PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

จับตาเคาะโผ 200 เก้าอี้ สภาขับเคลื่อนสภาปฏิรูปประเทศ



07092558 จับตาเคาะโผ 200 เก้าอี้ สภาขับเคลื่อนสภาปฏิรูปประเทศ
และแต่งตั้งกรรมการยกร่าง 21 คน
1. เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) โหวตไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ว่า การดำเนินการต่อไปคงเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญชั่วคราว คือ
คือ คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่จำนวน 21คนภายใน 30 วัน โดยคณะกรรมการยกร่างฯชุดใหม่ จะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใน 180 วัน
จากนั้นเป็นขั้นตอนทำประชามติภายใน 45 วัน....

2. และภายหลังจาก สปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ  สิ่งที่น่าติดตามต่อไปคือการแต่งตั้งสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีอำนาจในการแต่งตั้งไม่เกิน 200 คน ภายในไม่เกิน 30 วัน นับแต่ 6 ก.ย. โดยต้องประกาศรายชื่อไม่เกิน 6 ต.ค.นี้ท่ามกลางกระแสข่าวว่า 

ฝ่าย คสช.เริ่มมีการจัดทำโผรายชื่อไว้บ้างแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมพิจารณาส่งโผให้แกนนำ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณารอบสุดท้ายในเร็วๆ นี้ 
หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า จะมีการแต่งตั้งอดีต สปช.ที่หมดวาระไปแล้วจำนวนหนึ่งกลับเข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ ในสัดส่วน 1 ใน 3 ขณะที่บางกระแสบอกว่าอาจเข้ามาเกือบ 160 คน
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า จะมีการแต่งตั้งข้าราชการที่จะเกษียณในเดือน ก.ย.เข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ รวมถึงอดีตข้าราชการที่มีสายสัมพันธ์กับ คสช. ซึ่งไม่เป็น สนช.และไม่มีตำแหน่งการเมืองเข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ

นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตเลขานุการวิป สปช.กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  การทำงานของสภาขับเคลื่อนฯ ควรมีความเชื่อมโยงกับสภาปฏิรูปฯ ในเรื่องของ
1.การนำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศที่ สปช.ทำเสร็จแล้วมาพิจารณาต่อยอด
2.การเชื่อมโยงโดยตัวบุคคล
"อย่างน้อยควรมีอดีตสมาชิก สปช.ที่เป็นตัวแทนจาก 18 คณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านต่างๆ เข้าไปสานต่อเชื่อมโยง เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจและไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสภาขับเคลื่อนฯ ที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

โดยผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนควรมาจากทุกภาคส่วน ควรมีนักบริหารมืออาชีพจากทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน, การเมือง, วิชาการ, สภาขับเคลื่อนฯ เปรียบเสมือนเวอร์ชันที่ 2 ของ สปช.ในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ" นายอลงกรณ์กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะมีอดีตสมาชิก สปช. 168 คนมานั่งในสภาขับเคลื่อนฯ โดยแลกกับการโหวตไม่รับร่างนั้น เขากล่าวว่า "คงไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯ ได้ยืนยันชัดเจนว่า การลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นอิสระ จะเห็นชอบหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ดุลยพินิจ ดังนั้นจึงไม่ได้มีเงื่อนไขเกี่ยวข้องกับรายชื่อของสภาขับเคลื่อนฯ แต่อย่างใด".

ไม่มีความคิดเห็น: