PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แค่มุกปั่นหุ้นเอามัน?

แค่มุกปั่นหุ้นเอามัน?



“คลายล็อก” กับ “ปลดล็อก” ความหมายมันคนละแบบกัน
เอาเป็นว่า จุดโฟกัสสำคัญอยู่ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เฉลยปริศนาข้อ 6 ในโปรแกรมคลายล็อกกฎเหล็ก
คสช.จะไฟเขียวให้มีการแก้ไขข้อบังคับพรรคการเมืองให้สามารถเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้สามารถจัดประชุมใหญ่ได้
ปมนี้แหละน่าจะเป็นไฮไลต์มากสุดในมุมการขยับเขยื้อนทางการเมือง
เพราะมันเท่ากับ “เขี่ยลูก” กระตุ้นแรงกระเพื่อม
ตามจังหวะ “กระฉอก” ก่อนเลยน่าจะเป็นคิวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่หน่วยซุ่มกำลังรอโค่นเก้าอี้ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค
โดยเงื่อนไขสถานการณ์ส่อแววเปิดศึกสายเลือด “หักดิบ”
แบบที่มีการตั้งแท่นรอเสียบทั้งคิวของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มวยสำรองสายปรมาจารย์ “ชวน หลีกภัย” และผู้ท้าชิงที่ไต่เพดานบินขึ้นมาอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก “มือปราบจำนำข้าว” ที่มีแนวร่วมสายไม่เอา “อภิสิทธิ์” พร้อมเทเสียงหนุน
ปชป.ต้องจูนเครื่องก่อนสูญเสียสถานะค่าย “ตัวแปร” สำคัญ
สถานการณ์ระอุไม่แพ้กันกับพรรคเพื่อไทยที่จ่อรอระเบิดศึกชิง “นอมินีภาค 3”
ตามท้องเรื่องที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ถือใบเบิกทางของ “นายหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้า” ท้าวัดดวงประลองกำลังกับ “เขยตระกูลชิน” อย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามี “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้แรงหนุนจากทีมน้องสาว “นายใหญ่ดูไบ”
เพื่อไทยหาหัวหล่อๆสวยๆเสียบยังไม่ได้
สวนทางกับอาการตีปี๊บ ปั่นตัวเลขที่ดีดขึ้นเหมือน “ปั่นหุ้น”
ล่าสุดดันไปทะลุ 260 เก้าอี้ ตามการคาดการณ์ของ “นายใหญ่” ล้อกับตัวเลขกลมๆที่ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย เพิ่งป่าวประกาศเพื่อไทยแบเบอร์ 250 อัป
แถมยังดีดลูกคิด นับนิ้วเผื่อไปถึงแนวร่วมอุดมการณ์เดียวกันอย่างพรรคอนาคตใหม่จะกวาด 40 เก้าอี้ แย่งฐานคนเมืองกับยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่จะหล่นไปเป็นพรรคต่ำร้อย
เพื่อไทยตีปี๊บตัวเลขลอยๆ ลุ้น “หิมะถล่มเมืองไทย”
แถมปล่อยนโยบายสไตล์เบิ้ลบลัฟเอามัน กระตุกต่อมสะใจกองเชียร์
ล้มกระดานเกณฑ์ทหาร ยกเลิกโครงการซื้อเรือดำน้ำ
ย้ำกระแสเกลียดชังทหาร ที่โค่นกระดานอำนาจ “ทักษิณ ชินวัตร”
แต่เรื่องของเรื่อง แค่พูดเอามันน่ะมันง่าย ของจริงว่ากันด้วยยุทธศาสตร์ความมั่นคง ตามสภาพการณ์สงครามเย็นโลกยุคใหม่ที่กำลังก่อตัว ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมการเมืองโลก ล่าสุดกองทัพจีนกับรัสเซียยกระดับการซ้อมรบใหญ่ เป็นนัยทำสงครามเย็นยุคใหม่กับ “พี่เบิ้ม” สหรัฐอเมริกา ภายใต้ยุคของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ขยายอิทธิพลเข้ามาในเขตทะเลจีนใต้
ในสถานการณ์ที่ไทยเป็นศูนย์กลางดุลอำนาจโลกในภูมิภาค ขืนไม่มีเขี้ยวเล็บ มีหวังตกเป็นเบี้ยล่าง
ไร้อำนาจต่อรองทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
ที่บอกเรือดำน้ำไม่จำเป็นเพราะวันนี้ไม่มีสงคราม น่าจะไม่ใช่
เช่นเดียวกับการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ในสถานการณ์แท้จริง ถ้าไม่มีใครรับใช้ชาติเลย เวลาโดนข้าศึกรุกราน เกิดปัญหากระทบกระทั่งชายแดนเขมร พม่า ลาว จะเอาอะไรไปป้องกัน
เพื่อไทยกำปั้นทุบดิน เอะอะก็ล้มกระดาน มันดูเหมือนเด็กเล่นกัน
ตรงกันข้าม แว่วๆพรรคหนุน “ลุงตู่” จะชูนโยบายหาเสียงเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารเป็น “สปิริต” ความรับผิดชอบของลูกผู้ชาย ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ก็ยังมีทหารเกณฑ์
แต่จะเพิ่มออปชันจูงใจให้ชายไทยสมัครใจเข้ารับใช้ชาติแบบเต็มใจ
ด้วยการมอบสิทธิพิเศษมากมายให้คนเป็นทหารเกณฑ์
เริ่มตั้งแต่เรียนฟรี สิทธิการรับสวัสดิการจากรัฐบาลก่อนประชาชนทั่วไป เช่น การจองบ้านราคาถูก การกู้เงินจากธนาคาร การประกอบ
อาชีพหลังปลดประจำการ การเข้าทำงานหน่วยงานรัฐ การรักษาพยาบาล ฯลฯ
เรื่องของเรื่อง ตามสภาพการณ์ที่ทหารเกณฑ์ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนจากต่างจังหวัดที่ขาดโอกาส ด้วยนโยบายแบบนี้จะแก้ปัญหาเกณฑ์ทหารและปัญหาการว่างงานไปพร้อมกัน
ว่ากันว่า นโยบายง่ายๆเรื่องทหารเกณฑ์ เป็นแนวคิดของไอ้หนูเด็กไทยที่เรียนอยู่สหรัฐฯ
ทายาทของบิ๊กๆในรัฐบาล “ลุงตู่” นั่นแหละ.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: