วันที่ 27 ก.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมการผู้ช่วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นถึง
แผนการนำที่ดินมักกะสันจำนวน 497 ไร่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไปให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเช่านำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยเบื้องต้น ราคาประเมินที่ดิน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวกำหนดมูลหนี้ จะอยู่ระหว่าง 6-7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ แผนดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่สะสมมานานของ ร.ฟ.ท. โดยปัจจุบันภาระหนี้สินของ ร.ฟ.ท. มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท
นายไพศาล ระบุว่า ต้องขอความเป็นธรรมให้การรถไฟ การรถไฟได้รับพระราชทานที่ดินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เพื่อให้นำมาใช้ในกิจการของรถไฟส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อใช้เชิงพาณิชย์ จะได้มีรายได้มาบำรุงรถไฟเพื่อทำให้ค่าโดยสารรถไฟถูกลง ราษฎรจะได้ใช้บริการรถไฟด้วยราคาถูก
ดังนั้น การที่จะเอาที่ดินการรถไฟแปลงมักกะสัน 497 ไร่ ไปโอนให้หน่วยงานอื่นจึงไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์และพระราชประสงค์ ในการพระราชทานที่ดินให้กับการรถไฟ
คนไทยจึงต้องช่วยกันพิทักษ์รักษาพระราชมรดกชิ้นนี้ให้เป็นของการรถไฟไว้ตลอดไปและการรถไฟก็สามารถนำที่ดินแปลงนี้ออกบริหารจัดการแสวงหาประโยชน์ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เองก็ได้เรื่องอะไรต้องไปโอนให้กับหน่วยงานอื่น
และถ้าบริหารจัดการเป็นด้วยความสัตย์สุจริตรถไฟสามารถหาประโยชน์จากที่ดินแปลงนี้ไม่น้อยกว่า3แสนล้านบาทโดยที่ยังเป็นเจ้าของที่ดินด้วย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่น้อง ในยุครัฐบาลนักการเมือง ยังตั้งราคาที่ดินรถไฟที่มักกะสัน 497 ไร่ถึง 1 แสนล้านบาท มาตอนนี้ ราคาแกว่งขึ้นลง ยิ่งกว่าราคาหุ้นในตลาด
ตอนแรกตั้งราคา 7 หมื่นล้านบาท ต่อมาเห็นประชาชนนิ่งเฉยก็ตีราคาลดเหลือ 5 หมื่นล้านบาท เห็นประชาชนนิ่งอีกก็กดราคาเหลือ 3 หมื่นล้านบาท จึงถูกโวยวายว่าทำอะไรกัน จึงปรับราคาขึ้นไปเป็น 5 หมื่นล้านบาท ต่อมา นายกฯตู่สั่งให้ตีราคาใหม่ ตอนนี้ก็ขยับราคาไปที่ 7 หมื่นล้านบาท
ราคาเช่าที่ดินรถไฟพหลโยธิน 34 ไร่ 30 ปี รถไฟยังได้ 30,000 ล้านบาท ที่มักกะสันราคาสูงกว่าเยอะ ทำไมเนื้อที่ 497 ไร่ 99 ปี จึงเหลือเพียง 70,000 ล้าน
มันเกิดอะไรขึ้น ! ทำไมต้องโอนที่รถไฟไปให้ไอ้โม่งที่ไหนเช่าแบบนี้ เราทั้งผองต้องร่วมใจกันรักษาพระราชมรดกพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นี้ไว้ให้กับการรถไฟตลอดไปครับ
พี่น้องสามารถเข้าใจแผนการ โอนที่ดินรถไฟได้ดีขึ้น ถ้าหากได้ทราบและเข้าใจกระบวนการหาประโยชน์กับ "ศูนย์ราชการ" อย่าคิดว่าศูนย์ราชการเป็นของหลวงนะครับ ศูนย์ราชการบริหารจัดการโดยกองทุน ซึ่งหลวงถือหุ้นข้างน้อย นักธุรกิจการเมืองถือหุ้นข้างมาก ได้สิทธิประโยชน์ในการใช้ที่ดินหลวงเกือบจะฟรีๆ ได้สิทธิประโยชน์ในการกำหนดให้ส่วนราชการ ต้องมาเช่าใช้พื้นที่
ลงทุนโดยกองทุน 2 หมื่นล้านบาท แต่ได้ประโยชน์จากค่าเช่าจากรัฐบาลถึง 9 หมื่นล้านบาท นักธุรกิจนักการเมืองถึงรวยกันเปรม แต่รัฐบาลจะต้องแบกรายจ่ายถึง 9 หมื่นล้านบาท ของดีอย่างนี้ทำไมไม่ทำเอง ทำไมจึงไปทำเป็นกองทุนแบบนี้เพื่อประโยชน์ ให้กับใคร
สังเกตสิครับว่า จะโอนที่รถไฟ ให้กระทรวงการคลังอ้างว่าชำระหนี้ แต่ทำไมมากำหนดวิธีบริหารจัดการเสียตั้งแต่ตอนนี้
นี่มิไม่ใช่กระบวนการมัดมือชกรัฐบาลแบบม้วนเดียวจบดอกหรือประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยศูนย์ราชการนะครับ
คำนวณเล่นๆก็ได้ลงทุนศูนย์ราชการ2 หมื่นล้านเอาค่าเช่าจากรัฐบาล 9 หมื่นล้าน มาถึงที่รถไฟ 497 ไร่ จะให้ราคา 7 หมื่นล้าน ค่าเช่าเท่าไหร่ละครับ มันจะไม่ถึง 5-7แสนล้านดอกหรือ
ต้องช่วยกันแล้วล่ะครับงานนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น