PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

"พลเอกประวิตร" ถกศมบ.-หน่วยความมั่นคง ปรับแผน ในรอบ1 ปี ศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ หลังเหตุระเบิด


"พลเอกประวิตร" ถกศมบ.-หน่วยความมั่นคง ปรับแผน ในรอบ1 ปี ศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ หลังเหตุระเบิด มอบนโยบาย 6 ข้อ ผบ.ใหม่ ร่วม ปกป้องสถาบัน สนับสนึนรัฐบาล เดินตามโรดแมพ เดินหน้าจัดระเบียบต่อ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯและ รมว.กห. ได้ประชุมศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศมบ.) ทึ่ ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รมช.กห. พลเอกสมหมาย เกาฏีระ ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทนกระทรวงต่างๆ เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา โดย ศมบ. จัดตั้งขึ้นเมื่อ 1 ต.ค.57 จากดำริของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงได้มีการบูรณาการ ติดตาม อำนวยการ ประสานงานการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติร่วมกัน เพื่อให้มีความรวดเร็ว เกิดประสิทธิภาพ และทันต่อเหตุการณ์
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. กล่าวว่าศมบ. ได้สรุปผลการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานสำคัญรอบปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย
• การเพิ่มมาตรการป้องกันในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ใน กทม.ควบคู่กับการติดตั้งไฟสาธารณะในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อมาตรการป้องกันและการติดตามคดีสำคัญๆ ที่ผ่านมา
• การจัดระเบียบสังคม เช่น หาบเร่ แผงลอย การแข่งรถในที่สาธารณะ แหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษา ขอทานและคนเร่ร่อนจรจัด เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการสัญจรของประชาชนส่วนใหญ่
• การจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยวและสร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เช่น การดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสำคัญ การรักษาความปลอดภัยบริเวณศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญ เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว
• การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหายาเสพติด ปัญหาตัดไม้ทำลายป่า ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง เป็นต้น ซึ่งเป็นการทำลายขบวนการอิทธิพลนอกกฏหมายและการคืนทรัพยากรธรรมชาติให้กับสังคม
• การขับเคลื่อนงานความมั่นคงด้านต่างประเทศ เช่น การสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับต่างประเทศและประชาชน ในการแก้ไขปัญหา IUU ปัญหาการค้ามนุษย์ รวมทั้งการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการยกระดับและสร้างมาตรฐานสากลในเวทีโลก
• การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น การแก้ปัญหาการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม เป็นต้น รวมทั้งการสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องต่าง ๆ
พลเอกประวืตร ได้กล่าวย้ำว่า “ การแก้ปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง จำเป็นต้องบูรณาการและแก้ปัญหาร่วมกัน
โดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เป็นห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของประเทศไทย การขับเคลื่อนเดินหน้าปฏิรูปประเทศที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงต้องเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น การล่วงละเมิดสถาบัน สถานการณ์ยาเสพติด แรงงานต่างด้าวและการทำประมงผิดกฎหมาย การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ การจัดระเบียบสังคม การแก้ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัย
รวมทั้งการทำความเข้าใจกับกลุ่มที่เห็นต่างและกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและ คสช. การบ่อนทำลายชาติด้วยก่อเหตุระเบิดในสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง การทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและประเทศไทยในสายตาต่างชาติ
ศมบ. ได้ใช้กลไกการทำงานร่วมกัน ประสานงานขับเคลื่อนกับทุกส่วนราชการในการคลี่คลายและแก้ปัญหาที่สำคัญต่าง ๆ ของชาติ เป็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมที่ผ่านมา จนสามารถนำพาความสงบสุข ความมั่นคงมาสู่สังคมและประเทศชาติอย่างเห็นได้ชัด”
พล.อ.ประวิตรฯ ได้กล่าวขอบคุณข้าราชการจากทุกส่วนราชการใน ศมบ. ที่มุ่งมั่น ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความอดทน ในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับประชาชนในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาความมั่นคงไปด้วยกัน
พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานในปี 2559 ที่สำคัญ ดังนี้
1. การปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ขอให้ทุกหน่วยดำเนินการให้เต็มกำลังสุดความสามารถโดยร่วมกับภาคประชาชน
2. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการจัดระเบียบต่างๆ ในสังคม ขอให้หน่วยถือเป็นความเร่งด่วนลำดับแรกที่ต้องรีบปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตปรกติสุข อย่างมั่นคง และปลอดภัย
3. มาตรการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จึงขอให้ดำรงการปฏิบัติงานด้านการข่าวร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังจากภาคประชาชนอยู่ตลอดเวลา โดยติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์การข่าวให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนสำคัญในมาตรการป้องกัน
4. ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและดำเนินงานตามนโยบายให้ได้ในทุกมิติ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายตามโรดแมป ที่รัฐบาลวางเอาไว้
5. รัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาจราจร ระยะยาวด้วยการสร้างระบบขนส่งมวลชน ขณะเดียวกันปัญหาจราจรระยะสั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจร จึงขอให้มท.เป็นเจ้าภาพร่วมกับสตช. และกทม. วางแผนการแก้ปัญหาจราจรในระยะสั้นควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้ เพื่อมิให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
6. สื่อมวลชน มีความสำคัญยิ่ง ในการร่วมสร้างการตระหนักรู้และรับรู้ในข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยเฉพาะสถานการณ์เปลี่ยนผ่านปัจจุบัน จึงขอให้ทุกส่วนราชการประสานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกันของประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น: