PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ย้อนกลศึกทักษิณ : ยิ่งดิ้น - ยิ่งรัดคอตัวเอง

ย้อนกลศึกทักษิณ : ยิ่งดิ้น - ยิ่งรัดคอตัวเอง
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ตกต่ำทางด้านเศรษฐกิจโลกในห้วงเวลานี้ เป็นปัจจัยที่เป็นคุณต่อการเคลื่อนไหวของระบอบทักษิณเพื่อดิสเครดิตและหาทางล้มล้างอำนาจรัฐบาล คสช.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่ง ประเทศคู่ค้ารายใหญ่จากซีกโลกตะวันตกตั้งแต่สหรัฐอเมริกา และยุโรปล้วนมีปัญหาจากมรสุมเศรษฐกิจระลอกแล้วระลอกเล่า กระทั่งกรณีล่าสุดวิกฤตการชำระหนี้ของกรีซที่มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ และอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของทั่วทั้งทวีปยุโรป และทั่วโลกได้
ย้อนพิเคราะห์สถานการณ์ทั้งทางด้านการเมืองและด้านเศรษฐกิจของประเทศในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เรียงร้อยต่อภาพจิ๊กซอว์การต่อสู้-ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ระหว่างระบอบทักษิณกับฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณแล้ว แม้สถานการณ์โลกภายนอกจะเอื้ออวย-เป็นคุณกับฝ่ายทักษิณ แต่รูปธรรมการต่อสู้แต่ละช็อต,แต่ละแผนจะพบร่องรอยแห่งความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของระบอบทักษิณหลายครั้ง-หลายเวที !!
เริ่มตั้งแต่ภาพกว้าง ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ระบอบทักษิณได้ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลจ้างนักกฎหมายใหญ่อย่าง โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม วางแผนไกลที่จะเล่นงานรัฐบาลไทยตั้งแต่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ข้อหาสั่งฆ่าสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงหวังจะนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เสียเงินเปล่าๆไปอักโข
ย้อนกลับมาที่สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพฯ ตัวละครโปรทักษิณบรรดาศักดิ์ ระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง แดเนียล รัสเซล หรือเอกอัคราชทูตและอุปทูตประจำประเทศไทยอย่าง คริสตี้ เคนนีย์, แพทริค เมอร์พี ที่ทำตัวรุ่มร่าม ไร้มารยาททางการทูต ออกโรงเชียร์ทักษิณอย่างโจ่งแจ้งถึงขั้นออกเดินสายตระเวนไปเยี่ยมหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยหลายเรื่อง-หลายวาระ ที่สุด ก็ถูก นายกฯ พล.อ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ ดอน ปรมัตวินัย และนักวิชาการไทยหลายคน รุมคัดค้านเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไร้มารยาททางการทูตอย่างถึงลูกถึงคน
ผลพวงจากการดำเนินนโยบายการทูต-การต่างประเทศที่ผิดพลาด ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯมีคำสั่งย้ายคริสตี้ เคนนีย์ กลับไปประจำที่วอชิงตัน ดี.ซี. และก่อแรงผลักให้ไทยหันไปฟื้นสัมพันธ์อันดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำให้ความฝันที่สหรัฐอยากจะหวนฟื้นความเป็นมหาอำนาจในทะเลจีนใต้ครั้งใหม่ริบหรี่ลง
ต่อเนื่องมาถึง แผนประเคนแหล่งพลังงานธรรมชาติใต้ทะเล ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกัน และประเทศในตะวันออกกลาง ก็ถึงการสะดุดหยุดลง ต้องมีการรื้อ สังคายนา พ.ร.บ.ปิโตรเลียมปี 2514 ที่ล้าสมัย เอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติมากจนเกินไป แนวโน้มร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่จะเปิดให้มีทางเลือกที่กว้างขวางขึ้น ทั้งระบบสัมปทานแบบเก่า,ระบบแบ่งปันผลผลิต และระบบว่าจ้างผลิต ที่จะเอื้อประโยชน์ และเป็นธรรมกับประชาชนคนไทยผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติที่แท้จริง
แผนทุบทำลายอุตสาหกรรมส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดประชาคมยุโรป(อี.ยู.) ด้วยการโหมประโคมข่าวธุรกิจประมงเถื่อน-ค้ามนุษย์ที่อินโดนีเซียต่อเนื่องมาถึงข่าวขบวนการเรือมนุษย์ โรฮิงยากำลังจะถูกดับฝันลงไปด้วยผลสำเร็จของทีมทำงานที่เอาจริงเอาจัง-โปร่งใส และยึดหลักนิติธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ที่คาดว่าจะสามารถเอาชนะใจอี.ยู.ได้ ส่งผลทำให้ แผนที่จะยั่วยุให้อี.ยู.บอยคอตสินค้าส่งออกไทยสู่ยุโรปก็จะล้มเหลว
แผนบอนไซ “การบินไทย”-สายการบินแห่งชาติ และสร้างรอยด่างให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการบินพาณิชย์ของไทย ตั้งแต่การพยายามทำให้การบินไทยขาดทุน, การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ผุดสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ รวมไปถึงการออกใบอนุญาตสายการบินใหม่อีก 60 กว่าบริษัท ซึ่งในจำนวนนี้รวมไปถึงสายการบินยู แอร์ไลน์ ของอริสมันต์ พงศ์เรืองรองที่มีโครงสร้างทุนถือหุ้นไขว้ไปถึงสหกรณ์ เครดิต ยูเนี่ยน คลองจั่น และวัดธรรมกาย
จนกระทั่งกรณีฉาวโฉ่ล่าสุด คือ การจับปืนจิ๋วในกระเป๋าสัมภาระของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่สนามบินนาริตะของญี่ปุ่นก่อนจะบินกลับไทย ก่อให้เกิดคำถามจากคนทั่วโลกว่า ปืนนี้มาจากไหน? หลุดจากการตรวจสอบของสนามบินสุวรรณภูมิไปถึงญี่ปุ่นได้อย่างไร? คำถามค้างคาใจคือ เป็นความพลั้งเผลอ ซุกปืนในกระเป๋าแล้วโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง โดยไม่เจตนา หรือมีนัยยะลึกมากกว่านี้ หรือไม่?
ต่อเนื่องด้วยแผนเคาะกะลาหาทุนตั้งพรรคการเมืองใหม่ ผุดไอเดียบรรเจิด “คาสิโน & เอนเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์” ป่าวประกาศให้ทุนยักษ์ใหญ่ข้ามชาติทั้งจาก ลาสเวกัส มาเก๊า สิงคโปร์ และทั่วโลกให้ตาลุก อยากเข้ามาร่วมลงทุน หากแผนนี้ผลักดันสำเร็จ ก็จะสามารถผนึกแนวร่วมทุนขนาดใหญ่ ทั้งในและนอกประเทศ ให้รวมตัวกันได้บรรลุผลสำเร็จทั้งทางธุรกิจ และทางการเมือง สามารถเชื่อมประสานทุกกลุ่ม-ทุกฝ่ายให้เข้ามา รวมตัวกันได้สำเร็จ แต่ข่าวประกาศออกไปไม่ทันไร เสียงคัดค้าน-วิพากษ์ วิจารณ์-ไม่เห็นด้วย จากประชาชนทุกภาคส่วน ก็ดังกระหึ่มประเทศจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมา “เบรก” ความฝันนี้ไว้เสียก่อน
กระทั่งกรณีล่าสุดคือการพยายามอิงแอบโหนกระแสการจับ 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยว่า มีขบวนการชักใยอยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของเยาวชนนิสิตนักศึกษา และพยายามโหมประโคมเรื่องให้บานปลายกลายเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาฯรอบใหม่ให้ได้ ซึ่งล่าสุด รัฐบาลก็จัดการปัญหานี้อย่างละมุนละม่อมเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แนวโน้มจึงทำท่าจะกลายเป็น “กระสุนด้าน-จุดไม่ติด” ของขบวนการเชิดชูทักษิณ ครั้งล่าสุดอีก
พิเคราะห์จากเหตุการณ์รายล้อมทั้งหมด บ่งชี้ว่า ระบอบทักษิณได้ทุ่มเท และโหมสรรพปัจจัย พยายามจะก่อกระแสให้เกิดการลุกฮือครั้งใหญ่ แต่แนวโน้มสุดท้าย ก็คาดว่าจะจบลงด้วยการพ่ายแพ้-ล้มเหลวซ้ำอีก เพราะการต่อสู้ของเขาไม่เป็นธรรม, ไม่ได้ยืนอยู่ข้างความถูกต้อง และไม่ได้ยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน.
--------
ราชดำเนินอเวนิว
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
วัน พุธ ที่ ๑ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
----------------


ไม่มีความคิดเห็น: