PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

นายกฯ ปราศรัย วันUN ชื่นขมบทบาทไทย ในเวทีUN ร่วมมือUNHCR ดูแลด้านมนุษยธรรม มาตลอด

นายกฯ ปราศรัย วันUN ชื่นขมบทบาทไทย ในเวทีUN ร่วมมือUNHCR ดูแลด้านมนุษยธรรม มาตลอด คุยย้ำ ผลงานไปประชุมUN ที่ผ่านมา
คำปราศรัย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เนื่องในวันสหประชาชาติ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๘

พี่น้องชาวไทยที่รัก วันที่ ๒๔ ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันสหประชาชาติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ เป็นวันที่องค์การสหประชาชาติได้ถูกก่อตั้งขึ้น ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรสากลระหว่างประเทศ ในการบรรเทาทุกข์และแก้ไขปัญหาของโลก จรรโลงสันติภาพและความมั่นคง ปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่มวลมนุษยชาติ

ปีนี้นับเป็นปีที่พิเศษ เนื่องจากสหประชาชาติก่อตั้งครบ ๗๐ ปี ตลอด ๗ ทศวรรษที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้พิสูจน์แล้วว่า มีบทบาทสำคัญในการพยายามระงับการพิพาทระหว่างประเทศที่ใช้กำลัง การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจและสังคมของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะที่ประสบความเสียหายจากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ตลอดจน นำความกินดี-อยู่ดีมาสู่รัฐสมาชิก

พี่น้องชาวไทยที่รัก เป็นที่น่าภาคภูมิใจว่า ประเทศไทยได้มีบทบาทเข้มแข็งในฐานะสมาชิกสหประชาชาติมาเกือบ ๗ ทศวรรษ บทบาทของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากองค์กรและประเทศสมาชิก ด้วยการมีส่วนร่วมในการให้ความเห็น และแบ่งปันประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศ เพื่อนำไปสู่การออกข้อมติต่าง ๆ ของสหประชาชาติที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญที่อยู่ภายใต้องค์กรสหประชาชาติ เช่น คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอสแคป 
ประการสำคัญ ประเทศไทยได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ในการช่วยเหลือผู้หนีภัยจากประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี รวมทั้งส่งกำลังพลกว่า ๒๐,๐๐๐ คน เข้าร่วมภารกิจการรักษาสันติภาพในประเทศต่างๆทั่วโลก 

นอกจากนั้น ยังมีคนไทยที่ได้มีบทบาทและดำรงตำแหน่งสำคัญของสหประชาชาติ เช่น ประธานสมัชชาสหประชาชาติ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก รวมทั้งทูตองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย
และที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอย่างสูงสุด ได้แก่ การที่สหประชาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี 

เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุม สมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๐ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และได้กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “๗๐ ปีสหประชาชาติ เส้นทางสู่สันติภาพ ความมั่นคง และสิทธิมนุษยชน”

ในถ้อยแถลง ผมได้กล่าวถึงบทบาทและการทำงานของไทยที่ผ่านมาในเวทีสหประชาชาติ วิสัยทัศน์ของไทยต่อการแก้ไขปัญหาที่ท้าทายโลก พร้อมย้ำถึงความตั้งใจที่จะปฏิรูปประเทศไทยอย่างครอบคลุมรอบด้าน เพื่อนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รวมทั้งยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมทำงานในฐานะเป็นหุ้นส่วนกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

การประชุมสำคัญอีกรายการหนึ่งที่ผมได้เข้าร่วม คือ การประชุมสุดยอดสหประชาชาติระดับผู้นำว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกได้ร่วมรับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นเป้าหมายการพัฒนาของโลกในช่วง 15 ปี จากนี้ไป โดยไทยได้มีบทบาทอย่างแข็งขัน ในการร่วมเจรจากำหนดเป้าหมายดังกล่าวมาโดยตลอด และในโอกาสนี้ ผมได้กล่าวถ้อยแถลงถึงนโยบายของรัฐบาลที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในการพัฒนาประเทศ และย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยจะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในวิสัยทัศน์การพัฒนาที่ยั่งยืนของเรา

ผมภูมิใจที่จะเรียนให้ท่านผู้ฟังทราบว่า ไทยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม G 77 ในปี 2559 กลุ่ม ๗๗ เป็นกลุ่มเจรจาที่ใหญ่ที่สุดในสหประชาชาติเพราะ มีประเทศกำลังพัฒนาเป็นสมาชิกกลุ่มถึง 134 ประเทศ และไทยยังได้รับมอบรางวัล ITU Global Sustainable Development Award ในฐานะประเทศที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ไทยยังได้รับเชิญให้ร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมคู่ขนานอีกหลายรายการ เช่น การประชุมเรื่องน้ำ ความเท่าเทียมทางเพศ การรักษา พยาบาลอย่างทั่วถึง บทบาทในการรักษาสันติภาพ ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นว่า ความก้าวหน้าโดยรวมของไทย และบทบาทของไทยในทุกเรื่องที่กล่าวมานี้ เป็นที่ยอมรับโดยแท้จริงของสหประชาชาติและประเทศสมาชิกทั้งหลาย

ผมเชื่อว่าความสำเร็จที่กล่าวมาน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี สำหรับการที่ประเทศไทยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๗ - ๒๐๑๘ ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพและบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยว่า จะสามารถช่วยส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พี่น้องชาวไทยที่รัก เนื่องในวันสหประชาชาติ ในนามของรัฐบาลไทย ผมขอส่งความปรารถนาดี ไปยัง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาติ ทั้งที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มแข็งทั่วโลก ขอให้มั่นใจว่า ประเทศไทยจะยึดมั่นในหลักการ และความรับผิดชอบขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งจะให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกในทุกมิติ ทั้งในอาเซียน และในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบสุข ความมั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีของ มวลมนุษยชาติอย่างเต็มความสามารถ
ขอบคุณและสวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น: