PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

'สะสม-ซับซ้อน' ใกล้ตอนแตกเมือง ..

โดย เปลว สีเงิน 
: 3 October 2556

ก็ชอบแล้วที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่เบรกนายกฯ ยิ่งลักษณ์นำร่าง "รัฐสภาผัว-เมีย" ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ตามคำร้อง ส.ส.ฝ่ายค้านและ ๔๐ ส.ว. เพราะการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายนั้น จะว่าไปแล้ว ก็เป็นไปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญบัญญัติ จริงอย่างที่ยิ่งลักษณ์ท่องจำมาอ้าง 

แต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญท่านให้ความสำคัญและเพ่งเล็งถึงคือ "ความผิด-ความถูก" ในเนื้อหาที่แก้และวิธีการแก้มากกว่า ว่าที่ ๓๕๘ ส.ส.-ส.ว.รวมถึงนายกฯ และประธานรัฐสภาร่วมหัว-ร่วมหางทำกันนั้น

มันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและกฎ-กติกาหรือไม่?

นี่...ตรงนี้คือ "หัวใจ" ของเรื่องราวที่ศาลท่านรับไว้พิจารณา โดยเฉพาะประเด็น "เสียบบัตรแทนกัน" ในการโหวตร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขมาตราว่าด้วยที่มา ส.ว.สู่การสถาปนา "รัฐสภาผัว-เมีย" นั่นน่ะ

ทั้งโมฆะ ทั้งผิดกฎหมายหรือไม่?

ตรงนี้อยู่ในการวินิจฉัยของตุลาการท่านแล้ว เรื่องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายหรือไม่นำขึ้นนั้น จะว่าไปแล้ว มันเป็นแค่เปลือก-แค่กระดาษห่อที่ไหลมาตามขั้นตอนระบบเท่านั้น

ยิ่งลักษณ์ในกรณีนี้ก็ประมาณนั้น วันๆ นั่งรถตู้มาทำเนียบฯ ก็ท่องโพยที่พวกกุนซือเขาเขียนมาให้ท่องไว้ตอบนักข่าวไปตามเรื่องตามราว แต่ผมขอชมนะว่าเธอเป็นนายกฯ "ความจำดี-ความเข้าใจแย่" ที่ ๑ ในประเทศ

เมื่อวาน (๒ ต.ค.๕๖) เจอหน้านักข่าว ก็ร่ายโศลก....

"ดิฉันก็ต้องยึดหลักตามข้อกฎหมาย ในส่วนของความเห็นนั้นก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้น รัฐบาลก็ต้องยึดตามหลักของข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ อย่างที่เรียนว่า
อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติคืออำนาจของประชาชนและรัฐสภา อำนาจของฝ่ายบริหารก็ต้องแยกกัน ดิฉันเองก็มีหน้าที่ทำตามของรัฐธรรมนูญเท่านั้น"

โหย...เท่อะ ไหนอธิบายนิดซิ "ฝ่ายนิติบัญญัติคืออำนาจของประชาชนและรัฐสภา" น่ะ มันหมายความว่าไง?
ยิ่งลักษณ์เอ้ย...เธอน่ะ ก็เป็นได้อย่างที่ทำเท่านั้น ไม่สามารถเป็นได้อย่างที่พูดหรอก ไอ้การยึดหลักกฎหมายอะไรของเธอน่ะ ไหน...อะไรมันคือหลักที่เธอยึด?

ก็เรื่อยเจื้อยส่งเดช อย่าเที่ยวทำเป็นดีใจที่ศาลท่านไม่บอกห้ามและไม่บอกอนุญาตในการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น ศาลท่านเน้น "เนื้อใน" มากกว่าเปลือกนอก

รัฐธรรมนูญที่แก้นั้น มันเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนกันมั้ย ต่างตอบแทนระหว่างรัฐบาลกับ ส.ว.มั้ย เป็นการล้มล้างกรอบและหลักการตามรัฐธรรมนูญบัญญัติมั้ย มันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมั้ย และการแก้นั้น สอดคล้องเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่?

รูปแบบ "รัฐสภาผัวเมีย" สร้างระบบการเมืองฝังโคตร-ฝังเขี้ยว มันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมั้ย...ตรงนี้แหละ อยู่ในกรอบอำนาจ-หน้าที่ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านต้องวินิจฉัย ในเมื่อมีผู้ยื่นคำร้อง

สรุปคือ ขั้นตอนพิธีกรรม ศาลท่านไม่สน แต่ตรงเนื้อหา "พวกคุณ แก้จากอะไร-ไปเป็นอะไร-แบบไหน-นำไปสู่อะไร-ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติหรือไม่?"

นี่...ต้องแยก ศาลท่านสน ยิ่งโดยเฉพาะประเด็น "โหวตเสียงด้วยการเสียบบัตรแทนกัน" อย่างที่ลูกพรรคเพื่อไทยทำ คนเดียว แต่กดบัตรลงคะแนน ๓-๔ ใบ มันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญบัญญัติหรือไม่?

ศาลท่านจะทำหน้าที่ตรงนี้ รัฐบาลก็อย่าพูดบิดประเด็นให้คนไม่รู้เห็นตามผิดๆ!

สำหรับพวกเราทั้งหลาย จะแหกกระดองปูกินเนื้อให้อร่อย ก็ต้องหัดใจเย็น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่าน "ยึดกฎหมาย" ในการทำหน้าที่ เหมือนอย่างที่ยิ่งลักษณ์คุยว่ายึดนั่นแหละ

ฉะนั้น ต้องเป็น-ต้องไปตามขั้นตอน การใช้กฎหมาย "ยึด" มันยังยึดไม่แน่น ถ้าจะให้แน่นแบบดิ้นไม่หลุดต้องใช้แบบ "ยึดโยง"

อย่างรัฐธรรมนูญที่แก้ ก็แก้เฉพาะกลุ่มมาตราว่าด้วยที่มา ส.ว. แก้โดยยึดเอาประโยชน์ที่ ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว.สายทักษิณร่วมกันได้ในความเป็น "รัฐสภาผัวเมีย"

คือแก้เฉพาะสิทธิ์ที่ตัวเองจะได้ แต่ในส่วนที่จะประชาชนจะได้บ้าง กลับไม่แก้คืนให้ประชาชน ตีขลุม "ทำเฉย" ยึดครองไว้อย่างเดิม

เดิมเขาร่างไว้อย่างยึดโยง ระหว่างตำแหน่ง ส.ว.กับอำนาจหน้าที่ ส.ว.อันมีที่มาจากสรรหาส่วนหนึ่ง กับ ส.ว.เลือกตั้งอีกส่วนหนึ่ง เพื่อปริมาณและคุณภาพรวม

แต่เมื่อแก้ให้มาจากเลือกตั้งทั้งหมด ๒๐๐ คน ซึ่งร้อยพ่อ-พันแม่จากไหนบ้างไม่สามารถคัดสรรที่วางใจได้ ผิดจากรูปแบบและโครงสร้างเดิม ก็ควรต้องแก้ "บทบาทและหน้าที่วุฒิสภา" ให้สอดคล้องกับที่มาด้วย

คือเขาแก้ "ที่มา" ส.ว.แล้วก็ฮุบ "อำนาจ-หน้าที่" ล้นฟ้าของ ส.ว.ตามโครงสร้างเดิมไว้ด้วย ไม่ยอมกระจายอำนาจ-หน้าที่นั้นออกไป ให้สอดคล้องกับที่มาใหม่ของ ส.ว.ซึ่งไม่ผิดอะไรกับ ส.ส.

อำนาจ-หน้าที่ ส.ว.มีอะไรบ้าง?

ก็อย่างที่บอกไปแล้ววันก่อน มีอำนาจควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งตั้งและถอดถอน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, กกต., ป.ป.ช., อัยการสูงสุด, ผู้ตรวจการแผ่นดิน, กรรมการสิทธิมนุษยชน, ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ฯลฯ

ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และรับทราบหรือให้ความเห็นชอบในการสืบราชสมบัติ
และตั้งแต่นายกฯ-รัฐมนตรี-ส.ส.-ส.ว.-ประธานศาลทุกศาล-ผู้พิพากษา-อัยการ ทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในกำมือส.ว.จะรวมหัวถอดถอนซะเมื่อไหร่ก็ได้!
เนี่ย...อำนาจล้นฟ้าของ ส.ว.ตามโครงสร้างเดิมคร่าวๆขนาดนี้ แต่เมื่อแก้เป็น "รัฐสภาผัว-เมีย" แล้ว ในมาตราที่ว่าด้วย "อำนาจ-หน้าที่" ก็ไม่แก้ คงไว้ตามเดิม ก็ลองเอาหัวแม่ตีนตรองดูซิ เอาเนื้อฝากไว้กับฝูงไฮยีนาอย่างนี้
ประเทศไทยจะเหลือเรอะ?
ส.ส.ระบอบทักษิณวันนี้ พฤติกรรมเป็นอย่างไร แก้เป็นส.ว.เลือกตั้ง ๒๐๐ คน ด้วยระบบแตกหน่อ-ต่อตาอำนาจในพื้นที่เดิม เมื่อเลือกตั้ง ส.ว.ส่วนใหญ่ที่จะได้ ก็จะได้ ส.ว.ระบอบทักษิณ
ส.ส.ระบอบทักษิณ+ส.ว.ระบอบทักษิณ เป็นสถาบันนิติบัญญัติ "รัฐสภาผัว-เมีย" ผลลัพธ์จะเท่ากับอะไร นักเรียนยุคแท็บเล็ต "แดกได้" ตอบซิ?
ถ้าตอบไม่ได้ ดูตัวอย่างพฤติกรรม "วุฒิสภา" วานซืนจากข่าว เป็นมรณานุสติ
๑ ต.ค.๕๖ เมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. ที่ประชุมวุฒิสภา ดำเนินกระบวนการถอดถอน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และนายไกรสร พรสุธี อดีตปลัดกระทรวงไอซีที ออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๐
เนื่องจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เพราะทั้ง ๒ ได้กระทำความผิดต่อตำแหน่งราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ เนื่องจากได้มีการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ฉบับที่ ๕ เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค.๔๗
เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องถือในบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จากไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๑ ไปเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔๐ ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำหน้าที่อย่างมิชอบและผิดกฎหมาย
การลงคะแนนดังกล่าวได้ใช้วิธีลงคะแนนลับในคูหา และต้องมีเสียงถอดถอนไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๕ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือ ๙๐ เสียง
ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติถอดถอน นพ.สุรพงษ์ ๗๑ เสียง ไม่ถอดถอน ๕๙ เสียง และมีมติถอดถอนนายไกรสร ๖๖ เสียง ไม่ถอดถอน ๖๖ เสียง งดออกเสียง ๑ ทำให้นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม แจ้งว่า เสียงถอดถอนไม่ถึง ๓ ใน ๕ จึงถือว่าที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่ถอดถอนบุคคลทั้ง ๒ ออกจากตำแหน่ง
เห็นมั้ย...นี่ขนาดวุฒิสภาอาคมแค่ "หูด่าง-หางแดง" ยังเป็นไปขนาดนี้ ต่อไปเป็น "รัฐสภาผัว-เมีย" แดงตลอดหัวยันหางและใต้หว่างขา แล้วอ้างอย่างที่ยิ่งลักษณ์ท่องอาขยานเมื่อวาน "ฝ่ายนิติบัญญัติคืออำนาจของประชาชนและรัฐสภา"
ทักษิณสถาปนา "แดงทั้งแผ่นดิน" ได้เลย!

ไม่มีความคิดเห็น: