Fri, 2016-01-22 17:51
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิ มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องรัฐบาล คสช. ยกเลิ กข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อนักกิจกรรม 11 คน ที่ถูกจับกุมข้อหาละเมิดข้อห้ ามการชุมนุม พร้อมแสดงความกังวลกรณีทหารใช้ถุงคลุมศีรษะ 'จ่านิว' และมีการตบและเตะในช่วงถูกควบคุมตัว โดยขอให้รัฐบาลสอบสวนการกระทำดังกล่าว
![](https://c2.staticflickr.com/2/1649/24506580296_cbf6fe99da_z.jpg)
22 ม.ค. 2559 สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิ มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (United Nations Human Rights Office for South-East Asia (OHCHR) กระตุ้นรัฐบาลทหารไทยให้ยกเลิ กข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อแกนนำนั กศึกษา 11 คนที่ถูกจับกุมข้อหาละเมิดข้อห้ ามการชุมนุม
โดยในใบแถลงข่าวของ OHCHR ระบุว่า สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำนักศึกษาขบวนการประชาธิ ปไตยใหม่กล่าวว่า เขาถูกกลุ่มผู้ชายที่ไม่ได้ แสดงตนจับกุมที่หน้ามหาวิทยาลั ยธรรมศาสตร์วิทยาเขตในกรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันพุธ ในวันพฤหัสบดีตอนเช้า น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ และนายกรกช แสงเย็นพันธ์ ได้ไปเยี่ยมนายสิ รวิชญ์ที่สถานีตำรวจที่เขาถู กควบคุมตัว นักศึกษาเหล่านี้ถูกตั้งข้อหาด้ วยความผิดเดียวกัน
มีการนำตัวนักศึกษาทั้งสี่ คนไปยังศาลทหารเมื่อวันพฤหัสบดี และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่ วคราวระหว่างรอการไต่สวน ศาลทหารได้ยกคำร้องที่ให้ควบคุ มตัวชั่วคราวต่อนักกิจกรรมทั้ งสี่คน
นักศึกษาเหล่านี้ถูกออกหมายจั บเนื่องจากละเมิดคำสั่งของรั ฐบาลทหารที่ห้ามการชุมนุ มทางการเมือง ทั้งนี้โดยได้โดยสารรถไฟเมื่อวั นที่ 7 ธันวาคม 2558 ไปยังโครงการอุทยานที่กองทั พไทยจัดสร้างขึ้นที่จังหวั ดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้เห็นการทุ จริตตามข้อกล่าวหาว่ามีขึ้นกั บโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ ์ เจ้าหน้าที่ได้โดยสารไปพร้ อมขบวนรถไฟและขัดขวางไม่ให้นั กกิจกรรมเหล่านี้ไปถึงจุ ดหมายปลายทาง
ต่อมามีการตั้งข้อหาจากเหตุ การณ์เดียวกันกับนักศึกษาอีกเจ็ ดคน
“สิทธิที่จะชุมนุมโดยสงบและสิ ทธิที่จะมีเสรี ภาพในการแสดงออกและเสรีภาพด้ านความเห็น เป็นสิทธิพื้นฐาน และไม่ควรถือเป็นความผิดอาญาร้ ายแรง” Laurent Meillan ว่าที่ตัวแทนภูมิภาค OHCHR กล่าว “เรากระตุ้นให้ทางการยกเลิกข้ อกล่าวหาทั้งหมดต่อนักศึกษาเหล่ านี้”
นักศึกษาเหล่านี้ถูกตั้งข้ อหาละเมิดคำสั่งหัวหน้าคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุ มทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดหกเดือน
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิ มนุษยชนกังวลกับการใช้คำสั่ งคสช. แทนที่จะใช้พระราชบัญญัติการชุ มนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อันเป็นเหตุให้คดีเหล่านี้ต้ องเข้ารับการไต่สวนในศาลทหาร เสี่ยงที่จะเกิดการพิจารณาคดีที ่ไม่เป็นธรรมและเป็นเหตุให้ จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดี
OHCHR ยังกังวลกับข้อกล่าวหาว่ าทหารได้ใช้ถุงคลุมศีรษะนายสิ รวิชญ์ระหว่างที่เขาถูกจับกุม ทั้งยังมีการตบและเตะเขาระหว่ างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ผู้ทำการจับกุมไม่ ได้แสดงตน ไม่ได้บอกเหตุผลของการควบคุมตัว ทั้งยังไม่ได้ให้ข้อมูลกับนายสิ รวิชญ์ว่าจะนำตัวเขาไปควบคุมตั วที่ใด
OHCHR กระตุ้นให้รัฐบาลสอบสวนตามข้ อกล่าวหาว่ามีการปฏิบัติที่ โหดร้าย และอนุญาตให้คณะกรรมการสิทธิมนุ ษยชนแห่งชาติทำหน้าที่ สอบสวนกรณีนี้อย่างเป็นอิสระ
“ทางการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ ความมั่นคงไม่เพียงมีหน้าที่บั งคับใช้กฎหมาย หากยังต้องดูแลให้เจ้าหน้าที่ ของตนปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านั้ นในทุกสภาพการณ์ด้วย” Meillan กล่าว
ในฐานะรัฐภาคีกติการะหว่ างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมื องและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights-ICCPR) รัฐบาลไทยมีพันธกรณีต้องคุ้ มครองเสรีภาพของพลเรือนของตน รวมทั้งสิทธิที่จะปลอดพ้ นจากการควบคุมตัวโดยพลการ การได้รับแจ้งข้อกล่าวหาที่มีต่ อตน การเข้าถึงทนายความ และการไต่สวนโดยศาลที่เป็นอิ สระและไม่ลำเอียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น