PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สังคมพึงประสงค์อะไรจากสื่อมวลชน

สังคมพึงประสงค์อะไรจากสื่อมวลชน
มติชน ฉบับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557
พิศิษฐ์ ชวาลาธวัช

ข่าวการประกอบอาชญากรรมฆ่ากันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเพราะฤทธิ์รักแรงหึง ข่าวชีวิตส่วนตัวจนเป็นข่าวลือไม่อาจปิดบังได้ของดาราบันเทิง นายแบบนางแบบ พิธีกร สาวไฮโซของคนกลุ่มนี้ จะถูกขยายความสำคัญเสนอผ่านสื่อทุกประเภทกันอย่างอึกทึกครึกโครม ผู้บริโภคก็ส่งเสียงเชียร์ให้เสนอข่าวต่อจนกว่าความจริงจะปรากฏ

สื่อมวลชนทุกแขนงต่างรุมกันเสนอข่าวหรือเรื่องราวอย่างละเอียดถี่ยิบสามวันสี่คืน ใช้นักข่าวลงพื้นที่สืบเสาะค้นหาเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพื่อนำเสนอข่าวทำนองเตียงหักหรือรักร้าวอย่างบันเทิงอารมณ์ผู้บริโภค และโฆษณาหลั่งไหลท่วมจอโทรทัศน์ เสมือนหนึ่งดูละครเรื่องสั้นมันอารมณ์และจบลงท่ามกลางกลิ่นคาวโลกีย์

มันเป็นเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นสังคมไทยหรือสังคมอื่น ยิ่งฝรั่งมังค่า ยิ่งเสนอข่าวทำนองนี้ดูรุนแรงฉาวโฉ่กว่านี้มาก บางครั้งดาราบางคนทนถูกพวกปาปาราซซีเข้าไปรบกวนสิทธิส่วนตัว หักห้ามอารมณ์ไม่ไหว มีการใช้กำปั้นกระแทกหน้านักข่าว ช่างภาพ หรือแถมด้วยการกระชากกล้องกระทืบในวินาทีนั้น เพื่อสั่งสอนให้รู้ถึงความไม่พอใจและสิทธิของผู้ถูกละเมิดสิทธิส่วนตัว

หลังจากนั้นก็ตกเป็นข่าวไปตามระเบียบ ไม่ต้องจ้างเอเยน ซี่ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเอง สื่อนั้นก็ขายดี ปาปาราซซีก็ขายข่าวภาพได้เงินก้อนโตไปซื้อกล้องใหม่ดีกว่าเดิม ดีกันทุกฝ่าย

หากตัดความเป็นดาราหรือบุคคลสาธารณะที่บรรดาแฟนๆ ติดตามชื่นชอบ ความจริงแล้วเรื่องราวส่วนตัว มักจะเกิดในทุกครอบครัว ไม่ว่าจะต่างกันในอาชีพหรือฐานะ ปัญหาข้างต้นของบุคคลทั่วไปที่ไม่ปรากฏเป็นข่าว เกิดขึ้นแทบทุกวัน แต่ข่าวทำนองนี้ผู้บริโภคข่าวไม่สนใจเหมือนกับข่าววงการบันเทิง

ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏขึ้นในโลกความสนใจของนักบริโภคข่าว จึงมีสีสันตื่นเต้นเร้าใจชวนให้ติดตาม ไม่ว่าข่าวทำนองนั้นจะกระทบต่อปัญหาทางศีลธรรม หรือต่อครอบครัว หรือแม้กระทั่งกระทบจิตใจของลูกผู้ตกเป็นข่าวก็ตาม

ข่าวร้ายๆ กระทบในแง่ลบทั้งส่วนตัวและครอบครัวของบุคคลสาธารณะยังขายได้และขายดีมาช้านาน ไม่ว่าจะมองย้อนหลังไปยังอดีตสู่ปัจจุบันในเหตุพบบ่อยครั้งปรากฏในโลกของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดาราชายหรือสามีนักธุรกิจทอดทิ้งดาราหญิง ถึงขั้นปฏิเสธลูกหรืออาจแย่งกันดูแลลูก บางรายอาจใช้สิทธิฟ้องร้องเป็นคดีปิดลับต่อสู้ เพื่อรักษาสิทธิและเพื่อความชอบธรรมกันถึงสามศาล

บางเรื่องอาจรุนแรงถึงขั้นหึงหวงตบตีทำร้าย หย่าร้างหรือฟ้องหย่า สู้คดีกันถึงสามศาล มีการยื้อแย่งพื้นที่สื่อหรือเวลาทางสถานีโทรทัศน์ ยึดพื้นที่ปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงหรือโปรโมตความเป็นดารากันอย่างเหนียมอายหรืออย่างโจ่งแจ้ง เพื่อเป็นการโฆษณาเพิ่มค่าตัวดารา ขายภาพนางแบบโป๊เกือบเปลือย และผู้บริโภคต่างพลอยรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจไปกับเรื่องดังกล่าวด้วย

มองในแง่ดี จะให้ผู้บริโภคซึ่งตกอยู่ในภาวะอารมณ์เครียดกับภาระการงาน ความเหนื่อยยากวุ่นวายในครอบครัวกันทั้งวัน หรือต้องอยู่กับความสิ้นหวังนักการเมืองในระดับชาติ หรือแม้แต่ระดับท้องถิ่น หรือในยามนี้ บรรยากาศทางการเมือง ไม่อยู่ในสภาพปกตินัก จนสื่อหนักใจที่จะเสนอเรื่องราวทางการเมืองกันทั่วหน้า หากได้เสพข่าวทำนองนี้เป็นที่พักอารมณ์เป็นการชั่วคราว ก็เก๋ไปอีกแบบหนึ่ง

หากข่าวใดทำให้เป็นที่พักอารมณ์สุนทรีย์ของสังคมได้บ้างสักวันละสองสามนาที ใช่ว่าจะเป็นไรไป สื่อมวลชนจะใจแคบให้กันบ้างไม่ได้รึอย่างไร? นี่คือความรู้สึกของผู้บริโภคข่าวสารประเภทนี้ได้เปิดเผยออกมาดังๆ บ่อยครั้ง จนดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียแล้ว

สื่อมวลชนจึงพยายามหาข่าวบันเทิงอารมณ์ชีวิตรักหรือร้างของดาราบันเทิงหรือนางแบบมาเสนอ สลับฉากกับข่าวอาชญากรรม สลับกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา เป็นการตอบแทนลูกค้าขาประจำกันไม่ได้หรืออย่างไรกันพ่อคุณพ่อทูนหัว

บางทีอาจเรียกว่า "ข่าวประเภทจัดให้ตามใจท่านไงล่ะ"

หลายเรื่องอ่านแล้วหวาดเสียว อาจเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดสิทธิส่วนตัวที่ไม่อาจยกข้อกฎหมายหรือข้อบังคับทางจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อข้อใดมาคุ้มครองได้ สื่อยังละเลยเรื่องนี้จนดูเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ใส่ใจเอาเสียเลย จนสื่อมวลชนถูกวิจารณ์เรื่องทำนองนี้ บ่อยครั้ง อย่าได้มองข้าม

บางเรื่องดาราผู้นั้นได้รับความเสียหายเพราะไม่ใช่เรื่องจริง จำใจต้องฟ้องสื่อมวลชนเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง และเป็นเหตุให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ติดคุกติดตะรางก็เคยมี

แต่บางเรื่องดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องสมัครใจของผู้ตกเป็นข่าวในเชิงลบอย่างมีชั้นเชิงพิจารณา ดูแล้วมันสมน้ำสมเนื้อกันดีทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ

ต่างไปจากข่าวเชิงลึกคอร์รัปชั่นและสร้างสรรค์มีสาระ ข่าวประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นยกระดับความคิด เติมความรู้รอบให้ผู้บริโภค เพียงแต่ว่ามองจากยอดขายพบว่า จะมีคนสนใจในเชิงปริมาณน้อยไป

แต่ถือได้ว่าคนในประเทศโดยภาพรวมกลับได้ประโยชน์มาก สื่อมวลชนได้กำไรงามแต่ละปีอยู่แล้ว น่าจะคิดลงเพิ่มต้นทุนข่าวทำนองนี้ให้มากขึ้นตามสภาพปัญหาของสังคม ซึ่งนับวันจะซับซ้อนและรุนแรง

เพียงแต่ว่าอาจต้องใช้ต้นทุนทรัพยากรบุคคลในราคา สูงขึ้น และเพิ่มทุนแสวงหาข้อมูลสืบคืนเรื่องราวที่ยุ่งยากซับซ้อนซ่อนเงื่อนเก็บลึก หรือแม้แต่ต้องใช้จำนวนคนหรือเวลามากขึ้นกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการเป็นปฏิปักษ์กับอำนาจทุนที่สนับสนุนอำนาจรัฐหรือแม้แต่กับรัฐบาลโดยตรง ทุนทางธุรกิจสื่อเข้าใจดี

นโยบายทางธุรกิจสื่อจึงมีลักษณะที่ยังคงสงวนสิทธิ เลือกผลิตเรื่องราวในเรื่องส่วนตัว และคงไว้ซึ่งข่าวมีสาระหรือประเด็นปัญหาทางสังคมกระจัดกระจายในเนื้อหาแต่ละวันเพื่อป้อนสู่ตลาดข่าวสารไปพร้อมกัน

ดูเผินๆ ให้เข้าใจว่าจะได้ไม่ขัดใจข้อเรียกร้องทางสังคมก็จริง แต่การเปิดพื้นที่สื่อเสนอข่าวประเภทมีสาระหรือสร้างสรรค์น้อยกว่าข่าวประเภทบันเทิงอารมณ์ เท่ากับว่าเป็นยืนยันถึงสิทธิเจ้าของทุนธุรกิจสื่อใช้สิทธิกำหนดนโยบายที่ประสงค์เช่นนั้น

ทุนทางธุรกิจสื่ออาจเห็นว่าการปฏิเสธสิทธิของผู้บริโภคเป็นการเสี่ยงและขัดขืนกลไกตลาด เพราะหากฝืนความสนใจของผู้บริโภค จะเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจสื่อ หลังจากบวกลบคูณหารแล้วต้องเลือกแบบขนมจีนผสมน้ำยา เพิ่มพื้นที่ข่าวอาชญากรรมและดาราบันเทิงมากกว่าข่าวประเภทสาระ

ใช่ว่าเจ้าของธุรกิจสื่อคิดไม่เป็นหรือแข็งขืนกับความคิดดีๆ ที่จะต้องให้ทั้งสาระและสติปัญญาแก่ผู้บริโภค คลุกเคล้าไปกับข่าวบันเทิงอารมณ์ และพยายามเปิดพื้นที่ข่าวทำนองนี้ให้ผู้บริโภคข่าวได้ใช้ผ่อนคลายหรือฆ่าเวลาให้หมดไปวันๆ หนึ่ง

ทางออกของข้อถกเถียงจึงต้องมีข่าวหรือเรื่องราวทั้งสองแนวคละกันไป ส่วนจะให้ความสำคัญกับข่าวประเภทใดให้สังเกตดูการเปิดพื้นที่สื่อในเชิงปริมาณเป็นสำคัญ

ธุรกิจสื่อมวลชนไทยจำนวนมากไม่อาจเลือกแนวทางที่สุดขั้วจนเกินไปนัก จึงคงไว้ซึ่งเสรีภาพในทางธุรกิจ

ตามที่บทบัญญัติว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการประกอบการและการแข่งขันอย่างเสรีในระบบทุนนิยมประชาธิปไตย ไม่ต่างไปจากรัฐเสรีประชาธิปไตยหรือฝรั่งมังค่าตาน้ำข้าวพึงเป็นอยู่ตามที่เป็นเช่นนี้

ส่วนจะเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคหรือไม่นั้น ขอฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันชั่งน้ำหนักดูและคิดว่าน่าจะมีข้อโต้แย้งกันไม่จบสิ้น แต่ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่สื่อมวลชนต้องช่วยกันรักษาความรับผิดชอบทางจริยธรรมด้วย

ปัจจุบันสื่อมวลชนก็ใจกว้างพอที่จะให้ผู้อื่น เช่น นักวิชาการ หรือสื่อด้วยกัน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจควบคุมสื่อให้อยู่ในกฎเกณฑ์ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะอยู่ในสภาวะปกติหรือไม่ก็ตาม

ทว่า สภาพความเป็นจริงทางสังคมยังคงให้ความสำคัญกับข่าวที่ยกมากล่าวไว้ข้างต้น และงานสำรวจวิจัยความต้องการของตลาดผู้บริโภคและตลาดโฆษณาสินค้าและบริการในแต่ละปียังพบว่า ผู้บริโภคยังมีความต้องการเสพเรื่องราวแนวบันเทิงอารมณ์หรือเรื่องส่วนตัวสูงว่าข่าวการเมือง การศึกษา เศรษฐกิจ หรือการเงิน

เจ้าของธุรกิจยังคงให้การสนับสนุนงบโฆษณาจำนวนมากแก่สื่อประเภทนี้ไม่เปลี่ยนแปลง หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่า เจ้าของธุรกิจสินค้าหรือบริการพร้อมจะสู้ราคาค่าเวลาทาง สถานีโทรทัศน์ หรือค่าซื้อพื้นที่หนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร

แต่ในมุมกลับจะพบว่า นักวิชาการและนักคิดหลายคนไม่เห็นด้วยและมักจะวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจ และเรียกร้องให้สื่อมวลชนสละพื้นที่หรือเวลา เสนอเรื่องราวที่มีสาระและสร้างสรรค์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อประโยชน์แก่การยกระดับความคิดหรือปัญญาทางสังคม

ข้อเรียกร้องของนักวิชาการและนักคิดนักวิจารณ์อยากเห็นสื่อพัฒนาเนื้อหาในแนวสร้างสรรค์และมีสาระต่อสังคมส่วนรวมให้มากกว่าปัจจุบันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ใช่ว่าจะได้รับการสนองอย่างฉับพลันทันใจนัก และใช่ว่าจะไม่เกิดผลต่อการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าเดิมเสียทีเดียว

สื่อมวลชนวันนี้จึงเลือกที่จะประนีประนอมหรือหาทางออกอย่างไม่แข็งขืนนัก

ไม่มีความคิดเห็น: