PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

สอบปากคำ‘สมเด็จฯช่วง’ห้ามทนายร่วมฟัง


สอบปากคำ‘สมเด็จฯช่วง’ห้ามทนายร่วมฟัง
‘ดีเอสไอ-อัยการ’ จัดทีมสอบปากคำ ‘สมเด็จฯช่วง’ คดีครอบครองรถเบนซ์ผิดกฏหมาย ย้ำสอบในฐานะพยาน-ต้องให้การด้วยตนเอง ไม่อนุญาตทนายความ-บุคคลอื่นร่วมฟังการสอบสวน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) วันที่ 15 มี.ค.59 พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนสำนักคดีภาษีอากร เพื่อจัดชุดเข้าสอบปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จฯช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ผิดกฏหมาย ในชั้นนี้เป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยสมเด็จฯช่วงจะต้องให้ถ้อยคำด้วยตนเองเพียงลำพังกับพนักงานสอบสวน ไม่สามารถให้ทนายความหรือผู้อื่นเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนได้
ทั้งนี้ ดีเอสไอจัดชุดเข้าสอบปากคำ 7 คน ประกอบด้วย อัยการจากสำนักการสอบสวน 2 คน พนักงานสอบสวนดีเอสไอ 5 คน ส่วนประเด็นการสอบสวนเป็นหน้าที่ของทีมสอบสวน สำหรับตนในฐานะรองอธิบดีได้รับมอบหมายให้นำคณะไปสอบ และได้เตรียมดอกไม้ ธูปเทียนแพ เข้ากราบคาราวะตามประเพณีด้วย สำหรับการเข้ารายงานข่าวและบันทึกภาพภายในวัดปากน้ำต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสมเด็จฯช่วง
โดยในวันที่ 16 มี.ค.59 พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะออกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ เวลา 16.00 น. เพื่อรอเข้าสอบปากคำสมเด็จฯช่วง ที่วัดปากน้ำฯ ในเวลา 20.00 น. ตามที่สมเด็จฯช่วงนัดหมายไว้ โดยประเด็นที่จะต้องสอบถาม จะเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการได้มาซึ่งรถเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ขม.99 ซึ่งมีชื่อสมเด็จฯช่วงเป็นผู้ครอบครองมือแรก และสมเด็จฯช่วงได้มอบสำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นมอบอำนาจให้นำรถไปยื่นจดทะเบียนในขั้นตอนต่างๆ โดยในชั้นสืบสวนดีเอสไอ ตรวจพบมีการปลอมแปลงเอกสารและลายมือชื่อ เข้าจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ ผิดกฎหมาย เพื่อเลี่ยงภาษีศุลกากรและสรรพสามิต

ไม่มีความคิดเห็น: