PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จู่ ปรี๊ดสื่อห่วย อัดนักการเมืองกัดกัน

ขอปริ๊ดดดด สักที.....ด่าสื่อห่วย เหน็บนักการเมือง "กัดกันอย่างกับหมา"
"บิ๊กตู่" ปรี๊ดแตก ซัดสื่อเขียนเชียร์ ฝ่ายตรงข้ามอยู่นั่นแหล่ะ ห่วยสร้างความแตกแยก บ่อนทำลายชาติ ขู่ประจานชื่อหากประเทศล่มสลาย เหน็บนักการเมือง "กัดกันอย่างกับหมา" เชิญสื่อมาทำความเข้าใจก๋หาว่าละเมิดสิทธิ บางพวกรับปาก แต่ก็ทำอีก เสนอร่างรธน.จะต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 4 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
กล่าวถึงการติดตามร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ได้ติดตามอยู่เพราะตนก็เป็นผู้ที่ตีกรอบไปเอง ส่วนข้อเสนอในวิธีการการเลือกตั้งแบบใหม่นั้นตนเคยบอกแล้วว่าถ้ามองว่าประชาธิปไตยและการเลือกตั้งเป็นไฮไลท์ของทั้งหมดประเทศไทยก็กลับไปที่เดิมเท่านั้นเอง มันไปอย่างอื่นไม่ได้
อย่างไรก็ตามก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องคุยกันว่าทำอย่างไรประเทศชาติจะปลอดภัยและเป็นประชาธิปไตยที่ต่างชาติยอมรับได้ด้วย ทุกวันนี้เขาก็คิดกันหัวจะผุอยู่แล้ว
"คนที่จะไม่รับกติกาใหม่ๆ อะไร ส่วนใหญ่ก็เป็นนักการเมืองทั้งสิ้น ยอมรับไม่ได้เพราะทุกอย่างจะทำให้ยากในการเข้าสู่กระบวนการ สู่การมีอำนาจ หรือการใช้จ่ายงบประมาณทุกอย่างเขาเลยต้องการเหมือนเดิมเพราะต้องการที่จะได้คะแนนนิยมจำนวนมากๆ เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม
ผมบอกมาหลายครั้งแล้วว่าสังคมและประเทศมันเกิดอะไรขึ้น วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดมันคงไม่ได้แก้ด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมาย นักการเมือง ผม หรือการรัฐประหารเพียงอย่างเดียว มันไม่ได้หรอก ทุกอย่างมันต้องแก้ด้วยจิตสำนึกของทุกคนว่าจะช่วยให้ประเทศชาติปลอดภัยอย่างไร ผมบอกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าความจริงไม่ต้องไปเขียนรัฐธรรมนูญใหม่มาให้ยากหรอก ถ้าทุกคนยอมรับกติกาว่าจะให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลง
"ง่ายที่สุดคือรัฐธรรมนูญเก่าเลยก็ได้ อันนี้ผมสมมตินะ แต่จะต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 4 ปีแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่เช่นนั้นถ้าไม่คิด 4 ปีข้างหน้าก็จะกลับมาเหมือนเดิมหมด ไม่อย่างงั้นไม่ต้องรอถึง 4 ปี ปีเดียวก็กลับมาหมดแล้ว ใช่หรือไม่
สื่อเองก็ไม่มีคำตอบตรงนี้เพราะอ้างแต่ว่าจะเสนอข่าวตรงกลางเพียงอย่างเดียว ใครมันจะเสนอซ้ายเสนอขวาก็ไม่สนใจ จะเสนอแต่ตรงกลางอย่างเดียว แล้วมันก็กัดกันเป็นหมาอยู่ทุกวันนี้ ชอบให้ผมพูดแบบนี้ใช่หรือไม่แล้วเดี๋ยวถ้าใครเอาคำของผมไปพาดหัว ไม่ต้องมาพูดกับผมแล้วนะ ชอบแบบนี้ ชอบสร้างความขัดแย้งให้กับผม" ทำอย่างไรสังคมมันจะสงบ ไม่ใช่อะไรก็จะทำให้ผมอารมณ์เสีย แล้วก็มาบอกว่าเป็นนายกฯ ต้องอดทนแล้วผมจะอดทนไปทำไมเล่า จะอดทนไปทำไม อดทนแล้วให้ทุกคนขัดแย้งกันแบบนี้หรือ ผมไม่อดทนหรอก ทุกวันนี้ทำแทบตายไม่ต้องมาบอกผมก็ทำให้อยู่แล้ว แต่ยังมาทำกับผมเหมือนกับคนอื่นทั่วๆไป มันไม่ใช่ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น คิดทุกวันทำทุกนาทียังไม่ช่วยกันเลย" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญจะออกอะไรออกมาถามว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเอาอย่างไร เมื่อเดินไปตามขั้นตอนอีกสักพักก็จะมีการทำประชามติ แต่ถ้าประชาชนออกมาประชามติแล้วเสียงส่วนใหญ่บอกว่าไม่เอา แล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป จะเลือกตั้งกันให้ได้อย่างนั้นหรือ วันนี้ก็ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นเช่นนี้ เหตุผลของการคัดสรรในเรื่องต่างๆ เข้ามาเพราะอะไรถ้าชี้แจงแบบนี้ประชาชนก็น่าจะเข้าใจ แต่ถ้ามัวไปชี้แจงว่าคัดสรรเข้ามาเพื่อการมีอำนาจ พูดแต่เรื่องของอำนาจเพียงอย่างเดียว ไม่เห็นพูดกันว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง ที่เถียงกันอยู่ทั้งหมดสื่อก็ขยายความออกไปเรื่อยๆ ประเทศไทยก็กลับที่เดิมคือการเลือกตั้งส่วนจะได้ใครกลับมาก็ไม่รู้ ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สื่อทำกันแบบนี้แล้วก็มากล่าวหาว่าตนโทษแต่สื่อ
"สื่อรู้กันทั้งหมด แต่ไม่ยอมเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ถ้าเผื่อประเทศต้องมีปัญหา ต้องล่มลงไปเศรษฐกิจเดินหน้าไม่ได้ เกิดความขัดแย้ง เกิดการจราจลกันทั้งเมือง ใครจะมารับผิดชอบร่วมกับผม แต่ก็ยังเขียนทุกเรื่องที่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวในสนามผมถือว่าโอเค ผมรู้เพราะอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่ผมรังเกียจไอ้เจ้าของสำนักพิมพ์บางสำนักพิมพ์จะว่าผมแรงก็ต้องแรงนะจะบอกให้ ไม่มีเลิกตอนที่มีเรื่องมันอยู่ไหน เขียนเชียร์เขาอยู่นั่นแหละทุกวันนี้ก็ยังเชียร์อยู่ คนบังคับใช้กฎหมาย คนทำงานเดือดร้อน รู้อยู่แล้วนะว่าใครไม่ต้องเอ่ยชื่อ ไม่ได้ขู่ด้วย ผมสามารถชี้แจงกับคนอื่นได้ว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้ ถ้าผมจะต้องทำกับไอ้บางคนซึ่งจะทำตามกฎหมาย อย่าหาว่าผมไปรังแกสื่ออะไรทั้งสิ้น แบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าสื่อ สร้างความแตกแยก" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯ กำลังคิดจะทำอะไรอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ผมพูดให้ฟังทำไมหรือจะไปเขียนกันว่า นายกฯ จะเริ่มควบคุมสื่อ ละเมิดจรรยาบรรณสื่อ
"โธ่ !! ไอ้ห่วยแบบนี้เขาไม่เรียกสื่อหรอก พวกท่านก็ค้านเขาไม่ได้ เพราะทุกคนทุกสำนักพิมพ์ต้องการรายได้ ไม่สนใจว่าประเทศมันจะเสียหายตรงไหน ไม่สนใจเลย แข่งกันสิ แข่งกันขายกันเท่านั้น เล่มเท่านี้เล่ม เอาเงินที่ขายเอามากิน ก็ใช่มันเป็นความจำเป็น แต่มันทำลายประเทศไปด้วย
ผมอยากจะบอกคำนี้ บางคอลัมน์ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น พอผมถามกลับไปก็ตอบกลับมาว่าคุมไม่ได้ครับ พอเรียกมาก็เป็นอย่างนี้หมด เชิญมาพบไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ เรียกมาคุยตั้งโต๊ะคุยดีๆ ในห้องแอร์ ถามว่าเขียนอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรก็บอกว่า อ๋อ เดี๋ยวผมจะแก้ไข ผมจะปรับปรุงครั้งหน้า รับรองไม่มีครับ มันก็มีอีก เรียกมาครั้งที่ 2 ก็ขอโทษครับมันเป็นแบบนี้ครับ ผมยังคุมคนเหล่านี้ไม่ได้ เดี๋ยววันหน้าผมจะแก้ไขพูดอย่างนี้มา 7-8 ครั้ง
แล้ว ไอ้คนแบบนี้ถ้าประเทศนี้มันล่มสลายจะขึ้นชื่อให้ดูทั้งหมดว่าใครบ้าง ไม่รู้จักอับอายคนเขาบ้าง หากินบนความเดือดร้อน บนความสูญเสียของคนอื่นบ่อนทำลายชาติ ความจริงตั้งใจจะพูดแต่สิ่งดีๆ ไปซะแล้ว"

ไม่มีความคิดเห็น: