หากเห็นชอบตามข้อตกลงดังกล่าว ก็จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)จากนั้น จะได้นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และคาดว่าจะสามารถทำสัญญาเช่าระหว่างกรมธนารักษ์และร.ฟ.ท. จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการให้เอกชนเข้าลงทุนตามกฎหมายเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน หรือพีพีพี
ทั้งนี้ ในแง่ของระยะเวลาการเช่านั้น ยังติดขัดในข้อกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยที่จะต้องมีการปรับแก้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของครม.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อแก้ไขให้ระยะเวลาการเช่าระหว่างรัฐกับหน่วยงานรัฐยาวขึ้นเป็น 99 ปี จากเดิม 50 ปี
ส่วนมูลหนี้ที่จะแลกนั้น ทางบริษัทที่ปรึกษาทั้งฝั่งของกรมธนารักษ์และ ร.ฟ.ท.ได้สรุปราคาประเมินที่ดินบริเวณดังกล่าวที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเสนอให้นำราคาประเมินที่ดินของทั้งสองบริษัทมารวมกันและหารสอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน โดยเบื้องต้น ราคาประเมินที่ดิน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวกำหนดมูลหนี้ จะอยู่ระหว่าง 6-7 หมื่นล้านบาท
สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวที่มีพื้นที่รวม 497 ไร่ นั้นกรมธนารักษ์มีจะนำไปให้เอกชนเช่า 70% คาดว่าสามารถเปิดประมูลการเช่าได้ประมาณต้นปี 2559 หรืออย่างเร็วปลายปี 2558 ส่วนที่เหลือจะพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว หรือสวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ โดยระหว่างนี้สิ่งต้องทำ คือ การปรับแก้กฎหมายระยะเวลาการเช่าของกระทรวงมหาดไทย และการเตรียมโรดแมปการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว
นายสมหมาย กล่าวว่า แผนการนำที่ดินมักกะสันของ ร.ฟ.ท.ไปให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเช่านำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่สะสมมานานของ ร.ฟ.ท. โดยปัจจุบันภาระหนี้สินของ ร.ฟ.ท.มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ดังนั้นหนี้ในส่วนที่เหลือนั้นต้องมาหารือกันอีกครั้งว่าจะจัดการอย่างไร ขณะนี้จะสรุปแค่มักกะสันตามมติ คนร.ก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น