PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน : ไขปริศนา..นักรบป๊อบคอร์นตัวจริง

ไขปริศนา..นักรบป๊อบคอร์นตัวจริง แฉความลับ โดย@เสธน้ำเงิน
ไขปริศนา..นักรบป๊อบคอร์นตัวจริง พ่อไอ้ป๊ดหน้าแตกดังเปรี๊ยะ
ย้อนร้อยเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว (วันที่ 18 ก.พ.57) มีคำสั่งจากชายดูไบ ที่สไกป์มายังที่ประชุม ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) สั่งการให้พ่อไอ้ป๊ดในฐานะ ผอ.ศูนย์ จัดการเคลียร์ผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐอั้งยี่แดงอย่างเด็ดขาด เพื่อเปิดทางให้ปูเน่า เหยียบประตูทำเนียบให้ได้ภายใน 24.00 น.ของวันที่ 19 ก.พ.57 เพราะตามฤกษ์หมอดูพม่า ต้องแก้เคล็ด เข้าไปทาสีพระพรหมที่เหนือหลังคาทำเนียบฯ ให้เป็นสีแดงให้ได้
1. ขั้นเตรียมการและวางแผน
ก่อนปฏิบัติการพลาดชนวนตาย มีการระดมชายชุดดำปราจลาจล และหน่วยปฎิบัติการพิเศษ พร้อมอาวุธสงครามครบมือ ครั้งนี้จำนวน 2.5 หมื่นคน ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ 5 จุด ตามแผนของ ศรส. ได้ประสานไปยังอาคารต่างๆ รอบพื้นที่ ขอขึ้นไปตรวจและวางกำลังที่สูง แต่เจ้าของอาคารไม่ยินยอม
มีการวางแผนจัดกำลังเป็น 2 ชุดหลักๆ ชุดแรกคือ ปราบจลาจล (ปจ.) ทำหน้าเจรจา และผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยโล่ กระบอง และปืนยิงกระสุนยาง (บางคนแอบบพกอาวุธปืนสั้นประจำ กาย) เพื่อเปิดทางเข้าทำเนียบ ทอดสะพานให้ปูนวยนาด ชุดที่ 2 คือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ(ปพ.) เพื่อคุ้มกันชุดปราบจลาจล และ ตอบโต้นักรบป๊อบคอร์น คือ
- ลำดับแรก คือ อรินทราช 26 เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษระดับกองร้อย สังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ขึ้นตรงกับชายชุดดำนครบาลชั้นใน หน่วยงานนี้ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น มีอุปกรณ์ครบมือ เช่น ปืนยิงแห, ปืนไฟฟ้า, ปืนพก, ปืนลูกซอง, ปืนกลเบา, ปืนไรเฟิล, ระเบิดมือ, รวมถึงอุปกรณ์ต่อต้านการจลาจล
- ลำดับ 2 นเรศวร 261 ขึ้นตรง บก.สนับสนุนทางอากาศ ชายชุดดำตระเวนชายแดน ขณะที่ทางยุทธการ ขึ้นตรงกับศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย กองบัญชาการกองทัพไทย ประกอบกำลังในลักษณะกองร้อยปฏิบัติการพิเศษ (ร้อย ปพ.) จำนวน 3 กองร้อย, กองร้อยกู้ชีพ และงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด การปฏิบัติการพิเศษ การปฏิบัติการปกปิด มีมีขีดความสามารถเชี่ยวชาญในการจู่โจมทางอากาศ ภารกิจจู่โจมชิงตัวแกนนำโดยวิธีการโรยตัวจากที่สูง
2. ขั้นปฏิบัติการ
เปิดกล้องฉากหนัง “พลาดชนวนตาย “ ขึ้นที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดี และพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งแต่เช้าตรู่ มีการส่งกำลังหวังเข้ายึดอาวุธหนักจุดหมอ กวี ตามข้อมูลของสายข่าวห่วยๆ..ที่โดน ลับ ลวง พราง หลอกต้มจนเปื่อย เพราะผลการค้นไม่พบอาวุธใดๆ เลย จนต้องแก้เก้อ ด้วยการควบคุมตัวแกนนำ และผู้ชุมนุมจุดนี้ราว 100 กว่าคน ใส่รถขนผู้ต้องไปที่ ดชด.ปทุมธานี (ต่อมาได้รับประกันตัวหมดทุกคน)
เมื่อถึงเวลานัดหมาย ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ชุดปฏิบัติการชายชุดดำจากภูธรภาค 2 นำโดย กวี ผบช.ภ.2 ได้รับมอบหมายจาก ศรส.ให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้า-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จุดนี้ใช้กำลัง 14 กองร้อย หรือราว 1,700 นาย กวี มอบให้ คัชชา ผบก.ภ.ชลบุรี ทำหน้าที่หัวหน้าทีมเจรจา กับแกนนำผู้ชุมนุม (คัชชาเติบโตมาเพราะใกล้ชิด ส.ส.เสื้อแดงคนหนึ่ง ให้พาเข้าพบชายดูไบ และได้เลื่อนตำแหน่งมาในปัจจุบัน)
เช้ามืด คัชชา สั่งการปราบจลาจลภาค 2 ระดมแถวเข้าประจำการ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแถวเริ่มปฏิบัติการบริเวณรุกเดินหน้า เข้าถนนราชดำเนินกลาง เข้าประจันหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุ ม ที่เป็นพื้นที่กลุ่ม กปท. และกลุ่มกองทัพธรรมเดิม ยึดครองอยู่ เปิดเจรจากับผู้ชุมนุม ขอพื้นที่ถนนราชดำเนิน จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ การพูดคุยครั้งแรกกับผู้ชุมนุมที่ยึดสะพานผ่านฟ้าฯ ไม่เป็นผล จึงมีการพูดคุยรอบสอง พร้อมกับขยับเข้าใกล้ผู้ชุมนุม
ชายชุดดำ คฝ.รุกฝ่าแผงกั้น บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ชุมนุมที่ขวางสกัดกั้นต่างนั่งสวดมนต์ จึงมีการเผชิญหน้าระหว่างชุดปราบจลาจล กับกลุ่มผู้ชุมนุม ชายชุดดำทุบตีผู้หญิง และคนแก่ ที่กำลังสวดมนต์จนมีผู้บาดเจ็บ และบางรายถูกจับกุมส่งเข้ารถคุมขังผู้ต้องหา ผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพธรรม จนถอยร่นไปถึงสะพานผ่านฟ้าฯ แล้วลุยรื้อบังเกอร์ และกรีด ทำลาย เต็นท์ของประชาชน
แกนนำสมเกียรติ ถูกชายชุดดำจับกุมบริเวณด้านหลังที่ชุมนุมฯ โดยใช้เชือกมัดมือไพล่หลังไว้ ขณะพระได้ประกาศทางเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบสันติและอหิงสาอย่างต่อเนื่อง ชายชุดดำได้ตรงเข้าไปปิดเครื่องปั่นไฟ พระจึงพูดกับผู้ชุมนุมทางโทรโข่งแทนไม่ให้ผู้ชุมนุมตอบโต้ แล้วติดตั้งเครื่องเสียงใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นชายชุดดำได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ พร้อมกับยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บหลายคน
แต่นกกระจอก หรือจะสู้พญาอินทรีย์ ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผู้สั่งการนักรบป๊อบคอร์น ก็ได้สั่งให้ ชุดตั่วป๊อบคอร์นเล็ก และ ชุดคั่วป๊อบคอร์นยาว เข้าประจำจุด เพื่อคุ้มครองกองทัพธรรมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ ทันที
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ชุดปฏิบัติการพิเศษของชายชุดดำ ก็สังเกตพบความผิดปกติ โดยสามารถ ดักฟังการสั่งการ ผ่านระบบวิทยุสื่อสารของกองกำลังป๊อบคอร์นไม่ทราบฝ่ายได้ โดยเสียงที่ดักฟังได้นั้นมีคุณภาพของเสียงที่คมชัดยอดเยี่ยม ส่งผ่านเครื่องส่งวิทยุขนาดใหญ่ ไม่ใช่วิทยุสื่อสารแบบพกติดตัว
ในชายชุดดำเอง ก็เป็นใส้ศึกให้ผู้บัญชาการนักรบป๊อบคอร์น ทำให้รู้ความเคลื่อนไหว และจุดวางกำลังของชายชุดดำทั้งหมด ที่ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และตลอดแนวรอบพื้นที่การชุมนุม จนถึงบริเวณหน้าวังสราญรมย์ ยาวไปถึงด้านข้างกระทรวงปืนใหญ่ เมื่อชายชุดดำมีการปรับกำลัง หรือเคลื่อนย้ายกำลัง ผู้บัญการนักรบป๊อบคอร์น ก็จะแจ้งผ่านวิทยุสื่อสารให้นักรบป๊อบคอร์น ที่แฝงตัวอยู่ในทุกพื้นที่ทั้งที่ต่ำ และจุดสูงข่ม รับทราบความเคลื่อนไหวแบบนาทีต่อนาที
หลังประเมินสถานการณ์แล้ว บิ๊กสีกากี เห็นท่าไม่ดีจึงสั่งให้ ชุดปราบจลาจลของภูธรภาค 2 ถอนออกจากบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ แต่ไม่ทันการณ์ เพียงแค่ไม่ถึง 5 นาที ระเบิดลึกลับ ก็ได้ตกเข้าใส่ชายชุดดำ ปราจราจล 3 ลูก คัชชาสั่งถอย แต่ก็ให้ตั้งแนวอยู่หลังโล่กันกระสุนไว้ก่อน พอตั้งแนวได้ลูกเกลี้ยงเอ็ม 67 ก็ตกมาใส่ และมีชายชุดดำคนหนึ่งเปิดโล่มาเตะจนระเบิดปะทุขึ้นอย่างแรงจนเจ็บกันระนาว จนล้มระเนระนาด แตกฮือกระเจิงถอยไม่เป็นขบวน
และทันใดนั้นมีนักรบป๊อบคอร์น สวมหมวกโม่งสีดำ จากฝั่งสะพานผ่านฟ้าฯ ได้ระดมปล่อยป๊อบคอร์น ถล่มชายชุดดำเสียงดับตับๆๆ ตลอดเวลา..แลัวก็ช่วยพาผู้ชุมนุม หลบหนีออกจากลุ่มชายชุดดำอีกด้วย ตามมาด้วย ป๊อบคอร์นปริศนา ที่ถูกปล่อยเข้ามาบริเวณรถควบคุมผู้ต้องขัง จนชายชุดดำที่เฝ้ารถอยู่ต้องหาที่หลบกันจ้าละหวั่น ก่อนจะมีกองกำลังป๊อบคอร์นเข้ามาชิงตัว สมเกียรติ แกนนำ กปท. ออกไป จากชายชุดดำขณะถูกคุมอยู่ในรถ กลับมาที่เวทีสะพานผ่านฟ้าได้อย่างอย่างปลอดภัย
ชุดปราบจลาจลต้องถอยร่นอย่างไม่เป็นกระบวน มาจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการระดมป๊อบคอร์นระดมเข้าใส่ ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง จนโงหัวไม่ขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้ ชายชุดบางละมุง ได้กระโดดหนีขึ้นรถกระบะ ก่อนจะถูกป๊อบคอร์น ระดมเข้าใส่ เจาะเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย อยู่บนกระบะหลัง ถัดมาไม่นานนักชายชุดดำปราจราจลบางละมุง ก็โดนเม็ดข้าวโพดเจาะเข้าหัว โดยปลิวมาจากจุดสูงข่มร่วงลงทันที ข้าวโพดหนาทึบยิ่งกว่าห่าฝนมาตลอด จนชายชุดดำปราจราจลถอยมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยคิดว่าน่าจะพ้นวิถีข้าวโพดแล้ว แต่แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อชายชุดดำปราจราจลอีกคนก็ร่วงลงไปอีก
กวี ได้พยายามติดต่อ ขอกำลังเสริม แต่ชุดปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 ปักหลักอยู่ที่ บชน. กว่าจะเดินทางมาถึงก็ร่วม 10 นาที ช่วงเวลานั้นจึงได้ เกิดการถล่มตอบโต้กันไปมา ชายชุดดำปราจราจล ถอยไปถึงบริเวณโรงแรม รอยัล รัตนโกสินทร์
แต่เมื่อ อรินทราช 26 เคลื่อนมาจาก บช.น. เพื่อมาช่วยชุดปราบจลาจล ที่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะพานผ่านฟ้านั้น ผู้สั่งการนักรบป๊อบคอร์นที่มีชายชุดดำฝ่ายดี เป็นสายก็ส่งข่าวไป และผู้สั่งการนักรบป๊อบคอร์น จึงสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารให้ กองกำลังป๊อบคอร์น รู้การเคลื่อนไหวตลอดเวลา แล้วสั่งให้กองกำลังป๊อบคอร์นอีกชุดหนึ่ง เข้าประจำการดักซุ่มรอบริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณหัวมุมสนามหลวง
เมื่อ อรินทราช 26 เข้ามาถึงพื้นที่ ก็มาก็มีแค่ไม่กี่นาย และเริ่มเข้าช่วยเหลือชุดปราบจลาจลออกมา โดยมีการ ปะทะกันอย่างดุเดือดนัวเนียกับนักรบปีอบคอร์น แต่ชายชุดดำตกเป็นรองทางยุทธการมาก คัชชา จึงสั่งยิงแบบมั่วใส่ประชาชนที่บริสุทธิ์ เหตุการณ์ชุลมุนในช่วงนี้เอง ที่ทำให้ ผู้ชุมนุมเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 50 ราย
จากนั้นอรินทราช 26 ก็ได้เข้าควบคุมพื้นที่ และลำเลียงปราบจลาจลที่บาดเจ็บออกมาได้แบบทุกลักทุเล ตามถนนราชดำเนินกลาง จนกระทั่งมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ก็เหมือนตกอยู่กลางทุ่งสังหาร เพราะที่นั่นกองกำลังป๊อบคอร์นอีกชุดที่ตะหลิ๋วคั่วเหนือกว่ามาก ดักรออยู่ บุกเข้าโจมตีกระหน่ำรอบด้านอีก ชายชุดดำปราจลาจลต้องช่วยกันอย่างทุลักทุเล
ระหว่างนั้นชุดปฏิบัติการพิเศษชายชุดดำอีกชุดหนึ่ง ก็ได้เคลื่อนกำลังเข้ามาจากเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อช่วยเหลือหน่วยอรินทราช 26 ที่ดันตกอยู่ในวงล้อมเสียเอง แต่วินาทีเดียวกันนั้นเอง เมื่อเห็นว่าสั่งสอนเพียงพอแก่เหตุแล้ว ผู้สั่งการนักรบป๊อบคอร์น ก็ได้วิทยุแจ้งกองกำลังปีอบอคอร์น ที่ซุ่มอยู่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ ให้ถอนกำลังออกมา ชายชุดดำทั้งหมดจึงหนีวิ่งเตลิดเปิดเปิงหนีตาย ข้ามไปที่สะพานปิ่นเกล้าออกไปได้อย่างทุลักทุเล จนต้องทิ้งรถไว้จำนวนหลายคัน และสลายตัวไปในที่สุด
3. ขั้นยุติปฏิบัติการ
หลังสถานการณ์คลี่คลาย ศรส.ก็ได้มีคำสั่งเด็ดขาด ให้ยุติปฏิบัติการทั้ง 5 จุดทันที และสั่งให้ถอนกำลังชายชุดดำทั้งหมดออกจากพื้นที่ เพราะชัดเจนแล้วว่า กองกำลังนักรบป๊อบคอร์น มีประสิทธิภาพเหนือกว่าชายชุดดำมาก ข้าวโพดจากจุดสูงข่ม ถือเป็นสาเหตุที่สร้างความพ่ายแพ้ให้กับชายชุดดำมากที่สุด ขณะเกิดเหตุปะทะชายชุดดำเสียกระบวนอย่างหนัก กองกำลังป๊อบคอร์คลุมโม่งปิดหน้าตา ถูกฝึกมาอย่างดีมาก ถึงดีมากที่สุด ช่ำชอง ชำนาญการใช้ตะหลิ๋วคั่วป๊อบคอร์น และรู้หลักโจมตี
ยุทธวิธีชัดเจน มีการเสริมกำลังรบ วางแผนดักเส้นทางของชายชุดดำว่าจะหนีไปทางไหนได้ ก็ไปดักคั่วข้าวโพดรออีก วิทยุชายชุดดำถูกดักฟังหมดทุกวินาที นักรบป๊อบคอร์นเหนือกว่าชายชุดดำทุกด้าน หากยังดึงดันปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ต่อไป ก็จะเกิดการสูญเสียชายชุดดำอีกมากมายกว่านี้หลายเท่า
ที่สำคัญหลังมีการปะทะกันอย่าง ดุเดือดระหว่าง ชายชุดดำ กับ กองกำลังป๊อบคอร์น ท่ามกลางมวลชนจำนวนมาก ก็ได้มีสายตรงลึกลับจาก บิ๊กสีเขียวเข้ม ยกหูมาถึงบิ๊กสีกากี พร้อมกับให้คำแนะนำนุ่มๆ หูว่า “คุณไม่มีทางเอาชนะม็อบ ที่มีประชาชนอยู่แถวหน้า โดยมีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่ได้หรอก นอกจากจะทำเหมือนปฏิบัติการกระชับพื้นที่ในปี 2553 ซึ่งในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็จะต้องตกเป็นจำเลย ”
ข้อความแนะนำดังกล่าวได้ถูกสื่อ สารไปถึง พ่อไอ้ป๊ด ศรส. และ ปูเน่า พร้อมคำบ่นบิ๊กสีกากี ในวอร์รูม ศรส. ว่า “ ผมบอกแล้วให้ถอนออกมา เอาแค่เปิดการจราจรจากถนนหลานหลวง ให้รถสามารถตรงมาที่ราชดำเนินกลางได้พอแล้ว แล้วให้เจรจากดดันกลุ่มผู้ชุมนุมไปเรื่อยๆ”
ปูเน่า และเป็ดเหลิม ทั้งสองเห็นตรงกันว่าหมดท่าพ่ายแพ้แล้ว ควรยุติปฏิบัติการสลายการชุมนุม และขอคืนพื้นที่อย่างถาวร เพราะฝั่งชายชุดดำเองก็มีหนอนบ่อนไส้ โศกนาฏกรรมปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ จากความรุนแรงที่นำมาสู่ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้นในห้วงเวลาระหว่าง 10.50 น.-12.30 น. ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งฝ่ายตำรวจผู้ปฏิบัติและฝ่ายผู้ชุมนุมเสียชีวิตรวมกัน 5 คน บาดเจ็บ 68 คน
ต่อมาช่วงบ่าย ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาส ชายชุดเขียวในเครื่องแบบอีกชุด ได้มาปลอบขวัญ และให้กำลังใจ ประชาชน บอกว่าชายชุดเขียวอยู่กับประชาชนเสมอ ให้ประชาชนมีขวัญและกำลังใจให้เข้มแข็ง
มีบางคนสงสัยว่า ช่วงที่ผู้ชุมนุมเผชิญหน้าชายชุด ดำในหลายจุด จนปะทะกันนั้น บิ๊กชายชุดเขียวไปไหน คำตอบคือชายผู้ไม่ค่อยยิ้ม ยกเลิกกำหนดเดินทางลงใต้ ที่ก็กำลังแรง เพราะรู้แกวว่ามีคนสร้างสถานการณ์ที่ไต้ เพื่อดึงเขาลงไปด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง
ช่วงนั้นเขาจึงเก็บตัวเงียบ ใน ร.1 รอ.ไม่ร่วมประชุมประจำวัน แต่เกาะติดเหตุสลายชุมนุมทั้งวัน ทั้งโทรศัพท์สั่งการให้กำลังพลไปช่วยดูแล ทั้งเสนารักษ์ และ ชุดเคลื่อนที่เร็ว หลังจากนั้นรองเลขานุการกองทัพชายชุดเขียว บอกว่ากองกำลังป๊อบคอร์นไม่ทราบฝ่ายที่เข้าช่วยกลุ่ม กปท.ปะทะกับชายชุดดำที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ไม่มีใครทราบในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่บิ๊กสีเขียว มีความเป็นห่วงการใช้อาวุธสงครามมาปฏิบัติการกัน การดำเนินการใดๆ ของทุกฝ่าย เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายบ้านเมือง
ส่วนการจับชายคนหนึ่ง และเป็ดเหลิมนำมาแถลงข่าวว่าเป้นนักรบปีอบคอร์นนั้น ในหลักการนั้นการจะนำใครสักคนเข้าคุกได้นั้น จะต้องมีพยานบุคคล และพยานแวดล้อม ให้ทุกคนคิดตามดังนั้นว่า
1. น้องและพี่สาว ของผู้ที่ถูกจับกุม ไปเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษ และน้องคนนั้นบอกว่าถูกชายชุดดำซ้อมบังคับ และรัดคอ ให้สารภาพ อีกทั้งนักรบป๊อบคอร์นตัวจริงคนนั้น ก็นั่งกินเหล้าอยู่กับสายข่าว และนั่งดูทีวีหัวเราะเยาะ เป็ดเหลิมอยู่ตอนแถลงข่าว
2. พยาน
2.1 พยานบุคคล..การยิงป้องกันตัวของนักรบปีอบคอร์นวันนั้น เกิดจากถูกมือปืนของโกเต็ก และชายชุดดำในเครื่องแบบยิงมาก่อนจากฝั่งไอทีสแควร์ ( ดูที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.212244082298960.1073741905.187529244770444&type=3) ที่มีระยะห่างกับจุดนี้ไกลมาก คำถาม..พยานผู้เสียหายคือใคร สามารถจดจำเห็นใบหน้า ชี้ตัวนักรบปีอบคอร์นคนนี้ได้ไหม ก็วันนั้นเขาใส่หมวกไหมพรหมอยู่ แต่พยานทาง กปปส.เขาอยู่ใกล้ก็จริง แต่ทุกคนมองขึ้นฟ้าหมด จึงไม่มีใครเห็นหน้าเขาเลย
2.2 พยานชายชุดดำ ชายชุดเขียว และนักข่าว..มีใครเห็นหน้าผู้ต้องหาขณะมียิงแสงไฟแลบจากในถุงป๊อบคอร์นบ้าง..ไม่มี..เพราะเห็นแต่ภาพคล้ายเมื่อเขาเปิดหน้า แต่ก็ไม่ใช่ขณะยิงอยู่ดี ถือว่า พยานอ่อนเกินไป
3. หลักฐาน..
3.1 ปืนของจริง..วันที่ทำแผนที่หลักสี่วันนั้น ไม่ได้ใช้ปืนจริงในการทำแผน เพียงใช้ท่อนเหล็กสีดำเอาถุงป๊อบคอร์นคลุมไว้เท่านั้น..เปาบุ้นจิ้นจะถามว่าไหนขอดูหลักฐานเป็นปืนของจริงที่ลั่นกระสุนวันนั้นหน่อย..แล้วปืนอยู่ไหน?..ปืนนี่แหละจะเป็นจุดตายให้ชายชุดดำ และเป็ดเหลิมหน้าแตก เมื่อขึ้นสู่ศาลไคฟง..เพราะไอ้ท่อนเหล็กสีดำวันนั้น มันยิงคนไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ปืน
3.2 รูปถ่ายปืน..มันก็ไม่สามารถใช้ปรักปรำเป็นหลักฐานขนาดให้คนติดคุกได้ เพราะรูปปืน ใครๆ ก็ Print มาได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะมีน้ำหนักพอ..ต้องยกประโยชน์ให้ผู้ต้องหาไปจากข้อสงสัยเท่านั้น
4. การรับสารภาพชั้นพนักงานสอบสวนนั้น มีเยอะแยะไปเพราะถูกบังคับ ก็ดูมือยังขวัญควายเป็นตัวอย่าง ที่เมียเขาต้องมาแจ้งความว่าผัวถูกบังคับมา แล้วรายชื่อชายชุดเขียวกาญจนบุรีที่เข้ามอบตัว และออกไปทำงานตามเดิมนั้น..ไหนคือปืนที่ยิงวันนั้นไปงมหาในสระน้ำ ไม่เจอสักกระบอก !!
5. การรับสารภาพของผู้ต้องหา เปาบุ้นจิ้นเขาเที่ยงธรรมทำ ไม่ลงโทษทันทีได้ เขาจะต้องขอดูหลักฐาน “ อาวุธปืน “ ที่กระทำความผิด ถ้าหาไม่ได้..ก็ชนะคดี
6. ผู้ต้องหาที่ชนะคดี ก็ให้ทนายยื่นฟ้องแพ่งชายชุดดำชุดที่จับกุม ที่ใส่ร้ายให้สูญเสียอิสรภาพ และชื่อเสียง และใช้ชดใช้ค่าเสียหายตามรายได้จำนวนวันที่ถูกคุมขัง , ร้องต่อ ปปช.ฐานใช้อำนาจหน้าที่มิชอบในทางราชการกลั่นแกล้ง , ร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว และให้ชุดจับกุมชดใช้ค่าเสียหายตามแต่จะเรียก , ร้องต่อกระทรวงยุติธรรม ให้จ่ายเงินกองทุนเยียวยา จากการกระทำผิดพลาดของรัฐ
7. ความน่าเชื่อถือของชายชุดดำ กับเป็ดเหลิม และริดสีดวง...คดีที่ผ่านมาเป็นไง? มันมีจริงบ้างไหมล่ะ หมายจับสาธิต จะเนรเทศเป็นไง?..คนที่อ่านลองตอบคำถามในใจตัวเอง และถามเพื่อนดู และมีหลายคดีที่ชัดเจนกว่านี้ ยังจับไม่ได้เลย เช่น
- คนที่ยิงทหาร ยึดปืนไปปี 53 แล้วมายืนหลังขวัญควายบนเวทีปราศรัยที่พัทยา จับได้ไหม?
- ใส่ร้ายว่าคนยืนปราศรัยคู่กับสุทิน พยายามฆ่า..ฆ่าใคร? แล้วคนยิงสุทินไปไหน ?
- คนปาระเบิดอนุสาวรีย์ และบรรทัดทอง ที่ถูกหมายจับไปไหน ?
- ตำรวจ 2 คนที่ยิง M79 ใส่จุดหลวงปู่ แล้วถูกจับได้คดีไปถึงไปไหน?
- ตำรวจที่ยิงแกนนำ กปปส.ที่หน้าสโสมสรตำรวจ คดีไปถึงไหน?
- และอีกสารพัดคดีที่มีคนตาย เช่น ถล่มฆ่าเด็ก จ.ตราด , ประตูน้ำ, นศ.ราม, สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ฯลฯ
คดีนี้คือการกลั่นแกล้งจับแพะชัดๆ เพื่อหาเรื่องมาโยงใย กปปส. แต่เป็ดเหลิมต้องหน้าแตกเปรี้ยะไปอีก..ถ้างานนี้ถ้าผู้ต้องหาคนนี้เอาเรื่อง..จะได้เห็นชายชุดดำอีกหลายคน ต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกให้ออกจากราชการฐานประมาทเลินเล่อ ติดคุก และต้องชดใช้เงินค่าเสียหาย
ทั้งหมดที่เล่ามาคงให้คำตอบได้ว่านักรบป๊อบคอร์น ที่ถูกจับได้ที่หลักสีเป็นตัวจริง หรือแพะ คนที่ก็รู้ดีว่าป๊อบคอร์นเป็นใคร คือ อับดุล และ คัชชา แต่จะกล้าพูดหรือเปล่าแค่นั้น !!
@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai
--------------------------------------
จากวันนั้น 19 มกราคม 2557 ถึงวันนี้ 2 เดือนเศษ ที่ทนายเบิ้มได้มาแนะนำเพจนี้"แฉความลับ"ผ่านเอ็นทรี่"แฉความลับ"Fan Page ฮาร์ดคอร์ เปิดตัวถูกที่ถูกเวลา ไฮไลท์ล่าสุด"ยุทธการอุดรูปู"วันนี้ เพจดังกล่าว ได้เป็นเพจยอดนิยมเกินกว่าที่จะคาดคิด มีคนติดตามอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะคำว่าป๊อบคอร์น"ก็เพจนี้ เป็นคนตั้งนี่แหละ
จึงไม่แปลก ถ้าจะกลับมาเสนอเรื่องของ@เสธน้ำเงิน จอมข้อมูลผู้สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่รัฐเถื่อน อีกครั้งหนึ่ง แล้วถ้าวันไหนคนไทยอ่าน"แฉความลับ"เกิน 1,000,000 คน วันนั้น จะตาสว่างกันอย่างทั่วถึง แน่นอน


ไม่มีความคิดเห็น: