PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

"บิ๊กตู่"เหน็บ ยุคก่อนหน้า ตอบ Yes รับปากทำฝรั่งงง

"บิ๊กตู่"เหน็บ ยุคก่อนหน้า ตอบ Yes รับปากทำฝรั่งงง แต่ไม่เคยทำน่าโมโห ย้ำไม่อยากเป็นอำนาจใหม่ ยั้วะพวกบอกไม่ต้องมีทหาร เพราะ"ทหารไม่ทำอะไรปฏิวัติอย่างเดียว แล้วพวกมึงทำเลวกันรึเปล่าเล่า ถ้าทำดีแล้วใครจะทำ ทำดีแล้วผมจะมายืนตรงนี้ทำไม ผมเองอายเขา เสี่ยงทุกอย่างเข้ามา แล้วมาพูดกันอย่างนี้มาชกปากกันมั้ย"/ ไอเดียกระฉูด สร้างแบรนด์ของรัฐบาล ยาสีฟันยี่ห้อ “สมคิด” /ระบุ เป็นนายกฯที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้ ใจร้อน เร่งแก้ปัญหาชาติ

ที่ อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถา หัวข้อ "ขับเคลื่อน SMEs ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย" ที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
นายกรัฐมนตรี บ่นเจ็บคอพูดมาก แต่พูดยาวกว่าชม. โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ผมเป็นคนใจร้อน แต่วันนี้ดีขึ้นมาก เพราะเห็นทุกคนมีรอยยิ้ม ในฐานะที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ก็พยายามที่จะทำทุกอย่าง ตั้งใจที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชนทุกคน มีความเจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งโดยเร็วที่สุด ที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปมากแล้ว ไม่ค่อยขยับเขยื้อนเท่าไร
"แต่ก็อาจจะเหมาะกับสถานการณ์ก็ได้ ที่ได้คนใจร้อนอย่างผมมายืนตรงนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไปกันอย่างเรื่อยเปื่อย "
"ผมก็พยายามลดบทบาทตัวเองให้มากที่สุด พยายามที่จะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ทำไม่ได้หากเรามีความพยายามจะได้มากได้น้อยก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำเลย มัวแต่นั่งและนอนบ่นรอโชคชะตา แล้วมันจะเกิดได้อย่างไร "
ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะดูแลทุกฝ่ายไม่ได้เลือกกลุ่มไหนเพราะผมไม่ได้เป็นรัฐบาลที่เป็นพรรคการเมือง พยายามเร่งรัดทุกอย่างให้เร็วที่สุด วันนี้ตนพยายามใช้คนที่มีความรู้มาทำงานให้กับทุกคน ซึ่งร่วมทั้งตนที่เป็นพวกอยู่ข้างล่างด้วย และทุกคนต้องรู้ว่าประเทศเราจะเดินต่อไปอย่างไร มีกลไกอย่างไรบ้าง ไม่เช่นนั้นแต่ละคนก็ต้องการได้ในสิ่งที่ตนเองทำอย่างเดียว ทำให้ประเทศไทยติดกับอยู่แค่ตรงนี้ ถ้าเราไม่รวมพลังกันปัญหาทุกอย่างไม่มีทางผ่านพ้นไปได้

ยายกฯแนะว่า วันนี้ต้องคิดผลิตสินค้าภายใต้แบรนของตัวเอง และผู้ผลิตต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองในการผลิตสินค้า เวลานี้กำลังให้คิดดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพเป็นของรัฐบาลเอง

"อาจจะมียาสีฟันยี่ห้อ “สมคิด” ขึ้นมา ใช้แล้วฟันขาว เพื่อขายประชาชนในราคายุติธรรม แต่อย่าไปมีผลกระทบกับธุรกิจขนาดใหญ่"

"ต้องเรียนรู้ให้มาก เหมือนผมที่เป็นทหาร เข้ามาก็ต้องหาความรู้กับพวกพี่ๆ ทุกวันนี้หลายกองทุนมีการสนับสนุนไปก็ยังมีปัญหา เพราะเรามีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่ยังสู้ไหว ตราบใดที่ได้รับรอยยิ้มจากท่าน ผมสู้เสมอ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ใครที่ทำให้ท่านมากที่สุด จะดีหรือไม่ดี ก็ยังดีกว่าไม่แสดงออกมาเลย "

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่จิตใจมีแต่ให้ คิดถึงคนอื่นมากกว่า ทรงตรัสว่าต้องคิดถึงคนอื่นให้มาก ตลอเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชามาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นความสำคัญที่สถาบันมีต่อพวกเรา วันนี้ท่านก็ทรงแข็งแรงน้อยลงก็ต้องช่วยกันดูแล อย่าให้ท่านมีภาระไปมากกว่านี้เลย

เราต้องนึกถึงอนาคตว่าจะเดินอย่างไรต่อไป ใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่ใช้เวลาที่มีโต้แย้ง ขัดแย้ง จะเอานี้เอาโน่นไม่มีใครทำได้ และจะเป็นบ่อเกิดของการทุจริต ซึ่งแบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าเป็นการแบ่งแยกการปกครอง วันนี้ผมไม่ได้แบ่งใครเลย ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง ต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และปี 58-59 ต้องขับเคลื่อนให้ได้ ไม่ต้องรอปี 60-61หรือ 10 ปีข้างหน้า เพราะแค่วันนี้ยังไม่เกิดเลย

“สมัยก่อนมีคนเล่าให้ผมฟัง เวลาประชุมต่างประเทศ พูดภาษาอังกฤษ เขาพูดอะไรก็ตอบรับว่า Yes yes พอถึงเวลาก็ไม่ทำ ฝรั่งก็ถามว่าแล้วตอบรับว่า yes ทำไม แล้วก็ไม่ทำ ตรงนี้คือส่ิงที่เกิดขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้าที่ผมเข้ามานี่แหละ ว่าจะไม่พูดแล้ว แต่ก็พูดจนได้ เวลาไปประชุมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเขาหรอก พอเขาถามอะไรก็ตอบไม่ได้ มันน่าโมโหไหม

ผมไม่ได้เก่ง แต่อะไรที่ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่เหมือนไอ้พวกปากเก่งหรอก ซึ่งเรื่องมันเยอะ ผมต้องพูด

" วันนี้กลับก็ต้องไปเตรียมตัวต่อสู้ จะช่วยผมไหม ขอกำลังใจ ผมไม่ต้องการเป็นอำนาจใหม่ อย่าตีกันอีก พอได้แล้วทุกอย่างต้องเข้ากระบวนการปรองดองด้วยกฎหมาย
วันนี้รักใครชอบใคร ผมไม่ว่า แต่ส่ิงที่สำคัญสุดคือประเทศชาติ ขอโทษที่เอาทุกคนมาเสี่ยงกับความล้มเหลว ความสำเร็จ”นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีการขาดแรงงานเพราะคนเรียนจบปริญญาตรีกันเยอะแล้วไม่มีงานทำ แต่เรายังขาดกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ไม่ค่อยมีพ่อแม่ส่งไปเรียนนัก เพราะกลัวตาย ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมเก่งกาจกันนัก ชาติก่อนเป็นทหารกันหรือไง ผมจะลงโทษก็ไม่ได้ไปละเมิดสิทธิเขา สรุปคุมกันไม่ได้ซักเรื่อง

ประเทศไหนที่เจริญแล้วต้องมีวินัยคนในชาติก่อนจะได้ไม่มีเรื่องเหล่านี้ ประเทศอื่นไม่มีเอาปืนยิงกัน ไม่มีเอาระเบิดขวางกันเพราะเขามีวินัย รัฐบาลไม่ต้องทำอะไร สู้กันให้ตาย พอจบเลือกตั้งเสร็จก็เลิก แต่บ้านเราไม่เลิก พอสู้กันเสร็จก็เรียกพวกมา เอาอาวุธมา สุดท้ายก็ประชาชนตายทั้งนั้น อย่าให้เกิดขึ้นอีกแล้วกัน

" ยิ่งมีเรื่องร้ายทำให้เรารักกัน ไม่ใช่ยิ่งร้ายแล้วต้องทะเลาะกันมันไปไม่ได้ ทุกอย่างจะแย่ไม่แย่อยู่ที่เราไม่ตระหนกไม่ขวัญเสียไม่พูดจาให้ด้อยค่ากันเอง ถึงมันจะเป็นเรื่องอย่างนี้แต่บางอย่างมันเป็นเรื่องที่ต้องแก้กันให้ได้ เกิดตรงนี้ต้องแก้ตรงนี้ไม่ใช่ด่ากันทั้งหมด ไม่รู้จะแก้อย่างไรของใหม่ก็ต้องแก้กันอีก เศรษฐกิจก็ตกความเชื่อมั่นการลงทุนก็ตก ตนไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมา มันไม่มีอะไรสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามว่าใครมีอะไรสงสัยหรือไม่ โดยหันไปถาม 
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบ.ช.น.1 ว่า “ พี่นวย มีปัญหาอะไรหรือไม่ ตอนนี้ตำรวจดีๆมีเยอะ ถ้าไม่มีตำรวจน่ะยิ่งกว่านี้ ทุกอย่างมันอยู่ที่คนสั่ง อย่าไปเกลียดชังเขาเลย ถ้าไม่มีตำรวจไปจ้างยามเอามั้ย
"มีคนเสนอว่าไม่ต้องมีตำรวจ ไม่ต้องมีทหาร มีมาทำไม ทหารไม่ทำอะไรปฏิวัติอย่างเดียว แล้วพวกมึงทำเลวกันรึเปล่าเล่า ถ้าทำดีแล้วใครจะทำ ทำดีแล้วผมจะมายืนตรงนี้ทำไม ผมเองอายเขา เสี่ยงทุกอย่างเข้ามา แล้วมาพูดกันอย่างนี้มาชกปากกันมั้ย"

ไม่มีความคิดเห็น: