ปีแห่งการแสวงหา เจตจำนงทั่วไป โดย ปราปต์ บุนปาน
ผู้เขียน | ปราปต์ บุนปาน |
---|
ช่วงหนึ่งของการสนทนา อาจารย์เกษียรพาทุกคนย้อนกลับไปทบทวนแนวคิดว่าด้วย เจตจำนงทั่วไป (the general will) และ เจตจำนงเฉพาะส่วน (the particular will) ของ ฌอง ฌาคส์ รุสโซ นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส
ตามแนวคิดของรุสโซ ในสังคมการเมืองหนึ่งๆ จะมีเจตจำนงอยู่สองแบบ คือ
หนึ่ง – เจตจำนงทั่วไป ที่ยึดถือประโยชน์ของสังคมทั้งหมด-ประโยชน์ส่วนรวม เป็นที่ตั้ง
สอง – เจตจำนงเฉพาะส่วน เฉพาะกลุ่ม เฉพาะบุคคล ที่ยึดถือผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง
โดยปกติ เจตจำนงทั้งสองแบบจะต้องดำรงอยู่เคียงคู่กันในสังคมการเมือง และจะขัดแย้งต่อสู้กันไปตามวิถีทาง เป็นธรรมดา
อย่างไรก็ดี สำหรับสังคมการเมืองไทยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา อาจารย์เกษียรอดเป็นห่วงและวิตกกังวลไม่ได้ว่า ถ้าประเมินจากข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับผู้มีอำนาจ เรามักจะได้เห็นแต่เพียงการคำนึงถึงเจตจำนง-ผลประโยชน์เฉพาะส่วน เฉพาะกลุ่ม เฉพาะบุคคล
หาก บุคคลสาธารณะ ประพฤติปฏิบัติตัวเป็น บุคคลเอกชน มากขึ้นเรื่อยๆ หาก เจตจำนงเฉพาะส่วน เข้าแทนที่ จนไม่มีพื้นที่เหลือว่างให้ เจตจำนงทั่วไป
เมื่อนั้น คำถามถึงอนาคตอันไม่แน่นอนของสังคมการเมืองไทยก็จะยิ่งก้องดังและขยายกว้าง
ดังที่ ศ.ดร.เกษียรกล่าวกับทีมผู้สื่อข่าวว่า สังคมใดที่ไม่มีเจตจำนงทั่วไปที่ชัดเจน จะปฏิรูปไปได้อย่างไร และจะปฏิรูปไปเพื่อประโยชน์ของใคร ถ้ามีแต่เจตจำนงเฉพาะส่วน ที่ยึดถือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เฉพาะสถาบัน เฉพาะบุคคลเป็นที่ตั้ง
คำถามต่อเนื่องที่สามารถนำไปคิดต่อได้ ก็คือ เจตจำนงทั่วไป และเสียงที่เป็นตัวแทนของเจตจำนงดังกล่าว จะปรากฏขึ้นเมื่อใด? และอย่างไร?
พ.ศ.2562 น่าจะเป็นโอกาสอันดีและเหมาะสม ที่คนไทยจะได้ร่วมกันแสวงหา “เจตจำนงทั่วไป” ครั้งใหม่ เพราะนี่คือปีแห่งโอกาสสำคัญและยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ ทั้งยังเป็นปีของการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะทำให้ประชาชนทุกฝ่ายได้รับฟังเสียงและทรรศนะทางการเมืองของกันและกัน ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีปีไหน ซึ่ง “ความเป็นไปได้” ในการแสวงหา “เจตจำนงทั่วไป” จะเปิดกว้างเท่ากับปีนี้อีกแล้ว
ปราปต์ บุนปาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น