07092558 จับตาเคาะโผ 200 เก้าอี้ สภาขับเคลื่อนสภาปฏิรูปประเทศ
และแต่งตั้งกรรมการยกร่าง 21 คน
และแต่งตั้งกรรมการยกร่าง 21 คน
1. เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) โหวตไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ว่า การดำเนินการต่อไปคงเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญชั่วคราว คือ
คือ คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่จำนวน 21คนภายใน 30 วัน โดยคณะกรรมการยกร่างฯชุดใหม่ จะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใน 180 วัน
จากนั้นเป็นขั้นตอนทำประชามติภายใน 45 วัน....
คือ คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่จำนวน 21คนภายใน 30 วัน โดยคณะกรรมการยกร่างฯชุดใหม่ จะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใน 180 วัน
จากนั้นเป็นขั้นตอนทำประชามติภายใน 45 วัน....
2. และภายหลังจาก สปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ สิ่งที่น่าติดตามต่อไปคือการแต่งตั้งสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีอำนาจในการแต่งตั้งไม่เกิน 200 คน ภายในไม่เกิน 30 วัน นับแต่ 6 ก.ย. โดยต้องประกาศรายชื่อไม่เกิน 6 ต.ค.นี้ท่ามกลางกระแสข่าวว่า
ฝ่าย คสช.เริ่มมีการจัดทำโผรายชื่อไว้บ้างแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมพิจารณาส่งโผให้แกนนำ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณารอบสุดท้ายในเร็วๆ นี้
หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า จะมีการแต่งตั้งอดีต สปช.ที่หมดวาระไปแล้วจำนวนหนึ่งกลับเข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ ในสัดส่วน 1 ใน 3 ขณะที่บางกระแสบอกว่าอาจเข้ามาเกือบ 160 คน
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า จะมีการแต่งตั้งข้าราชการที่จะเกษียณในเดือน ก.ย.เข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ รวมถึงอดีตข้าราชการที่มีสายสัมพันธ์กับ คสช. ซึ่งไม่เป็น สนช.และไม่มีตำแหน่งการเมืองเข้ามาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตเลขานุการวิป สปช.กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การทำงานของสภาขับเคลื่อนฯ ควรมีความเชื่อมโยงกับสภาปฏิรูปฯ ในเรื่องของ
1.การนำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศที่ สปช.ทำเสร็จแล้วมาพิจารณาต่อยอด
2.การเชื่อมโยงโดยตัวบุคคล
"อย่างน้อยควรมีอดีตสมาชิก สปช.ที่เป็นตัวแทนจาก 18 คณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านต่างๆ เข้าไปสานต่อเชื่อมโยง เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจและไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสภาขับเคลื่อนฯ ที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
1.การนำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศที่ สปช.ทำเสร็จแล้วมาพิจารณาต่อยอด
2.การเชื่อมโยงโดยตัวบุคคล
"อย่างน้อยควรมีอดีตสมาชิก สปช.ที่เป็นตัวแทนจาก 18 คณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านต่างๆ เข้าไปสานต่อเชื่อมโยง เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจและไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสภาขับเคลื่อนฯ ที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
โดยผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนควรมาจากทุกภาคส่วน ควรมีนักบริหารมืออาชีพจากทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน, การเมือง, วิชาการ, สภาขับเคลื่อนฯ เปรียบเสมือนเวอร์ชันที่ 2 ของ สปช.ในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ" นายอลงกรณ์กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะมีอดีตสมาชิก สปช. 168 คนมานั่งในสภาขับเคลื่อนฯ โดยแลกกับการโหวตไม่รับร่างนั้น เขากล่าวว่า "คงไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯ ได้ยืนยันชัดเจนว่า การลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นอิสระ จะเห็นชอบหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ดุลยพินิจ ดังนั้นจึงไม่ได้มีเงื่อนไขเกี่ยวข้องกับรายชื่อของสภาขับเคลื่อนฯ แต่อย่างใด".
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น