PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คลังกู้2แสนล้าน! ใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชดเชยขาดดุลงบประมาณ

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08:43:11 น. มติชน



นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 หรือช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กระทรวงการคลัง จะทำการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2 แสนล้านบาท จากวงเงินกู้ที่ตั้งไว้ 3.9 แสนล้านบาท หรือมากกว่า 50% เพื่อใช้จ่ายในการ ลงทุนโครงการต่างๆ เนื่องจากรัฐบาล มีมาตรการเร่งการลงทุนทั้งโครงการ ขนาดเล็กและขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้เงิน จำนวนมาก

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 การจัดเก็บรายได้ของประเทศจะเข้ามาน้อย เนื่องจากเป็นปกติของการจัดเก็บรายได้ในช่วงแรก แต่จะเริ่มเข้ามามากในช่วงไตรมาสสองและไตรมาสสาม เนื่องจากเป็นช่วงของการจ่ายเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคล

สำหรับการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ 5 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ได้รับผลการตอบรับ เป็นอย่างดีและมีการซื้อไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง คาดว่าจะหมดได้ในเร็วๆ นี้

ขณะที่การกู้ชดเชยขาดดุล งบประมาณอีก 1.5 แสนล้านบาท ในไตรมาสนี้ จะเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 20 ปี ซึ่งได้มีแผนการออกและสถาบันการเงินที่จะเข้าประมูลรับทราบเป็นอย่างดีแล้ว

นายสุวิชญกล่าวว่า ในส่วนของการกู้เงินเพื่อใช้โครงการเร่งด่วนซ่อมสร้างถนนและบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท มีการกู้เงินไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการเบิกจ่ายที่รวดเร็วขึ้น ปัจจุบันเบิกจ่ายไปแล้ว 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามแผนในปีหน้าจะมีการกู้และเบิกจ่ายทั้งหมด 8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กและการดำเนินการของโครงการไม่เกิน 1 ปี

ผู้อำนวยการ สบน. กล่าวว่า แผนการบริหาร หนี้สาธารณะของรัฐบาลปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท เป็นการกู้ใหม่ 5.63 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการกู้เพื่อการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ

สำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557-กันยายน 2558) จัดเก็บได้ 2,207,476 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ ตามเอกสารงบประมาณ 117,524 ล้านบาท หรือ 5.1% (แต่ยังสูงกว่าปีที่แล้ว 6.4%) สาเหตุหลักจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงตั้งแต่ปลายปี 2557 ได้ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มจาก การนำเข้า ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียม จัดเก็บได้ต่ำกว่า ประมาณการ นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจปี 2557 ที่ชะลอตัวลง ประกอบกับเศรษฐกิจในปี 2558 ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ กระทบต่อ การประกอบการของภาคธุรกิจ ส่งผลให้การ จัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เป็นตามเป้าหมาย

ไม่มีความคิดเห็น: