PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เปิดบทสนทนาลับปูไม่รู้ “ใครอมเงินเหยื่อแดง!?!”

โดย ขำ เคืองใจ

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.56 พะเยาว์ อัคฮาด และญาติเหยื่อจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองจนนำมาซึ่งการเผาบ้านเผาเมืองได้เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน แทนการเดินหน้าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการและคณะ เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายฉบับนิรโทษเหมาเข่ง คุมเคลือ

การได้พบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ กลุ่มญาติเหยื่อ ยังได้สะท้อนเรื่องราวความเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มตนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ถึงขั้นที่คนของรัฐไม่เข้าใจ ไม่ดูดำดูดี แม้กระทั่งนายกฯ ก็ไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง

กระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกัน กลุ่มญาติเหยื่อ ในนาม “จากพี่ พายุ เรดสยาม(นุ้ย แดงสยาม ) จึงได้ถ่ายทอดถ้อยคำการสนทนาชนิดคำต่อคำ ไปยังเครือข่ายญาติเหยื่อ มีเนื้อหาน่าสนใจยิ่ง โพสต์ทูเดย์จึงนำมาตีแผ่ให้เห็นความเป็นไปทั้งหมด โดยเฉพาะ กับคำกล่าวที่ระบุว่า “ ขนาดนายกฯไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย”

เหตุใด ญาติเหยื่อเสื้อแดง ถึง ระบายความในใจขนาดนั้น ด้วยคำว่า นายกฯไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย แม้แต่เรื่องนี้ .....
..............

วันนี้ช่วงประมาณ11.00น.ได้ไปยื่นจม.ให้พรรคภูมิใจไทย เพราะทางญาติผู้เสียหายได้ยื่นขอการสนับสนุนจากทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านและพรรคภูมใจไทยมีมติพร้อมสนับสนุน พรบ.ฉบับนี้เข้าสู่วาระการประชุมในวันเปิดสภานี้ พร้อมประสานกับทางญาติผู้เสียหายมา เพื่อรับจม.ในวันนี้

จากนั้นเวลาประมาณ14.30น. ได้รับการประสานเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลห้องสีเขียว

แรกที่เราเห็นชื่อห้องยังคุยกันว่า สีของห้องมีนัยยะอะไรป่าว? ประมาณว่าถ้าไม่มีสีนี้หนุนจะไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ แล้วก็นั่งหัวเราะกัน สักพักประมาณ15นาที นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดินทางมาโดยส่งรอยยิ้มและยกมือไหว้ไปทั่วทุกคน จากนั้นกองทัพนักข่าวก็กดชัตเตอร์รัวจนเรานึกว่านั่งอยู่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 10เม.ย 53 สักพักหลังจากนักข่าวถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจแล้ว คุณหนุ่ย(การ์ดประจำตัวตั้งแต่สมัยนายกทักษิณ) ซึ่งคุ้นหน้ากันดี ก็ขอร้องให้นักข่าวไปรอด้านนอก จากนี้ เป็นการเจรจาโดยรวมที่นายกได้คุยกับแม่น้องเกด เป็นคนแรก.........................

-เรื่องพรบ.ขอให้นายกรับพิจารณาร่างพรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ด้วย เพราะตั้งใจร่างเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนทุกฝ่ายที่สูญเสียจริงๆ

โดยนายกรับว่าตอนนี้ คุณพงษ์เทพ เทพกาญจนา กำลังศึกษาในข้อที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้อยู่ เสร็จเมื่อไหร่ จะมาชี้แจงรายละเอียดโดยเร็ว เพราะเข้าใจถึงครอบครัวที่สูญเสียเพราะถ้าใคร ไม่โดนกับตัวจะไม่มีวันเข้าใจเช่นครอบครัวดิฉันว่าเจ็บปวดอย่างไร? พอพูดเช่นนี้ขึ้นมาบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความอัดอั้น น้ำเสียงสั่นครือ ขอบตาแทบทุกคนเริ่มแดง เข้าใจในกันและกันทันที

-ทางพ่อน้องเฌออธิบายว่า พรก.ของวรชัย เหมะ และ พรบ.ฉบับ ญาติฯมีแตกต่างกันแค่ 3ข้อ
คือ.พรบ.ของญาติผู้สูญเสียเขียนระบุไปเลยว่า

ก.เป็นการครอบคลุมการกระทำทางการเมืองตั้งแต่ รัฐประหาร2549 โดยนิรโทษกรรมให้กับประชนทุกสีเสื้อ และ สำหรับผู้ที่ต้องไปติดคุกติดตะรางนั้นรัฐบาลจะต้องจ่ายเงินทดแทน ให้เท่ากับที่ทางกฏหมายได้เขียนกำกับไว้ เพราะถือเป็นผลพวงทางการเมือง ซึ่งข้อนี้ ฉบับวรชัยเหมะ ไม่มี

ข.การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำนอกเหนือคำสั่ง การสลายการชุมนุมในหลักสากลที่ให้ ยิงต่ำกว่าเข่า ยิงขึ้นฟ้า ตามคำสั่ง ศอฉ. ทหารที่ละเมิดคำสั่ง ยิงศพละเป็น10นัด หรือยิงนัดเดียวเข้าศีรษะแล้วเสียชีวิตทันทีเป็นจำนวน หลายรายนั้นฉบับนี้ไม่นิรโทษกรรมให้เพราะถือเป็นการเกินกว่าเหตุ ซึ่งฉบับวรชัย เหมะนิรโทษกรรมยกเข่ง(ตามคำยืนยันของวรชัยเอง)

ค.คุ้มครองการวางเพลิงในสถานที่เอกชน หมายถึงในสถานที่ราชการ ใครวางเพลิงถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นการต่อสู้กับภาครัฐ รัฐเป็นคู่กรณีกับประชาชนเมื่อประชาชนโกรธแค้นรัฐบาล ที่ยิงพวกเขาพวกเขาจึงต้องตอบโต้ ไม่ถือเป็นความผิด เพราะยุค 14ตค.19 หรือวันที่17พค. 35(พฤษภาทมิฬ)ก็มีการวางเพลิงทั้งสิ้น แล้วก็มีกฏหมายนิรโทษกรรมให้ประชาชนเช่นกัน ซึ่งข้อนี้ ฉบับวรชัยเหมะไม่มี (สำหรับกรณีนี้ คนที่เผาเซ็นทรัลเวิลล์ ต้องมีความผิด และทางศาลได้ตัดสินคนเสื้อแดงแล้วโดยยกฟ้องทุกคดี และทางฝ่ายเสื้อแดงและผู้ดูแลด้านอัคคีภัยของห้างยืนยันตรงกันว่าผู้เผาเป็นกองกำลังติดอาวุธแต่งกายคล้ายทหาร มิใช่คนเสื้อแดงเผา)

แต่หากในอนาคตจับตัวสอบแล้วตัดสินว่าผู้ใดเผา ผู้นั้นต้องได้รับโทษ เพราะพวกเรามันพ้นผิดไปหมดแล้วจาก ทุกคดี ที่ศาลยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ แล้วพวกต่างจังหวัดที่โดนข้อหาเผาศาลากลาง ยิ่งไม่ควรมีความผิด เพราะนั่นเป็นการเผาสถานที่ราชการเชิงต่อต้านอำนาจรัฐจากการถูกเข่นฆ่า ซึ่ง พรบ.นี้ระบุ ไม่มีความผิด) ซึ่งทั้งหมดนี้ ฉบับวรชัยเหมะไม่มี.

เมื่อได้อธิบายให้นายกฟังเป็นที่เข้าใจแล้ว นายกรับปากว่า อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์ ของประชาชนโดยส่วนรวม ท่านยินดีสนับสนุนเสมอ เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนอยู่แล้ว พูดจบประดยคนี้ ญาติผู้เสียหายตบมือกันใหญ่

-เรื่องเยียวยาแม่น้องเกดแจ้งนายกว่ามีประชาชนคนเสื้อแดง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดกำลังลำบากอย่างมาก นายกแย้งมาเลยว่าก็อาจารย์ตุ้มกับอาจารย์หวานมาทำเรื่องไว้แล้วไง (ประโยคนี้ได้ยินเต็มสองหู ได้ยินกันทั้งห้อง เพราะนายก ตอบสวนกลับมาด้วยเสียงค่อนข้างดัง) นายกจึงบอกให้ส่งแฟ้มของผู้เสียหายทั้งหมดกับคุณสุภรณ์ (แรมโบ้) เป็นผู้รับเรื่อง แล้วคอยจี้ถามได้เลย

พร้อมทั้งบอกเคสที่ตาใกล้บอดทั้ง 2ข้าง 1คนซึ่ง แม่น้องเกดประสานมาพบนายกด้วย โดยเขายกมือไหว้นายก แล้วบอกว่าตาเขาบอดขนาดนี้ แต่ธงทอง แทงเรื่องว่า บาดเจ็บเล็กน้อย ได้เงินเยียวยามานิดหน่อย เขาเอาลูกสาวมาด้วย2คนได้พูดคุยอธิบายกับนายก

แล้วแม่น้องเกดเล่าให้ฟังว่าเคยเอาเคสนี้ไปถาม เรื่องที่ธงทองว่าทำไมหาว่าเขาบาดเจ็บเล็กน้อย ธงทองมันตะคอกใส่หน้าแม่น้องเกดเลยว่า ทั้งหมดมันมีอำนาจในการพิจารณาต่อให้นายกก็มาสั่งมันไม่ได้ พอได้ยินแบบนี้ นายกก็ก้มหน้าเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าน้ำตาไหล แล้วพูดว่า"ทำไมทำกันแบบนี้" (คนของธงทองมันมานั่งฟังไปรายงานด้วยนั่งอยู่หลังแม่น้องเกดพอดี หน้ามันเหลือ 2นิ้วไม่กล้าสบตาใครเลย)

จากนั้นเป็นการคุยเรื่อง ปลีกย่อยต่างๆแล้วพวก ญาติผู้เสียหายขออนุญาต ถ่ายรูปกับนายก นายกบอกว่าเข้ามาเลยค่ะมาถ่ายเลย พอใครถึงตัวนายกก่อนก็เข้าไปกอดก่อนแล้วร้องไห้ ร้องกันทุกคน ยิ่งลุงที่โดนทหารตี พูดกับนายกว่าคิดถึงพี่ชายคุณ เราจึงบอกนายกยิ่งลักษณ์ว่าลุงหมายถึงนายกทักษิณน่ะค่ะ เพราะลุงลิ้นแข็งพูดได้ไม่ชัดพร้อมทั้งร้องไห้แล้วเอามือ ข้างที่ งอนั้น ทุบที่ตรงหัวใจ แล้วบอกว่าอยู่ในนี้ยังไงก็ไม่มีวันลืม

นายกร้องไห้แล้วพูดว่านายกทักษิณก็คิดถึงพวกเราเหมือนกัน ทุกคนเข้าไปพูดกับนายกในสิ่งที่อยากให้พรรคเพื่อไทย ทำเพื่อประชาชนคนละประโยค จำไม่ได้ว่าใครพูดอะไรมั่ง จนหมดทุกคนแล้วเราจึงเดินเข้าไปจับมือนายกแล้วบอกว่า

ขอให้พรรคเพื่อไทยเลิกสนับสนุนนักการเมืองที่เลว เพราะจะทำแต่สิ่งเสียหายให้กับพรรค นายกบอกว่าได้ซิคะ อยู่จังหวัดไหนเหรอ? เราจึงบอกไปว่าเราอยู่ กรุงเทพฯ แล้วมีใครไม่รู้ตะโกนบอกนายกว่าคนนี้สู้มาตั้งนานแล้วท่าน ไม่แน่ใจว่าทีมงานของนายกคนไหนพูดขึ้นมาเพราะไม่ได้หันไปมอง จนเสร็จสิ้นก็พากันกลับ

เราจึงพอสรุปได้ว่าขนาดนายก ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย อยู่ในประเทศนี้แท้ๆ เห็นมีคนมาขอ มีรูปมีหลักฐานก็คงให้เงินไป แต่ไม่เคยรู้เลยว่า เงินนั้นมันไม่เคยมาถึงมือเสื้อแดงผู้เสียหายแม้สักนิด

ยิ่งนายกทักษิณอยู่เมืองนอกจะได้รู้อะไรมั่งไหมเนี่ย? ใครจะให้มวลชนทำอะไรก็บอกว่านายกทักษิณสั่งให้ทำทั้งนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไม?จึงมี นักการเมืองในพรรคโจมตี ทางฝ่ายเรามากมาย เพราะไปเหยียบทับเส้นผลประโยชน์ พวกเขานี่เอง แต่ขอโทษนะใครเคยทำแบบนี้ป่านนี้คงหนาวๆร้อนๆ เพราะนายกรับทราบความจริงทั้งหมดแล้ว

แค่นี้ พวกเราก็พอใจจึงยกเรื่องนี้ให้สังคมได้ตัดสิน ว่าสิ่งที่เราทำลงไปทุกอย่าง ไม่ใช่เพื่อประชาชนหรอกหรือ? ที่จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์

ไม่มีความคิดเห็น: