PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

แผนทหารยามบ้านเมืองไม่มีทางเลือก?

วันนี้ก็ยังคงย้ำเตือนว่า ระบอบทักษิณก็ยังรุกหนัก ที่จะสร้างความฉิบหายและทิมตำประเทศชาติทุกมิติอย่างไม่ลดละ แผนชั่ว-Conspiracy ในหมู่นักการเมืองระบอบทักษิณและกลุ่มนักการเมืองที่ต้องการประโยชน์จากอำนาจรัฐ หากระบอบทักษิณครองเมืองอีกครั้ง ก็ยังแสดงบทบาทยุยงและเปิดทางให้เกิดความวุ่นวายต่อไป รวมทั้งข้าราชการทหารตำรวจและข้าราชการพลเรือนที่เสียโอกาสหรือถูกพบว่าทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อสนองตอบอามิสสินจ้างที่ระบอบทักษิณประเคนให้ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจที่ได้อนิสงค์จากอำนาจระบอบทักษิณ ก็เตรียมที่จะร่วมลงทุนเพื่อหวังผลในอนาคต ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องรุนแรง
วันนี้เราคนไทยไม่เอาระบอบทักษิณ ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใครก็ตามในยามนี้ กระทำตนเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล คสช.ก็คือแรงเสียดทานและเป็นอุปสรรคร้ายแรงต่อการปฏิรูปประเทศ " (เพราะขณะนี้เราไม่มีทางเลือก)
เราจะเห็นกันเองว่า สนช.และสปช.ที่ คสช.แต่งตั้งมานั้น จะตอบสนองความต้องการของมวลมหาประชาชนได้ครบถ้วนหรือเปล่า หรือ ร่างรธน.นี้ขาดเหลืออย่างไร
เราก็คงพบเห็นได้จากร่างรัฐธรรมนูญฉบับโค่นระบอบทักษิณ-ระบอบทักษิณ(ไม่ได้หมายความเฉพาะตัวทักษิณแต่หมายถึงแนวคิดและวิธีปฏิบัติของคนในอาณัติอำนาจเงินทักษิณ เช่น การซื้อเสียงเพื่อชนะการเลือกตั้ง เสียงสกปรกในสภาตัดสินออกกฏหมายเอื้ออำนวยผลประโยชน์เพื่อทักษิณและพวก มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เห็นแก่ตัวเข้าดำรงตำแหน่งแต่เป็นทาสระบอบทักษิณ เป็นต้น)
หากร่างรธน.ฉบับโค่นระบอบทักษิณนี้ ไม่เป็นไปตามปรารถนาของมวลมหาประชาชน แต่รัฐธรรมนูญนี้กลับเอื้อประโยชน์ให้ระบอบทักษิณและกลุ่มอำนาจและกลุ่มทุนใหม่ซึ่งพัฒนาอิงระบอบทักษิณและกลายเป็นแนวร่วมทักษิณไป กรรมจะสนองกลับบรรดานักการเมืองสมัครเล่นที่ คสช.ไว้วางใจแทนมวลมหาประชาชน ให้ได้รับกรรมนั้นอย่างแน่นอน
สัจจะธรรม ว่าด้วยกฏแห่งกรรมนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีใช้ รธน.ชั่วคราวมาตรา 17 ปกครองและบริหารประเทศ เมื่อถึงอสัญกรรมลง เกิดศึกชิงมรดกภายในครอบครัว มีการเปิดโปงการใช้อำนาจที่ผิดธรรมะ ลูกน้องเก่าของตัวเอง คือ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจรธน.ชั่วคราว มาตรา 21 ยึดทรัพย์จอมพลสฤษดิ์ ฯ 2,300 ล้านบาทเพราะ เป็นเรื่องอื้อฉาว สื่อและประชาชนให้ความสนใจในคดีนี้ จึงเป็นการบังคับให้รัฐบาลจอมพลถนอมต้องเข้าแทรกแซงและสอบสวนเบื้องหลังความมั่งคั่งของจอมพลสฤษดิ์(เป็นการทำ Power play ขจัดสาวกเก่าๆของจอมพลสฤษดิ์)ในปี 2507
และก็เกิดเรื่องทำนองนี้จากกรณี 14 ตุลาคม 2516 เมื่อนิสิตนักศึกษาและประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลทหารยุครัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียรและพันเอก ณรงค์ กิตติขจร และถูกรัฐบาลพระราชทานท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ ใช้อำนาจ มาตรา 21 ยึดทรัพย์ แต่การยึดทรัพย์ครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังจากถูกนักศึกษาประชาชนขับไล่ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งแรงกดดันของสังคมในตอนนั้นทำให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 17 ยึดทรัพย์สินของจอมพลถนอมและพวก รวมมูลค่า 400 กว่าล้านบาท ในปี 2517 แม้ว่าฝ่ายจอมพลถนอม จะต่อสู้เพื่อขอทรัพย์สินคืนโดยการฟ้องศาลแต่ก็ไม่สำเร็จ
กรรมมีจริง เพราะหากว่า "หากคนไม่โลภแล้วเรื่องก็จะไม่แดงขึ้น หากคนยอมรับอำนาจประชาชนที่มีความชอบธรรมและใช้อำนาจบริสุทธิ์ปราศจากการปรุงแต่งด้วยเงินตราและอำนาจแล้ว โดยรัฐบาลจอมพลถนอม ฯลาออกไปตั้งแต่ต้น เรื่องทั้งหมดก็ไม่เกิดขึ้น"
แต่มันเป็นเรื่องของกรรม จึงเกิดปรากฏการณ์ "ธรรมะจัดสรร" และเป็นจริงเหมือนการยึดทรัพย์"ทักษิณ"นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น: