PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ไขปริศนา'ชายหมู'รอด ม.44 ลอต 4! 2 นายก อบจ.ดัง พี่'วราเทพ'-น้อง'อนุชา'โดนฟัน

"..ในกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นั้น  ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด ได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และมอบหมายให้นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งความดำเนินคดีอาญาและแพ่ง กับผู้ว่าฯ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทที่ประมูลไปแล้ว ทางศอตช. จึงไม่ต้องดำเนินการอะไร"
piciidddferereerr22 7 16
ในบรรดารายชื่อข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่นจำนวน 60 ราย (ลอต 4) ที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 43/2559 สั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือสอบสวนเพื่อดําเนินการทางวินัยของหน่วยงานต้นสังกัดโดยเร็ว ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบเป็นทางการไปแล้ว 
มีนักการเมืองท้องถิ่น 2 ราย ซึ่งเป็นเครือญาติกับนักการเมืองชื่อดังร่วมอยู่ด้วย คือ 
1. นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท อําเภอเมือง จังหวัดชัยนาท 'น้องชาย' นายอนุชา นาคาศัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยนาท พรรคไทยรักไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
2. นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกําแพงเพชรอําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร 'พี่ชาย' นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 
สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ในศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ว่า นักการเมืองถิ่นท้อง ใน 60 รายชื่อ ที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ระงับการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เข้าไปพัวพันคดีการจัดซื้อจัดจ้าง งานก่อสร้าง และเรื่องการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ไม่ถูกต้อง และถูกชี้มูลจากหน่วยงานตรวจสอบไปแล้ว แต่ต้นสังกัดยังไม่ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสวนข้อเท็จจริงหรือทางวินัยอะไร
โดยในส่วนของ นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกําแพงเพชรอําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลความผิดเรื่องคดีการจัดซื้อรถยนต์ ตั้งแต่ช่วงปี 2556 
ส่วน นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท อําเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ก็ถูกสตง.ชี้มูลความผิดเช่นกัน จากกรณีการอนุมัติและเบิกจ่ายเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดชัยนาท ที่มีนายอนุสรณ์ เป็นนายกสมาคม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ของสโมสรฟุตบอลจังหวัดชัยนาท ซึ่งมีนายอนุสรณ์เป็นผู้จัดการทีม และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมแข่งขันชกมวยสากลระดับโลก รวมจำนวนเงิน 44,800,000 บาท 
นอกจากนี้ยังมีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 10,070,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการมหกรรมรวมพลังสร้างสุขภาพในวันอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)แห่งประชาติประจำปี 2554 ของอบจ.ชัยนาท ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายได้เช่นกัน เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดสามารถดำเนินการได้เอง และหลายแห่งได้ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว
สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดแข่งขันกีฬาทั้งสองส่วนนี้ เป็นกีฬาเพื่อการอาชีพ ไม่ใช่กีฬา ที่ อบจ.ต้องส่งเสริม อบจ.ชัยนาท จึงไม่อาจเบิกจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนกีฬา สมาคมกีฬาจังหวัดชัยนาทได้ และการดำเนินการของนายอนุสรณ์เข้าข่ายการมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วย 
สตง.จึงทำหนังสือถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ให้นำเงินจำนวน 54,870,000 บาท ส่งคืนคลัง อบจ.ชัยนาทด้วย และพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย หรือระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด ตนเองตามควรแก่กรณี ในฐานะผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงบประมาณ แต่มิได้ดำเนินการบริหารงบประมาณให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางราชการกำหนด

(อ่านประกอบ : "ชัยนาท"ต้นแบบ "บุรีรัมย์"! สตง.เชือด "อบจ." ใช้งบขนคนเชียร์ทีมกีฬา "นักการเมือง" ,สั่งคุมเข้ม อบจ. เบิกเงินท้องถิ่นจัดแข่งฟุตบอลไทยลีก-ชิงแชมป์มวยโลก !!)

นอกจากนี้ อบจ.ชัยนาท ก็ยังถูกสตง.ตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณในการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างป้ายประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์รูปนก LED Full Color Display ขนาด 4 x 6 เมตร จำนวน 2 ป้ายราคาต่อป้าย 9 ล้านบาท เป็นเงินเกือบ 18 ล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคากลางสูงเกินจริงหรือไม่  และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติสำนักงาน จังหวัดชัยนาท (ป.ป.จ.ชัยนาท) ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่เช่นกัน เนื่องจากมีการว่าจ้างในวงเงินสูง 
ส่วน นายสําเริง กิปัญญา ผู้อํานวยการโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ ที่ถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพราะเคยถูกชี้มูลเรื่องการทำเอกสารเบิกจ่ายเงินไม่ถูกต้องสมัยเป็น ผอ.โรงเรียน ในจังหวัดชัยนาท 
ส่วนข้อสงสัยของใครหลายคนว่า ทำไมถึง ไม่ปรากฎชื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ที่ถูกสตง.ชี้มูลความผิดโครงการประดับไฟ กทม. 39.5 ล้านบาท ไปแล้ว รวมอยู่ในบัญชีลอต 4 นี้ ด้วย 
แหล่งข่าวจาก ศอตช. มีคำอธิบายดังนี้ 
"อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารายชื่อข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น 60 ราย เน้นบุคคลที่ถูกชี้มูลไปแล้ว แต่หน่วยงานต้นสังกัดยังไม่ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสวนข้อเท็จจริงหรือทางวินัยอะไร"
"โดยในกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นั้น  ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด ได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และมอบหมายให้นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งความดำเนินคดีอาญาและแพ่ง กับผู้ว่าฯ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทที่ประมูลไปแล้ว ทางศอตช. จึงไม่ต้องดำเนินการอะไร"
และนั้นเป็นที่มาว่าทำไมชื่อของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จึงไม่ปรากฎรวมอยู่กับรายชื่อข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น 60 ราย ในบัญชีลอต 4

ไม่มีความคิดเห็น: