PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังของสหรัฐฯและพันธมิตรบุกซีเรีย

เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังของสหรัฐฯและพันธมิตรบุกซีเรีย แฉโดยอดีตวุฒิสมาชิกชาวอเมริกันเองเลยนะครับ
-----------
Ron Paul และ Daniel McAdams อธิบายว่าทำไมนาง Samantha Power เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นถึงพยายามสร้าง propaganda ตบตาประชาชนชาวอเมริกันด้วยนิทานที่แต่งขึ้นเอง (fabricated tales) เกี่ยวกับการดำเนินการทางกองทัพของรัสเซียในซีเรีย
ด็อกเตอร์ Ron Paul อดีตสมาชิกสภาคองเกรสพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ และนาย Daniel McAdams ผู้อำนวยการสถาบัน Ron Paul Institute for Peace and Prosperity ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ยุทธศาสตร์ต่างๆของสหรัฐฯในตะวันออกกลางเกี่ยวกับนัยสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศต่างๆเช่น ลิเบีย อัฟกานิสถาน และซีเรีย
McAdams กล่าวว่า "แถลงการของนาง Samantha Power เกี่ยวกับซีเรียในตอนหนึ่งซึ่เธอกล่าวว่า 'มันไม่ใช่ยุทธศาสตร์เพื่อชัยชนะ (it’s not a winning strategy)' นั้นช่างเป็นเรื่องที่น่าขบขัน (comical ตลกรับประทานเหลือหลาย) เพราะว่าหล่อนไม่เคยสร้างยุทธศาสตร์เพื่อชัยชนะเลย หล่อนเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญหลายคน (big voices) ที่ชอบนำระบบประชาธิปไตยไปสู่ลิเบียและมันก็ไม่ได้ผลเป็นอย่างมากซะด้วย" (นี่นักวิชการของสหรัฐฯเขาออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับความล้มเหลวในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯที่มีต่อลีเบียนะ)
MaAdams กล่าวต่ออีกว่า "รายงานที่มีการเปิดเผยเมื่อเดือนกรกฎาคมจากคณะกรรมการด้านข่าวกรองของสหรัฐฯบอกว่าการโจมตีของสหรัฐฯต่อผู้ก่อการร้ายไอซิสมีประสิทธิ์ผลน้อยมาก (had very little effect) หลังจากมีการเผยแพร่รายงานฉบับนี้ออกมา หลายคนได้ออกมากล่าวอ้าง (แก้ตัว) ว่าสหรัฐฯถูกดิสเครดิต เช่นอัสซาดรมแก๊สประชาชนของตัวเองตามที่มีการกล่าวหา"
"ในปี 2013 สหัฐฯเกือบจะโจมตีอัสซาดโดยตรงสำหรับข้อกล่าวหานี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าข้อกล่าวหา (ที่ใส่ความอัสซาด) ไม่เป็นความจริงซักแอะเดียว แต่นาง Samantha Power ก็ยังพูดย้ำๆอยู่ว่าหากมันเป็นความจริง มันก็เป็นการสร้าง propaganda จริงๆ" (กรรม! นี่เขาปั้นเรื่องสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดตั้งแต่ปี 2013 แล้วหรือนี่? จำได้ว่าตอนนี้ทั้งสื่อฯสหรัฐฯและสื่อฯตะวันตกมีการประโคมข่าวว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนเสียชีวิตไปมากมาย แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่ ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการกลางจากยูเอ็นเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว รัสเซียก็ส่งคนของตนเองเข้าไปร่วมพิจารณาด้วย เพราะไม่ไว้ใจสหรัฐฯและพรรคพวก นี่เป็นเรื่องการเมืองที่ใช้ชีวิตประชาชนชาวซีเรียเป็นเครื่องมือ ก็คล้ายกับกรณีของเครื่องบิน MH317 ของมาเลเซียที่ตกในยูเครนตะวันออกเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2557 นั่นแหละ มีการกล่าวหารัสเซียมาโดยตลอดเพื่อจะดึงมาสู่เกมการเมืองในความขัดแย้งของยูเครนให้ได้ และเพื่อที่จะได้ประนานและแซงชั่นรัสเซีย แต่จนบัดนี้คณะกรรมการที่พิสูจน์หลักฐานก็ยังไม่กล้าชี้ชัดออกมาซักที)
ส่วนดร. Ron Paul ได้กล่าวว่า "ข้อกล่าวหาเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง (pretext) ในการตำหนิรัสเซีย และสร้างความเป็นปรปักษ์ (animosity) ระหว่างนาโต้กับรัสเซียขึ้นมา ซึ่งมันก็ได้ผลและขยายความรุนแรงต่อไปยังส่วนต่างๆของยุโรป เช่นยูเครนและลัตเวีย ซึ่งเป็นประเทศที่สหรัฐฯกำลังจะเอาขีปนาวุธแบบ cruise missiles เข้าไปติดตั้งไว้ มันเป็นส่วหนึ่งของโครงการ" (เป็นไงครับ พฤติกรรมพระเอกหนังฮอลลิวูดกับโลกแห่งความเป็นจริง สุดๆ สุดจะพรรณาครับท่าน!)
McAdams กล่าวเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ (US airstrikes) ในซีเรียว่า "มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเฉพาะในซีเรียประเทศเดียวถึง 2,500 ครั้ง พวกเขาได้ทำลายโรงงานต่างๆ และระบบสาธารณูปโภค และสถานที่ทางธุรกิจต่างๆ นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ประชาชน (ชาวซีเรีย) พากันหลบหนีออกไปเนื่องจากความสิ้นหวังโดยสิ้นเชิงทางเศรษฐกิจ" (กรรม! พฤติกรรมแบบนี้สหรัฐฯและนาโต้เคยใช้มาก่อนในการถล่มโคโซโว ( Kosovo War : 28 ก.พ.1998-11 มิ.ย.1999) ในยุคบิล คลินตันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งโคโซโวเละพอๆกับเมือง Kobani ของซีเรียนั่นแหละ กลายเป็นป่าช้าซากปรักหักพังคอนกรีดที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้อีกต่อไป ให้โอบาม่ายกทำเนียบขาวไปอยู่ที่นั่นเอาไหม?)
McAdams กล่าวต่ออีกว่า "ถ้าคุณฟังนัง Samantha Power (พูด) คุณก็จะชี้ชัดออกมาได้ว่าหากสหรัฐฯไม่หนุนหลังการเปลี่ยนแปลงระบบนี้ (โค่นประธานาธิบดีอัสซาด) มากพอแล้วหละก่อ มันก็จะกลายเป็นว่าประเทศนี้ได้เข้าสู่ความวุ่นวายถึงที่สุด" (ฮึ่ม! นี่ยังไม่วุ่ยวายหายนะพออีกหรือไง? ยังจะมีที่สุดของที่สุดกว่านี้อีกรึ? นักการเมืองอเมริกันพวกนี้ที่ชอบออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพตอนทางการของประเทศต่างๆจับโจรได้เขาเห็นชีวิตพลเมืองของประเทศอื่นเป็นผักปลาไปหมดหรือไง?)
Ron Paul ตั้งข้อสังเกตว่า "ผลประโยชน์ในทรัพยากรธรรมชาติของซีเรียอาจจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงของการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในกิจการต่างๆของประเทศนั้น" (นั่นไง! ความจริงเริ่มปรากฎออกมาแล้ว ผู้ก่อการร้ายไอซิสก็แค่ตัวละครตัวหนึ่งที่จักรวรรดิเฮเกยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการยึดพื้นที่บางส่วนของซีเรียและรุกรานซีเรียเท่านั้นเอง)
Ron Raul กล่าวต่ออีกว่า "มันกลายเป็นยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯเพื่อพยายามลดอิทธิพลด้านภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซียและวิธีหนึ่งที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็คือลดความสำคัญของท่อน้ำมันของรัสเซียที่จะส่งไปยังยุโรปตะวันตก ซีเรียถือว่าเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในแนวเส้นท่อเหล่านี้ ดังนั้น นี่จึงเป็นการแยกรัสเซียและอิหร่านในระดับหนึ่ง" (ย่อหน้าต่อไปเด็ดกว่านี้อีก แฉให้หมดเปลือก ปอกให้เกลี้ยงกันไปเลย โดยคนอเมริกันด้วยกัน)
อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯที่ชื่อ Ron Paul คนนี้กล่าวต่อไปอีกว่า "เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาก็คือน้ำมัน (Their real goals are oil) แนวท่อ (แก๊ส) และภูมิรัฐศาสตร์หลังจากที่กำจัดอัสซาดออกไปได้แล้ว หากคุณมองไปที่ภูมิภาคทั้งหมด (ก็จะเป็นว่า) นโยบายของพวกเรา (รัฐบาลอเมริกัน) ไม่ได้ผล ขบวนการผู้ก่อการร้ายไอซิสเป็นผลมาจากสิ่งที่สหรัฐฯได้ก่อไว้ในตะวันออกกลาง" (นี่เขาพูดแบบรักษาหน้าประเทศของเขาเองอยู่นะ โดยไม่บอกว่าใครสร้างไอซิสขึ้นมา บอกแต่ว่ามันเป็นผลจากการกระของสหรัฐฯที่ไปทำไว้ในตะวันออกกลาง แล้วสหรัฐฯไปทำอะไรไว้ในตะวันออกกลางหรือถึงได้มีไอซิสโผล่ขึ้นมามากมายขนาดนั้น คุณเอาเม็ดพันธุ์ข้าวโพดฝังลงไปในดินจากนั้นก็รดน้ำใส่ปุ๋ยดูแลอยู่ประจำ แล้วมันจะงอกและเติบโตขึ้นเป็นต้นแอ็ปเปิลได้หรือเปล่า? ผู้มีสติปัญญาย่อมเข้าใจว่า Ron Paul หมายถึงอะไร)
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
18/09/2558
----------
http://sputniknews.com/…/us-syria-regime-interest-oil-pipel…

ไม่มีความคิดเห็น: