PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

"บิ๊กหมู" สั่งตรวจสอบ มีการอ้าง คสช. ปิดการจราจร ปิดถนน เก็บค่าจอดรถ



"บิ๊กหมู" สั่งตรวจสอบ มีการอ้าง คสช. ปิดการจราจร ปิดถนน เก็บค่าจอดรถ การเรียกรับผลประโยชน์ การจัดงาน
คสช.สรุป9วันสงกรานต์ ยึดรถ6,613 คัน เป็นจยย.4,963คัน รถยนต์ 1,650 คัน ยึดใบขับขี่ 17,449ราย เป็นจยย.908 ราย รถโดยสาร/รถยนต์16,541 ราย เผยผู้ทำผิดจราจร 277,055ครั้ง เป็นจยย.153,626คันรถโดยสารรถยนต์123,429ครั้ง ส่งดำเนินคดี142,820คน เป็นจยย.83,697รถโดยสาร/รถยนต์59,123คน คสช.หวังมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จะเป็นส่วนหนึ่งช่วยประชาชนใช้รถใช้ถนน
ตามกฎจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม /นายกฯ-คสช. ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมดูแลความเรียบร้อยช่วงสงกรานต์ "บิ๊กหมู" สั่งตรวจสอบ มีการอ้าง คสช. ปิดการจราจร ปิดถนน เก็บค่าจอดรถ การเรียกรับผลประโยชน์ การจัดงาน
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า จากการที่ คสช. และรัฐบาลได้มอบให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่าง
๙-๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ ตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดป้องปรามการดื่มไม่ขับ ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นการทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง ตลอดเทศกาลได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ โดยมีสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับตลอด ๙ วันที่ผ่านมา ระหว่าง ๙ – ๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ ดังนี้
ตรวจพบผู้กระทำความผิด ๒๗๗,๐๕๕ ครั้ง (แยกเป็นรถจักรยานยนต์ ๑๕๓,๖๒๖ คัน รถโดยสารสาธารณและรถยนต์ส่วนบุคคล ๑๒๓,๔๒๙ ครั้ง) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งดำเนินคดีรวม ๑๔๒,๘๒๐ คน (แยกเป็นรถจักรยานยนต์ ๘๓,๖๙๗ คน และ รถโดยสารสาธารณและรถยนต์ส่วนบุคคล ๕๙,๑๒๓ คน) โดยได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ ๑๗,๔๔๙ ราย (แยกเป็นรถจักรยานยนต์ ๙๐๘ ราย และรถโดยสารสาธารณและรถยนต์ส่วนบุคคล ๑๖,๕๔๑ ราย) และ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับ ๖,๖๑๓ คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ ๔,๙๖๓ คันและ รถยนต์ ๑,๖๕๐ คัน )
จากมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายตั้งใจดำเนินการเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดการเฉลิมฉลองสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ ๙-๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้การตอบรับและให้ความสำคัญกับมาตรการนี้ มีความตื่นตัว และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น
รวมทั้งเสนอให้ คสช. ดำเนินมาตรการนี้ต่อเนื่องตลอดปี เพื่อช่วยลดและป้องกันความสูญเสีย จากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์จนเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
ที่สำคัญได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศในด้านความปลอดภัยและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวยังส่งผลทางอ้อม กับผู้ประทุษร้ายหรือต้องการจะก่อเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนส่วนรวม ให้ไม่สามารถก่อเหตุร้ายได้ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนคุมเข้มตามจุดสกัดต่างๆ รวมทั้ง ยังช่วยป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นๆเช่น ยาเสพติด อาวุธสงคราม สินค้าหนีภาษี แรงงานผิดกฎหมาย เป็นต้น
ทั้งนี้ คสช.หวังว่ามาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้รถใช้ถนน ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัย อย่างจริงจัง ในทุกการเดินทาง เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความปลอดภัย อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน พลเอก ธีรชัย นาควานิช ผบทบ./เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
พลเอกธีรชัย กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร ที่ร่วมกันดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนด้วยความเสียสละและทุ่มเทตลอดเทศกาลสงกรานต์ ตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ซึ่งได้รับความชื่นชมและการยอมรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ไม่ปรากฏเหตุการณ์ร้ายแรงที่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวสถิติทางคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมลดลงถึง50เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับพื้นที่ ที่อำนวยการจราจรตามเส้นทางต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการปฏิบัติงานของ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังคงให้เข้มข้นในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายและจัดระเบียบสังคมทั้ง การปรบปรามผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน
อาวุธสงคราม และยาเสพติด เพื่อให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้จับกุมผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด ๑๒๙ ครั้ง ยึดยาบ้า๙๔๘,๐๓๐ เม็ด กัญชา ๑,๑๕๐ กิโลกรัม ได้จับกุมผู้กระทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ ๑๙ ครั้ง ได้ของกลางเป็นไม้ ๒๙๖ ท่อน ๒๖ แผ่น จับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ. อาวุธเครื่องกระสุน ๓๐ ครั้ง ได้อาวุธปืน ๕๖ กระบอก จับกุมผู้กระทำผิดพ.ร.บ.ศุลกากร ๓ ครั้ง ได้น้ำมันหนีภาษี ๑๐๑,๐๐๐ ลิตร บุหรี่และสุราต่างประเทศจำนวนหนึ่ง รวมทั้งได้เข้าจับกุมการเล่นพนัน ๒๔ ครั้ง ได้ผู้ต้องหา ๑๗๕ คน และจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมือง ๖ ครั้ง ผู้ต้องหา ๕๑ คน
นอกจากเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนร่วมกันลงพื้นที่ในทุกหมู่บ้าน เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกเรื่อง ปัญหาเร่งด่วนขณะนี้คือภัยแล้ง ให้ทุกส่วนเข้าดำเนินการทันทีในทุกหมู่บ้านและบูรณาการ
การแจกจ่ายน้ำให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ๒๗ จังหวัด ๔,๓๕๔ หมู่บ้าน และหน่วยงานของรัฐ โดยกระทรวงกลาโหมนำน้ำไปแจกจ่ายแล้ว ๕๐ ล้านลิตรเศษ กรมทรัพยากรน้ำนำเครื่องสูบน้ำ ๑๔๗ เครื่อง ติดตั้งเพื่อสูบน้ำเข้ามาเติมในแหล่งน้ำใน ๓๖ จังหวัด ปริมาณน้ำ ๒๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ๖๓ เครื่อง
และส่งรถบรรทุกน้ำออกช่วยเหลือตามพื้นที่ต่างๆ แล้ว อีก ๑๕ ล้านลิตร
ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลมีบุคคลบางกลุ่มมีพฤติกรรมแอบอ้าง คสช. ไปกระทำบางอย่าง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดและมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อ คสช. เช่น ปิดการจราจร ปิดถนน เก็บค่าจอดรถ การเรียกรับผลประโยชน์ การจัดงาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบและจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป จึงขอให้ประชาชนได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องและอย่าได้หลงเชื่อในพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้

ไม่มีความคิดเห็น: