PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

เมื่อเห็นภัย "คนไทย" ก็ต้องผนึก เปลว สีเงิน



04092558 เมื่อเห็นภัย "คนไทย" ก็ต้องผนึก เปลว สีเงิน

มีคำพูดว่า "ไม่มีการก่ออาชญากรรมรายไหนที่อาชญากรจะไม่ทิ้งร่องรอยให้ประกบแกะ"
ผมว่าจริง พันเปอร์เซ็นต์!

อย่างกรณีบอมบ์ราชประสงค์ จับรายแรก เมื่อ ๒๙ ส.ค. ที่ใช้พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เป็นแหล่งผลิตระเบิด

ด้วยร่องรอย ตามไปค้นหอพักไมมูณา ซอยราษฎร์อุทิศ ๒๕/๘ ย่านมีนบุรี พบความเชื่อมโยงด้วยหลักฐานประจักษ์

ออกหมายจับนางไมซาเลาะห์ หรือนางวรรณา กับสามี ผู้เช่าห้อง ที่อ้างว่าตอนนี้อยู่ตุรกี แต่จริงๆ แล้ว หลบอยู่ไหน ไม่มีใครรู้

และด้วยร่องรอยนั้น ตำรวจออกหมายจับชายต่างชาติร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอีก ๒!

๑ ก.ย.๕๘ กองกำลังบูรพา รวบตัวต่างชาติ "คล้ายชายเสื้อเหลือง" ตรงรอยตะเข็บไทย-เขมร ที่สระแก้วได้อีก ๑ คน ใช้ ม.๔๔ คุมตัวสอบ

และเมื่อวาน (๓ ก.ย.) นำเข้าสู่ระบบ โดยตำรวจขอศาลออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา ปรากฏชื่อ "นายไมไรลี ยูซุฟ" เชื้อชาติจีน ข้อหาร่วมขบวนการวางระเบิดย่านราชประสงค์

ย้อนไปวันที่ ๑-๒ ก.ย.๕๘.....!

หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส รับการประสานจากส่วนกลาง ไปคุมตัวนายกามารุเด็ง อายุประมาณ ๓๘ ภูมิลำเนาอยู่สุไหงโก-ลก นราธิวาส มาสอบปากคำ

เพราะด้วยร่องรอยที่ฝ่ายปฏิบัติการเฉพาะกิจ "ทหาร-ตำรวจ" ประกบแกะ พบเส้นทางเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ ระหว่างนายกามารุเด็งกับนางไมซาเลาะห์  ก็ต้องคุยกันหน่อย!

ที่ผมเรียงเหตุการณ์มานี้ ก็เพื่อให้เห็นชัดๆ ว่า ขบวนการเป็นปฏิปักษ์ต่อชาตินี้ เส้นทางพวกเขา หมุนวนอยู่ในวงจร ระหว่าง  หนองจอก-ราษฎร์อุทิศ มีนบุรี-นนทบุรี-นราธิวาส!

เมื่อพลิกปูมปฏิบัติการขบวนการบ่อนทำลายชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๓ เรื่อยมา จะพบความสอดคล้อง
๕ ตุลา ๕๓ เช่าสมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง นนทบุรี ใช้เป็นแหล่งประกอบระเบิด และพลาด เกิดระเบิดใส่ตัวเอง ตายไป ๔ คน

ตามบันทึกการสอบสวนตำรวจระบุ...........

"ห้องต้นเหตุเป็นของนายสมัย วงศ์สุวรรณ์ อดีตการ์ด....(ไม่ต้องระบุก็รู้..เนอะ) เป็นคนประกอบระเบิด
สอบสวนโยงใยถึงผู้เกี่ยวข้อง ออกหมายจับ ๒ คน คือ...
- นายกษิ ดิฐธนรัชต์ นักธุรกิจปุ๋ยยูเรียข้ามชาติ ค้าขายอยู่แถวตะวันออกกลาง มีหลักฐานการโอนเงินให้นายสมัย ครั้งละ ๑๐,๐๐๐-๒๕,๐๐๐ บาท
- นางอัมพร หรือลัดดา หรือครูแขก ใจก้อน ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด ในลักษณะหญิงอยู่ในชุดมีผ้าคลุมหัว คล้ายชาวมุสลิม
ครูแขกนี้ ต่อมาตำรวจตามจับได้ หลบไปซ่อนตัวอยู่หางดง เชียงใหม่!

ส่วนายกษิ มีความคล้ายคลึงด้านเชื่อมโยงเป็นร่องรอยน่าสนใจมาก เดี๋ยวค่อยคุยกัน และตอนนี้ก็ยังไม่พบตัว

กรณีสมานเมตตาแมนชั่น นอกจากออกหมายจับ ๒ คนนั้นแล้ว ยังเรียกไปสอบอีก ๒ คน คือนางสาวนะทัน คนใกล้ชิดนายกษิ

และนายยา เจ้าของรถปิกอัพวีโก้ ทะเบียน กค-3898 นราธิวาส ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ขับมาหานายสมัยที่สมานเมตตาแมนชั่นหลายครั้ง

ที่ยกประเด็นตรงนี้มาให้ดู เพราะทั้ง ๔ คน มีภูมิลำเนาอยู่นราธิวาส โดยเฉพาะนายกษิ เป็นคนตากใบ เปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนสกุล ๔-๕ ครั้งมาแล้ว

เขากับครูแขก เป็นคนพานายสมัย "มือประกอบระเบิด" มาเช่าห้องสมานเมตตาแมนชั่น!

ในบันทึกคดีของตำรวจ ยังพบผู้เกี่ยวข้องอีกราย คือ น.ส.วสา เจ้าหน้าที่รัฐสภา

หลังเกิดเหตุ หายตัวไปจากบ้าน!

น.ส.วสา เป็นเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร สมัยนั้น

ตำรวจพบความเกี่ยวข้อง เป็นผู้โอนเงินให้นายกษิ และบางครั้งรับจากนายกษิโอนให้คนอื่นๆ

จากตุลา ๕๓ ที่สมานเมตตาแมนชั่น บางบัวทอง นนทบุรี

ก็มาถึง มีนา ๕๗ ระหว่าง กปปส.ชุมนุม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เกิดระเบิดระหว่างซอยราษฎร์อุทิศ ๒๕-๒๗ มีนบุรี

มือประกอบระเบิดชาวขอนแก่นและแพร่ ตาย ๒ คน ซึ่งรัฐมนตรีเฉลิมให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นว่า พลาดเอง...เป็นแค่คนคึกคะนองเท่านั้น

ก็โปรดสังเกต.....!

บ้านเช่าย่านซอยราษฎร์อุทิศ มีนบุรี ถูกขบวนการปฏิปักษ์ชาติใช้เป็นแหล่งประกอบวัตถุระเบิดต่อเนื่องจากมีนา ๕๗ มีคนเช่าบ้านซอยราษฎร์อุทิศ ๒๕ ให้มือประกอบใช้เป็นแหล่งผลิตระเบิด พลาดเองตาย ๒ ศพ ขณะนำระเบิดที่ประกอบไปปฏิบัติการ

๓๐ สิงหา ๕๘ มีคนเช่าห้องหอพักไมมูณา ซอยราษฎร์อุทิศ ๒๕/๘ มีนบุรี เป็นแหล่งซ่องสุมและเก็บวัตถุประกอบระเบิด

๓ กันยา ๕๘ คือเมื่อวาน ทหาร-ตำรวจ ไปค้นบ้านเช่าในหมู่บ้านขุมทรัพย์แลนด์ ซอยราษฎร์อุทิศ ๓๔ พบสารเคมีเหลว ๗ แกลลอน แต่ไม่พบใคร

เหตุที่ไปค้น ก็ตามร่องรอยที่ระบุบ่ง นางวรรณาหรือไมซาเลาะห์ เป็นผู้เช่าบ้านหลังนี้!

ก็จะเห็นความบังเอิญที่เชื่อมโยง "สถานที่" เหตุการณ์ในอดีตปี ๕๓, ๕๗ กับเหตุการณ์ ปี ๕๘ ในปัจจุบัน ที่หน้าศาลท่านท้าวมหาพรหม

ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ ผู้เช่าบ้านซอยราษฎร์อุทิศ ๒๕ ให้ผลิตระเบิด นั้น ใช้ชื่อในการเช่าว่า
"นายอ่าว อิสระส์" มีบัตรอาสาสมัครตำรวจบ้าน จังหวัดราชบุรี เป็นหลักฐาน

ฝ่ายสืบสวนนำภาพถ่ายในบัตรเข้าสู่ปูมประวัติ ปรากฏว่า นายอ่าว อิสระส์ นั้น ก็คือ...
"นายกษิ ดิฐธนรัชต์"!! พ่อค้าปุ๋ยยูเรียส่งออกย่านตะวันออกกลาง ผู้มีความเคลื่อนไหวอยู่ตามชายแดน ภูมิลำเนาอยู่ตากใบ นราธิวาส

เป็นนายกษิที่เช่าห้องสมานเมตตาแมนชั่นให้นายสมัย วงศ์สุวรรณ ประกอบระเบิด และพลาดตาย ๔ ศพ นั่นเอง!
เห็นมั้ย....?

ตัวละครหลัก-สถานที่ ไม่เปลี่ยนไปไหน เพียงแต่มีตัวแสดงเป็น "คนต่างชาติ" ออกหน้าฉากเท่านั้น!

ทั้งโลก...พอใจปฏิบัติการไล่ล่ามือบอมบ์ราชประสงค์ มีคนเดียว เป็นคนอาศัยแผ่นดินไทยเกิดเสียด้วย ตัวไทย แต่ใจ...ไม่รู้เขา

ชื่อนายสุณัย ผาสุข ในกระดองฮิวแมนไรต์วอตช์!

เขาไม่เคยออกมาพิทักษ์สิทธิมนุษยชนเพื่อคนตาย-คนเจ็บ หรือเพื่อประชาชนในกรณีนี้เลย

ครั้นจับผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหา นายสุนัยโผล่หัวออกมาแสดง "ตัวไทย-ใจนอกชาติ"

ยกสิทธิมนุษยชน "พิทักษ์โจร"

เหมือนทุกครั้งที่ใช้กระดองฮิวแมนฯ พิทักษ์คนระบอบทักษิณที่ออกมาป่วนเมือง.....

ครั้งนี้ เขาออกมาต้านการใช้ ม.๔๔ เพื่อการสืบสวน-สอบสวน!

ผมพูดเอง ไม่มีมาตรฐานทางการเชื่อถือ เมื่อวาน (๓ ก.ย.) มีคนพูดเป็นมาตรฐานเชื่อถือในประเด็นนี้ คือ
"นายวันชัย รุจนวงศ์" อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ.....!

ท่านกล่าวถึงกรณีนายสุนัย ออกมาสามหาวกรณีที่รัฐบาลใช้มาตรา ๔๔ คุมตัวและสอบสวนผู้ต้องหา ท่านให้เหตุผลนี้ว่า

"จุดมุ่งหมายการใช้กฎหมายพิเศษ เพราะการก่อการร้ายมีผลกระทบมากกว่าอาชญกรรมทั่วไป
อย่างระเบิดแยกราชประสงค์ การจับกุมสอบสวนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหากไม่ได้ดำเนินการควบคุมตัวสอบสวนได้ทันท่วงที ก็ยังค้นพบระเบิดที่สามารถก่อเหตุได้อีก

ฉะนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือการสืบสวนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมดกี่คน และจับกุมตัวโดยใช้กฎหมายพิเศษ

ซึ่งหากใช้กฏหมายธรรมดาที่ควบคุมตัวไว้ได้แค่ ๔๘ ชั่วโมง แล้วต้องส่งฝากขังที่ศาล แล้วเกิดได้รับการประกันตัวออกไป ก็อาจเกิดเหตุต่อเนื่องได้ เราจึงต้องมีกฎหมายลักษณะพิเศษในเรื่องการก่อการร้าย
การที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ออกมาพูดนั้น แสดงถึงเจตนาไม่ดี ไม่หวังดี และไม่มีเจตนาที่บริสุทธิ์

องค์กรนี้เป็นองค์กรที่รับทุนจากต่างประเทศแถบยุโรป การออกมาพูด คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่ ทีกรณีที่ทางสหรัฐอเมริกามีการจับกุมตัว และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง ที่คุกอ่าวกวนตานาโมนั้น องค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์เคยออกมาพูดอะไรบ้างหรือไม่

เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องสนใจรับฟังองค์กรนี้ออกมาพูดแต่อย่างใด และแม้เราจะไม่รับฟัง ก็จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทยแต่อย่างใด ตราบใดที่เรายังไม่ได้ละเมิดกติการะหว่างประเทศ และไม่ได้มีการสอบสวนที่เป็นการละเมิดสิทธิ หรือทรมาน ก็จะไม่มีปัญหาอะไร"

เยี่ยม...มีข้าราชการเช่นท่าน ประชาชนอุ่นใจ ประเทศชาติไปรอดครับ.

ไม่มีความคิดเห็น: