การหารือหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอนาคตของประเทศ อาทิ การปฏิรูปการศึกษา สิ่งแวดล้อม กฎหมาย และร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงหลักการทั่วไปในการหาทางออกของประเทศ ซึ่งตนเห็นถึง

เจตนาที่ดีของ ศปป. ซึ่งผู้เข้าร่วมการหารือแต่ละคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน เชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ นายนพดล ยืนยันว่า การพูดคุยไม่มีการพูดถึงความขัดแย้งและการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือกรณีส่วนบุคคล รวมถึงกรณีการถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่มีการส่ง

จดหมายน้อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อย่างใด
-------------------------
จตุพร บอก หากไม่แก้ปัญหาแต่ละประเด็นจะนำประเทศไปสู่ความเสียหาย อยากให้ประเทศสงบ ต้องเขียน รธน. ให้เป็นประชาธิปไตย

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวภายหลังเข้าหารือกับ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปประเทศ หรือ ศปป. ว่า ตนได้

เสนอความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่หากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่แก้ไขปัญหาในแต่ละประเด็น จะทำให้ประเทศกลับสู่ปัญหาเดิม แต่ความเสียหายมากขึ้นและการทำ

ประชามติจะเป็นเพียงการชะลอความหายนะที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ หากต้องการให้ประเทศสงบให้เขียนรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย แต่หากต้องการอยู่ในอำนาจ ให้บอกมาตรง ๆ ตนไม่ได้

กลัว เพียงเห็นว่า อำนาจเป็นของร้อน การอยู่ในอำนาจนาน ๆ จึงไม่เป็นผลดีต่อคนที่อยู่ในอำนาจ
-----------------------
จตุพร ขอ นายกฯ อย่าเห็นผู้มีความเห็นต่างเป็นศัตรู , ทบทวนปิด พีซ ทีวี  ไม่พูดถึงถอดยศทักษิณ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า ในที่ประชุมแนวทางสำหรับการปฏิรูปประเทศ ตนได้ฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี อย่าเห็นผู้มี

ความเห็นต่างเป็นศัตรู เพราะการแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ได้อยู่ที่สีใด หรือพวกใด แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยที่จะต้องช่วยกัน  รวมไปถึง การปิดสถานีโทรทัศน์ พีซ ทีวี ที่อยากให้ทบทวนอีกครั้ง

เนื่องจากความแตกต่าง แต่ไม่ใช่การทำลายล้าง ไม่ใช่การเผชิญหน้า แต่จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศโดยรวม ถ้ามองตรงกันอย่างเข้าใจ จึงอยากให้ นายกรัฐมนตรี พิจารณา

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยถึงการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการขอความร่วมมืองดความเคลื่อนไหว เนื่องจากเป็นไปตามแนวทาง

ของ คสช. อยู่แล้ว

/////////////
ถอดถอน

รองประธาน สนช. เผย นัดประชุมนัดแรก เพื่อถอดถอนอดีต 248 ส.ส. 26 มิ.ย. นี้

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ขณะนี้ สนช. ได้นัดประชุมครั้งแรกเพื่อกำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีการถอดถอนอดีต 248 ส.ส.

นัดแรก 26 มิถุนายน นี้ โดยเบื้องต้นได้แบ่งฐานความผิดไว้ 4 กลุ่ม แต่ยังไม่มีการลงรายละเอียด และจะแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบภายใน 15 วัน

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ จะมีการสัมมนาร่วม ระหว่าง สนช. สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และคณะรัฐมนตรี เพื่อแถลงผลการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่านมา โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย

ประธาน สนช. และ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. จะสลับกันทำหน้าที่เป็นประธานการสัมมนา เบื้องต้นกำหนดให้คณะรัฐมนตรี แถลงตั้งแต่ 13.00 - 16.00 น. โดย นายกรัฐมนตรี เป็นผู้

แถลงคนแรก ใช้เวลา 30 นาที และรองนายกรัฐมนตรี อีกคนละ 30 นาที จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ สนช. และ สปช. สอบถามข้อสงสัยแก่คณะรัฐมนตรีได้ และคาดว่าจะปิดการประชุมในเวลา 19.00

น. จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐสภา
---------------------
ป.ป.ช. เร่งสรุป คดีถอดถอน "ยิ่งลักษณ์-สุรพงษ์" ปมพาสปอร์ตทักษิณ "ปานเทพ" ระบุ เบื้องต้น ยิ่งลักษณ์ ไม่เกี่ยวข้อง

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีขอถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัย

กุล อดีต รมว.ต่างประเทศ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบว่า กรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่กำลังเตรียม

ที่จะสรุป และรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหรือไม่ ภายในเดือนมิ.ย.นี้

ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายงานว่า ในระดับเจ้าหน้าที่ ที่ไต่สวนได้สรุปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะเป็นตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ส่วนปลัดกระทรวงที่ถูกกล่าวถึงจะเกี่ยว

ข้องอย่างไรหรือไม่ต้อง พิจารณาข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่
-------------------------
ป.ป.ช. เผยยิ่งลักษณ์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีเยียวยาม็อบปี 48-53 9 มิ.ย.นี้ มอบวิชัยแจงสนช.ถอดถอนอดีต 248 ส.ส.

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ

รัฐมนตรี รวม 34 คน จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548-2553 โดยมิชอบ ว่า กรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวน และมี
นายวิชา มหาคุณ เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ล่าสุด ได้มีการส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยังผู้ถูกกล่าวหาทุกคนแล้ว โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาและอาจให้ถ้อยคำเบื้องต้นได้ระหว่างวันที่

9-30 มิ.ย. ซึ่งเจ้าตัวอาจมาเองหรือส่งทนายความมารับทราบข้อกล่าวหาก็ได้ โดยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประสานมาแล้วว่า จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ ประธาน ป.ป.ช. ยังกล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนถอดถอนอดีต ส.ส.จำนวน 248 คน กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. มิชอบ ในวันที่ 26 มิ.ย.

ว่า รายชื่อที่ ป.ป.ช.ส่งไปยัง สนช. นั้นเป็นรายชื่อของ ส.ส. ที่ถูกชี้มูลทั้งหมด รวมถึง ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกัน เพื่อให้ สนช. พิจารณาถอดถอน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนและเป็นเหมือนกับกรณีถอดถอน
อื่น ๆ โดยในการแถลงเปิดสำนวนต่อ สนช. นั้น ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้ทำหน้าที่
//////////////
ทักษิณ

"วีรชน"เผย ขั้นตอนชี้แจงต่างประเทศปมถอดพาสปอร์ต "ทักษิณ" เป็นไปตามขั้นตอน กต.ที่ดำเนินการเหมือนกันกับทุกคน

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีฝ่ายการต่างประเทศ เปิดเผยกับ INN ถึงขั้นตอนในการดำเนินการชี้แจงต่อต่างประเทศถึงการยกเลิกพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการกับทุกคนเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรีคนเดียว เพราะทุกคนที่มี

ลักษณะเช่นนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะมีการแจ้งไปยังกงสุลและสถานทูตต่างๆ ของไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ให้มีการให้ข้อมูลไปกับประเทศที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ในส่วนของการประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยนั้น พล.ต.วีรชน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งหากใครไม่เห็นด้วยหรือโต้แย้ง ก็จะถือว่า

เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และหากใครออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ทางรัฐบาลก็จะมีการดำเนินการ นอกจากนี้ พล.ต.วีรชน ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีนายทหารระดับชั้นนายพลมีความ

เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ว่า เรื่องนี้ทาง ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ข่าวไว้ชัดเจนแล้วว่า จะไม่มีการปกป้องผู้ที่มีความผิดโดยให้มีการสอบสวนดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม หากพบว่ามี

ความผิดก็ว่าไปตามความผิด
-------------------
"พล.อ.ประวิตร" ย้ำถอดยศ "ทักษิณ" ยึดกฎหมาย ไม่คิดล้างแค้นใคร ไม่กังวลอดีตนายกฯ เคลื่อนไหวในต่างประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ

ตน ซึ่งเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีการเฝ้าดูว่าความเคลื่อนไหวกระบวนการใต้ดินในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและพยายามจะ

สร้างความเป็นธรรมในสังคมให้มากที่สุด และไม่ได้คิดล้างแค้นใคร หรือกล่าวโทษใคร

อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวในต่างประเทศ โดยเฉพาะต่อการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นไปตามหลักการและโรดแมป ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ ส่วนกรณีที่

หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ยอมปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนด
////////////////////
ผบ.ทบ.คนใหม่

"พล.อ.ประวิตร" เผยตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ตามขั้นตอน ยึดหลักอาวุโส ขณะบ่ายประชุมกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งผู้บัญชาทหารบกคนใหม่ว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมีคณะ

กรรมการแต่งตั้ง ที่ยึดหลักอาวุโส ความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสม และไม่จำเป็นที่จะต้องมอบนโยบาย เพราะผู้บัญชาการทหารบกดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนจะมาจากสายบูรพาพยัคฆ์หรือ

ไม่นั้นเป็นไปตามขั้นตอน

พล.อ.ประวิตร ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงบ่ายจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะรายงานความ

คืบหน้าการดำเนินงาน โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์ ส่วนการปลดล็อกการจัดอันดับเทียร์ 3 จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ และเห็นว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายไปกว่านี้

ขณะที่สหรัฐอเมริกามีท่าทีที่พอใจในการแก้ไขปัญหาของไทย
////////////////////
นายกฯ สั่งเลื่อนถ่ายทอดคืนความสุขฯ 5 มิ.ย. เป็น 17.00 น. ให้คนไทยร่วมชมถ่ายทอดสดพิธีเปิดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ แนะนักกีฬาทำเต็มที่และรักษาน้ำใจนักกีฬา

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มีคำสั่งให้เลื่อนช่วง

เวลาการออกอากาศรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน เป็นเวลา 17.00 น. แทนช่วงเวลาเดิมคือ 20.30 น. เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมชมการถ่ายทอดสด พิธีเปิดมหกรรมการ

แข่งขันกีฬาซีเกมส์ จากประเทศสิงคโปร์ ในช่วงเวลา 18.30-22.00 น. และร่วมกันส่งใจไปเชียร์กองทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันครั้งนี้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ฝากถึงกองทัพนักกีฬาไทยว่า ทุกคนถือเป็นตัวแทนประเทศไทยในการไปร่วมมหกรรมกีฬาในระดับภูมิภาค ขอให้แสดงศักยภาพ ความสามารถอย่างเต็มที่ตามที่ได้มุ่งมั่นฝึก

ซ้อมมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการแสดงออกซึ่งความมีน้ำใจนักกีฬา ความยึดมั่นเคารพในระเบียบกติกา และวินัยของนักกีฬาไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานานาชาติ โดยนายก

รัฐมนตรี ขอให้นักกีฬาและทีมงานทุกคน ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ และนำความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทยและประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น: