PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

26102558 ข่าวเช้าวันจันทร์สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม 2558

26102558 ข่าวเช้าวันจันทร์สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม 2558

1. เงินปริศนาคนไทย "จำใจจ่าย" เป็นค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ใช้ไป
โดยไม่สามารถระบุว่าใช้ไปกับสิ่งใด สูงถึงปีละ 60,000บาท สูงสุดในอาเซียน
เริ่มตั้งแต่ค่าบริการของธนาคารพาณิชย์ ที่เอาเปรียบลูกค้า หลายกรณี
รวมทั้งยังมีการคิดค่ารักษาบัญชีหรือที่เรียกว่าค่าดูแลบัญชีจากผู้บริโภค
โดยในกรณีที่มีเงินฝากในบัญชีเหลือไม่ถึง 2,000 บาท และบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 1 ปี ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตรา 50บาท/ปี ……
อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/report/395783
@ "ค่าใช้จ่ายแฝง" ภัยเงียบเสียเงินฟรี....
อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/digital/395884
• 2. “วิษณุ” แจงเรียกค่าเสียหายจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ไม่โยงการเมือง
ตาม “จตุพร” อ้าง ย้ำ ให้ความเป็นธรรมทุกคน
สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการและอยู่ภายในกรอบอายุความ 2 ปี
พร้อมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน และหากใครติดใจในประเด็นใดก็สามารถเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมได้
ซึ่งเท่าที่ทราบในส่วนของคณะ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความรับผิดทางแพ่ง ของกระทรวงการคลัง ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้วหลายคน
รวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย แต่ไม่ทราบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้ามาให้ข้อมูลแล้วหรือยัง
• 3. กูรูเศรษฐศาสตร์ชี้ เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วกำลังฟื้นตัว
ดัชนีเชื่อมั่นกระเตื้องสูงสุดในรอบ 2 ปี สุดเชื่อมั่น 3-6 เดือนข้างหน้าสดใส
“สรรเสริญ” วอนคนไทยเปิดกว้าง ผุดโรงไฟฟ้า “ถ่านหิน-เชื้อเพลิงขยะ”
เผยอย่าจมปลักความเชื่อกลุ่มทุน-นักการเมืองที่หลอกล่อ
อารยประเทศเมื่อฟังข้อมูลก็เห็นดีเห็นงาม
"นายกฯ กำชับให้หน่วยงานภาครัฐขยันสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะ
เขาอาจมีบทเรียนจากอดีตที่ทำให้ไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยี
หลายประเทศได้พัฒนาโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน พลังงานชีวมวล และสำรวจแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น ปิโตรเลียม เพื่อใช้ในประเทศ ส่งออกสร้างรายได้ และลดพึ่งพาการนำเข้า เนื่องจากทุกคนเห็นความสำคัญของความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว
ขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
จึงอยากให้คนไทยหันมาพิจารณาข้อเท็จจริงของประเทศอย่างมีจิตสำนึก
เพื่อสร้างประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน
• 4. หมอหยองยังอยู่ดี ‘รองปลัดยธ.’ปัดข่าวอาการน่าหวง/นิติเวชรอผ่าชันสูตรศพ‘เอี๊ยด’
ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีและติดตามผลการตรวจค้นภายในที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรมและนายสุริยัน
ซึ้งเจ้าหน้าที่สามารถยึดรถ, อาวุธปืน และทรัพย์สินจำนวนมากมาได้
เพื่อเร่งรัดให้เร่งตรวจสอบที่มาของสิ่งของทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับ
คดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกหรือรับผลประโยชน์ตามมาตรา 112 หรือไม่
• 5. กรธ.เริ่มถกวาระร้อน โครงสร้าง ส.ส.-ส.ว. กรรมการฯ ลั่นไม่เดินตามก้นตะวันตก สมาชิก สปท.สายทหารทุบโต๊ะเชียร์สภาสูงให้มาจากลากตั้งทั้งหมด โละทิ้งระบบเลือกตั้ง ยังถกไม่ลงตัว ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นสิทธิหรือหน้าที่
ปชป.เชียร์เพิ่มยาแรงตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต
"วิษณุ" หนุนแม่น้ำ 5 สายต้องไปร่วมรับฟังความเห็นร่าง รธน.พร้อมกันทั้งแผง
• 6. วางแนวถกแม่น้ำ 5 สายพุธที่ 28 ตุลาคม นี้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันดังกล่าว
หลักๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องการจะพูดกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศเป็นพิเศษ
ดังนั้น จะเป็นการพูดถึงแนวทางการปฏิรูปมากกว่าเรื่องอื่นๆ
เพราะกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์พูดด้วยหลายหนแล้ว
แต่กับ สปท.เป็นการพบกับนายกฯ เป็นครั้งแรก จึงเข้าใจว่าต้องการพูดแนวทางการปฏิรูป ซึ่งแน่นอนต้องพูดถึงเรื่องโรดแมปด้วยอยู่แล้ว
การที่ สปท.จะทำงานร่วมกับแม่น้ำสายต่างๆ ทั้ง กรธ. สนช.และ ครม. ออกไปพบปะประชาชนรับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะนายกฯ ได้เคยให้แนวทางไว้แล้วว่าออกไปฟังความคิดเห็นได้
แต่เวลาไป อย่าแยกกันไป และอย่าไปกันหลายหน แต่ให้ชวนไปพร้อมกันทั้ง
ครม. กรธ. สปท. และ สนช. ไปตั้งวงทำความเข้าใจพร้อมกันๆ
มันจะประหยัดเวลา ประหยัดงบประมาณ ทำให้ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า
• 7. ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการปฏิรูปประเทศไทยโดยสำรวจความเห็นจากประชาชน 1392 คน
ระหว่าง 19-24 ตุลาคม 2558
ผลสำรวจพบว่า ความเห็นของประชาชนมองว่า
๑. สิ่งที่ "ถ่วงความเจริญ" ของประเทศไทยที่ต้องเร่งปฏิรูป ในสายตาประชาชน
การทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 87.21,
ความขัดแย้งจากการเมือง ร้อยละ 79.17,
ผู้อิทธิพลหรือมาเฟีย ร้อยละ 74.06,
การไม่เคารพกฎหมายของทุกภาคส่วนร้อยละ 71.91 และ
ขาดคุณธรรม จริยธรรม เห็นแก่ตนมากกว่าส่วนรวมร้อยละ 65.88
๒. แนวทางหลักในการปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างความเจริญ
81.25 % ระบุสร้างคุณภาพทางการเมืองโดยเฉพาะนักการเมือง,
75.65% เร่งรัดปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด,
72.20 % เร่งสร้างความเสมอภาคในสังคมไทย,
66.81% เร่งรัดปฏิรูปการศึกษาให้สามารถพัฒนาคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
60.49% และปลูกฝังความรักความสามัคคีของคนไทยทุกกลุ่ม
๓. ความคาดหวังต่อผู้ที่จะปฏิรูปประเทศให้บรรลุผล
83.89% นายกฯ สามารถใช้ ม.44 ได้,
78.08% ระบุคณะ คสช. และ ครม.ในชุดปัจจุบัน,
76.34% ระบุประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังึ
71.39% สภาปฏิรูปการขับเคลื่อนประเทศ
64.05% กระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลทั้งตุลาการและผู้พิพากษา
• 8. คอลัมน์ความรู้ความคิด
พี่เปลว สีเงิน : 'ชักสงสัยผู้ว่าสตง.แทนสสส.?'
กาแฟดำ : สีจิ้นผิงกับ ‘การทูตจิบเบียร์ในผับ’
การเยือนที่เริ่มด้วยงานเลี้ยงอลังการในราชวัง Buckingham และจบลงด้วยการจิบเบียร์ในผับชนบทของสีจิ้นผิง กำลังจะถูกบันทึกเป็นอีกตำนานหนึ่งของการทูตจีนสมัยใหม่ ที่จะวัดความสำเร็จมากหรือน้อยจากการลงมือทำตามคำประกาศร่วมเท่านั้น แต่ที่ยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงก็คือการทูตแบบจีนในศตวรรษที่ 21 ที่มีสีสันและลีลาแหวกแนวจากประวัติศาสตร์หลายพันปีของจีนทีเดียว 

ไม่มีความคิดเห็น: