PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน :แฉ..แก๊งค์อั้งยี่แดง ลอยแพแล้วบอกไม่ได้สั่ง.ชายชุดดำต้องรับผิดเอง

แฉ..แก๊งค์อั้งยี่แดง ลอยแพแล้วบอกไม่ได้สั่ง.ชายชุดดำต้องรับผิดเอง
โดย แฉ..ความลับ
รูปภาพ 89 รูป

19 ก.พ.57 แฉ..แก๊งค์อั้งยี่แดง ลอยแพแล้วบอกไม่ได้สั่ง.ชายชุดดำต้องรับผิดเอง

เมื่อวานช่วงเช้า บริเวณ สะพานผ่านฟ้า หลังจากเชพกระทะเหล็กขายฝักข้าวโพด และคั่วข้าวโพดร้อนหอมกรุ่นแจกชายชุดดำจนกระเจิดกระเจิงไป ต่อมาช่วงบ่าย ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ของเป็ดเหลิมก็ไม่ลดละ สั่งให้ชายชุดดำขอคืนพื้นที่จากมวลชน กปปส.ที่กระทรวงคลองหลอดอีกจุด ส่งผลให้มวลชน กปปส.ได้นำรถเมล์มาจอดปิดถนน 

จากนั้นชายชุดเขียวในเครื่องแบบก็สั่งห้ามไม่ให้ชายชุดดำใช้ถนนเคลื่อนกำลังพลผ่านเข้าใกล้กระทรวงกลาโหม เพื่อที่จะไปถึงกระทรวงคลองหลอดได้..และเมื่อเช้านี้ ผบ.พล1 ได้จัดส่งกำลังพลชายชุดเขียว เข้าไปดูแลความปลอดภัยประชาชนรอบทำเนียบเพิ่มเติม

เมื่อเช้ามวลชน กปท.ที่ชุมนุมจุดกระทรวงพลังฯ ที่โดนชายชุดดำควบคุมตัวไปตั้งแต่เมื่อวานช่วงเช้า ได้รับประกันตัวไปเกือบเกลี้ยงแล้ว 140 คน เนื่องจากเพราะเป็นความนิดๆ หน่อยกีดขวางการจราจรเท่านั้น เหลืออีกเพียง 2 คนเท่านั้นที่กำลังดำเนินการประกันตัว

ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้เปาบุ้นจิ้น ได้ตัดสินหักคอดังกร๊วบอีก ห้ามไม่ให้ปูเน่า ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) โดย เป็ดเหลิม ปึ้งเหม่ง และ อับดุล กระทำการ ดังนี้
1. ประกาศ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ประกาศมาแล้วให้ยกเลิกเป็นโมฆะทั้งหมดทุกฉบับ ห้ามนำมาใช้กับผู้ชุมนุม กปปส.
2. ห้ามใช้กำลังชายชุดดำ และห้ามใช้อาวุธทุกชนิด (แม้แต่ไม้จิ้มฟัน) สลายการชุมนุม กปปส. โดยเด็ดขาด เหตุเพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ตามที่เปาบุ้นจิ้นรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้แล้ว 
3. ห้ามสั่งอายัดอาหาร และเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ซื้อของที่จะนำเข้าจุดชุมนุม ให้เอาเข้ามาได้อย่างเสรี (ส่งผลเอาปุ๋ยยูเรียเข้าไปได้ไม่อั้นจำนวน)
4. ห้ามรื้อบังเกอร์ จุดตรวจค้น และแนวป้องกันสิ่งปลูกสร้างใดๆ และห้ามปิดการจราจรของผู้ชุมนุม กปปส. เด็ดขาด
5. ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายการชุมนุมบนถนน หรือเข้าไปในที่ชุมนุม ได้โดยเสรีภาพ

สิ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้ หรือรู้น้อย คือ ในสมัยที่ชายดูไบเป็นนายกฯ ได้มีการสั่งย้ายศาลพระภูมิจากด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ย้ายไปยังด้านซ้ายของตัวตึก จนร่วงจากอำนาจ ออกจากตึกไทยคู่ฟ้าอย่างไม่มีวันกลับ เขาจึงพยายามแก้ของด้วยพิธีกรรมอื่นๆ หลายทาง เช่น การเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในระดับเทพ หรือระดับเจ้าหัวเมือง อยู่หลายครั้ง 

เมื่อคราเผาเมืองปี 53 ทาสนรกอเวจีแดง จึงนำพราหมณ์จากเมืองคอน ทำพิธีเทราดเลือดที่ธรณีประตูทางเข้า-ออก เป็นรูปกากบาท และใช้เท้าที่ชุ่มไปด้วยเลือด ยกขึ้นมายันเสาประตู หมายเลข 1 และ 2 ทางเข้าทำเนียบ ของตึกไกรสรไทยคู่ฟ้า เพื่อให้ชายดูไบ สามารถกลับเข้าทำเนียบได้อีกครั้ง 

อีกทั้งบริเวณทางเข้า-ออก นี้ เป็นเส้นทางเสด็จฯ เข้า-ออก ของพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกครั้งที่มีพิธีการสำคัญ ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย การทำพิธีครั้งนั้นคือเขาต้องต่อสู่และยันคุณไสยสถาบันนั่นเอง แต่การกระทำของสมุนอเวจีแดงครั้งนั้น มีเจ้าหน้าที่จากกองอาคารสถานที่ มาเฝ้าจับตาดู จากนั้นได้รีบทำพิธีแก้ของโดยทันที

ที่ปรึกษาฝ่ายไสยศาสตร์หม่อง ได้ฟันธงว่าปูเน่าต้องเข้าเหยียบทำเนียบให้ได้ภายใน 19 ก.พ. เพื่อไปทำพิธีแก้อาถรรพ์ เพื่อทำพิธีมนต์ดำ กับพระพรหมหน้าตักกว้าง 24 นิ้ว ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดตึกไทยคู่ฟ้า จากปกติปิดทอง ปูเน่าต้องเอาสีชาดไปทาบนองค์พระพรหมทำให้เป็นสีแดงทั้งองค์ ถ้าทำไม่สำเร็จจะหลุดจากตำแหน่งนายก และถึงขั้นตายยกแผง หรือ ตายทั้งโคตร รวมทั้งชายดูไบจะกลับไทยไม่ได้อีกตลอดไป 

ชายดูไบจึงสั่งเป็ดเหลิม และสมุนทาส เดินหน้าลุยเต็มตัวในช่วงนี้ การข่าวระบุว่าชายดูไบยื่นเงื่อนไขที่ทำให้เป็ดเหลิมตาโตเท่าไข่ห่านคือ หากแก้เกมการเมืองครั้งนี้ได้ จะให้นั่งเก้าอี้นายกไปเลย และให้งบอัดฉีดในการทำร้ายประชาชน 1,000 ล้านบาท 

แต่จากการแก๊งค์อั้งยี่แดง ที่เป็ดเหลิม และ พรรคพวกใน ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ได้ออกคำสั่งโดยวาจาไม่เซ็นต์เอกสาร ลุแก่อำนาจเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนเมื่อ 18 ก.พ.57 จนเกิดการปะทะและมีชายชุดดำ และประชาชน ตาย 5 คนเจ็บอีกเกือบ 70 คนนั้น 

วันนี้ปึ้งเหม่งได้ออกมาลอยแพชายชุดดำแล้ว โดยแถลงว่าปูเน่าไม่ได้สั่งสลายผ่านฟ้าฯ โบ้ยเป็ดเหลิมเป็นคนสั่งทำ ส่วนเป็ดเหลิมก็บอกไม่ได้เซ็นต์คำสั่ง อับดุลก็ไม่เซ็นต์ ลอยแพว่าชายชุดดำผู้ปฏิบัติทำกันเอง !! ในที่สุดนักการเมือง ก็ลอยแพชายชุดดำจริง ๆ ที่ไปทำตามคำสั่งมันด้วยวาจา พอคนเจ็บ คนตาย มันบอกไม่ได้สั่งเอาดื้อ ๆ หน้าตาเฉย

หมายถึงเขากำลังบอกเป็นนัยยะว่าชายชุดดำผู้ปฏิบัติ “ ทำกันเองโดยพละการ “ ก็ต้องรับผิดชอบคดี รับโทษทั้งอาญา และแพ่งค่าเสียหายกันเอง ไม่เกี่ยวกับ ศรส.และนาย.. อ้าว โยนขี้มาให้ลูกน้องและ !! เจ้านายลอยแพ ขึ้นศาลกันไม่หวาดไม่ไหวหลายพันคนแล้วงานนี้

ในส่วนคดีความนั้น แบ่งเป็น 3 ส่วน
1. คดีอาญา..ถ้าแจ้งความแล้ว ส่งต่ออัยการไม่สั่งฟ้อง ผู้เสียหาย หรือญาติ สามารถให้ทนายยื่นฟ้องตรงต่อเปาบุ้นจิ้นอาญาได้เลย เพราะรัฐอั้งยี่แดง ผบ.หน่วย และชายชุดดำผู้ปฏิบัติการเข้าสลายการชุมนุมทุกคน ตามบัญชีรายชื่อรับเบี้ยเลี้ยงของกำลังพลในวันนั้นทุกราย ในข้อหาใช้อาวุธสงคราม และปืนพกร้ายแรง ทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่า หรือฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งคดีอาญาร้ายแรงแบบนี้จะมีอายุความถึง 20 ปี

2. คดีปกครอง..ผู้เสียหาย หรือญาติ สามารถให้ทนายยื่นฟ้องต่อเปาบุ้นจิ้นปกครอง ได้เลยทันทีโดยไม่ต้องรออะไร ฟ้องรัฐอั้งยี่แดง ผบ.หน่วย และชายชุดดำผู้ปฏิบัติการเข้าสลายการชุมนุมทุกคน ตามบัญชีรายชื่อนั่นแหละ ในข้อหาใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อร่างกาย ให้บาดเจ็บ โดยการทุบ ตี ให้กระทบกระเทือนใจ และทำงานไม่ได้ตามปกติ 
** เคยมีคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2556 ให้ชายชุดดำ จ่ายชดเชย 1 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย ให้ผู้ชุมนุมในคดีผู้คัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซฯ ไทย-มาเลเซีย ที่บริเวณใกล้โรงแรม เจ.บี.หาดใหญ่ หรือโรงแรมหรรษาเจบีในปัจจุบัน ที่เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมบางส่วนถูกจับกุม ได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถใช้เสรีภาพในการชุมนุมได้ต่อไป 
3. คดีปกครอง..ผู้เสียหาย หรือญาติ สามารถให้ทนายยื่นฟ้องต่อเปาบุ้นจิ้นแพ่ง ได้เลยทันทีเช่นกัน ฟ้องรัฐอั้งยี่แดง ผบ.หน่วย และชายชุดดำผู้ปฏิบัติการเข้าสลายการชุมนุมทุกคน ตามบัญชีรายชื่อนั่นแหละ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เต้นท์ อุปกรณ์เครื่องเสียง รถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะได้รับความเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทน 
** ซึ่งเป็นไปตามที่เปาบุ้นจิ้นแพ่ง เคยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 เพราะการกระทำรุนแรงของชายชุดดำผู้ปฏิบัติหลายพันคนในวันนั้น ฝ่าฝืนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามทำเกินกว่าเหตุ จึงต้องรับผิดชดใช้เงินตามกฎหมายตามแต่ผู้เสียหายและญาติจะเรียกร้อง

4. ความผิดต่อราชการ..ที่วุฒิสมาชิกจะร้อง ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน คดีมีอายุความ 20 ปี ผบ.หน่วย และชายชุดดำผู้ปฏิบัติการเข้าสลายการชุมนุมทุกคน ตามบัญชีรายชื่อ ต้องถูกไล่ออกจากราชการหลายพันคนหมดอนาคตแน่ ๆ 

เพราะตามมาตรา 17 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ไม่คุ้มครองชายชุดดำ ที่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ ทุบตี และไล่ยิง จึงเป็นสิทธิที่ผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน..ประชาชนชนะคดีแน่นอน

ชายชุดดำพลาด ที่ไม่ทำตามขั้นตอน ไม่ใช้รถฉีดน้ำ ไม่มีรถคลื่นเสียงความถี่สูง แต่ข้ามขั้นตอนโดยใช้อาวุธสงครามจริง จนเกิดเหตุบานปลายจนมีประชาชนบาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย ถือเป็นฆาตกร 

ชายชุดดำคนใดใครมีรายชื่อในวันปฏิบัติการวันนั้น ซวยแน่ๆ โดนทั้งคดีอาญา ปกครอง แพ่ง และวินัยราชการ ทั้งคุกตาราง จ่ายค่าเสียหายกันหัวโตไม่ได้ผุดได้เกิด และไล่ออกจากราชการหมดอนาคต ลูกเมียเดือดร้อนหลายพันคนแน่ ๆ..วันนี้ชัดแล้วว่าแกนนำฝ่ายการเมืองรัฐอั้งยี่แดงทุกคน เขาลอยแพชายชุดดำแน่ ๆ แล้ว !! 

นอกจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอารัฐอั้งยี่แดงแล้ว (วัดจากคราเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมาบริษัทเผาไทยได้คะแนนเพียงประมาณ 6.6 ล้านเสียงเท่านั้น) คดีความรอฟันบั่นคออีกบานเบอะ อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ ชาย 3 สีไม่หนุน และไม่เอากับแก๊งค์อั้งยี่ที่คิดล้มสถาบันเบื้องสูง และทำร้ายประชาชนแน่ๆ แก๊งค์ชั่วนี้เขาพ่ายแพ้หลุดจากตำแหน่ง หมดอำนาจแน่ ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์

ชายชุดดำผู้ปฏิบัติเหล่านั้นมีทางเดียวที่จะรอดคดี หรือผ่อนหลักเป็นเบา คือ วางแผนกันไม่ต้องมากกี่คน เอามือดีๆ และใจกล้าๆ ลอบสังหารฝ่ายการเมืองปูเน่า ครอบครัวชายดูไบทุกคน แกนนำรัฐอั้งยี่แดงและครอบครัวทุกคน และนายที่สั่งทุกคน

ถ้าทำสำเร็จก็ย้ายมาสวามิภักดิ์ฝ่ายมวลมหาประชาชน เท่านี้เรื่องคดีต่างๆ ก็มาเจรจากันได้ แต่ถ้าไม่ทำ ก็ต้องโดนทั้งคดีอาญา ปกครอง แพ่ง วินัย..เลือกชีวิตเอาเอง !!

ดังคำกล่าวที่ว่า “คนที่รู้จักสู้นั้นเสี่ยงอยู่ชั่วนาที ส่วนคนที่ไม่สู้ จะเสี่ยงตลอดไป” 

@เสธ น้ำเงิน

ไม่มีความคิดเห็น: