PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

“บิ๊กตู่" โวย รัฐบาลประชาธิปไตย ต้นตอ ป่าต้นน้ำหาย-ภัยแล้ง

“บิ๊กตู่" โวย รัฐบาลประชาธิปไตย ต้นตอ ป่าต้นน้ำหาย-ภัยแล้ง ถามรัฐบาลที่ผ่านมา ทำไมไม่ทำ "ในหลวง"ทรงรับสั่งมานานแล้ว แต่ทำไมที่ผ่านมาไม่ทำกัน จนวันนี้ผมต้องมาคลี่ทุกอย่าง รื้อทั้งหมด อาจจะใช้งบประมาณถึง 3.5 แสนล้านบาท ลั่น นี่ถ้าเป็นรัฐบาลอื่นทุกอย่างอาจเจ๊ง ไปแล้วก็ได้ ฉะรัฐบาลประชาธิปไตยทำพื้นที่ป่าต้นน้ำหายเพียบ เผยกังวลแผนจัดการน้ำที่ต้องรื้อทำใหม่เป็นระยะยาว รับรู้ปัญหาล่วงหน้า แจงฝนตกใต้เขื่อนเก็บน้ำไม่ได้ ย้ำปีหน้าทั่วไทยต้องมีประปาใช้ หวังให้มีเกษตรแปรรูป-Smart Farmer ย้ำ ให้ปลูก หมามุ่ย เล็งขุดน้ำบาดาลใช้ต่อพื้นที่เกษตรล้านไร่ เผยเจอพิษเศรษฐกิจ ย้ำประหยัดน้ำเพื่อคนรุ่นต่อไป เตือนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม ไม่ได้ ค่าไฟพุ่งแน่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวที่จ.ระยอง ถึงการบริหารจัดการน้ำในขณะนี้ว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งอาหารของโลก ปัญหาคือเราจะทำอย่างไรกับปัญหาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ เพราะวันนี้ฝนไม่ตก ตามฤดูกาลเนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ผมกังวลคือเรื่องของแผนการบริหารจัดการน้ำโดยรัฐบาลได้วางแผนตั้งแต่ปี 2557 ที่รื้อมาทำใหม่ โดยเป็นแผนระยะยาวถึงปี 2569

"ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าทำ วันนี้เรามีปัญหาฝนแล้ง ฝนตกใต้เขื่อนจึงไม่สามารถเก็บน้ำได้ แต่ไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำอะไร ซึ่งการขาดแคลนน้ำรัฐบาลได้มีแผนดำเนินการตรงนี้ตั้งแต่ปี2557 ทั่วประเทศจะต้องมีน้ำประปาภายในปี 2560 ใน 7,400 หมู่บ้าน และให้มีแหล่งน้ำการเกษตรชลประทาน 732 แห่ง รวมถึงแก้แหล่งน้ำนอกเขตชลประทาน 2,157 แห่งให้เสร็จในปี 2558
ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานต้องมาพิจารณาว่าจะช่วยเหลืออย่างไร รัฐบาลไม่ได้บอกว่าให้เลิกสูบทั้งหมด และอยากให้มีการเกษตรแบบอุตสาหกรรม ไม่ใช่ปลูกอย่างเดียวแต่ต้องแปรรูป โดยกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นผู้นำเกษตรแนวใหม่ หรือSmart Farmer ในการเข้าถึงแอปพลิเคชัน

นอกจากนี้ยังต้องขุดน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรให้ได้กว่า 1,000 แห่ง เพื่อใช้สำหรับพื้นที่ 1 ล้านไร่ โดยขณะนี้ มีการขัดน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรได้แล้ว 6.6 หมื่นไร่

"ทุกคนต้องเข้าใจว่าที่มาของต้นทุนน้ำเพราะที่ผ่านมารัฐบาลประชาธิปไตยทำพื้นที่ป่าต้นน้ำหายไปถึง 8.6 ล้านไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคเหนือและอีสานที่ปัจจุบันเป็นเขาหัวโล้นทั้งสิ้น แล้วเราจะเอาน้ำมาจากไหน และการทำฝนหลวงก็ไม่มีผล เพราะทำให้ฝนตกเพียงเล็กน้อย"

สำหรับน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร รัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อใช้สำหรับพื้นที่การเกษตร 1 ล้านไร่โดยขณะนี้ได้ทำไปแล้ว 6.6 หมื่นไร่ แต่จำทำต่อไป ขณะที่การขุดลอกแม่น้ำสายหลัก เป็นเพราะน้ำตื้น จึงต้องขุดให้ลึกกว่าเดิม แต่ก็ต้องดูว่าจะไปทำลายระบบนิเวศน์หรือไม่ เหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดไว้นานแล้ว โดยต้องมีการทำเป็นแก้มลิงด้วยเพื่อเป็นที่พักน้ำ โดยประชาชนต้องร่วมมือกันเป็นกลุ่ม เช่น หมู่บ้านเพื่อช่วยกันทำแก้มลิง
"ยืนยันว่าถ้าเกิดฝนตกตามปกติประเทศไทยจะไม่มีการขาดน้ำ แต่ทุกวันนี้ปัญหาอยู่ที่การกักเก็บน้ำ สิ่งเหล่านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับสั่งมานานแล้ว แต่ทำไมที่ผ่านมาไม่ทำกัน จนวันนี้ผมต้องมาคลี่ทุกอย่าง รื้อทั้งหมด อาจจะใช้งบประมาณถึง 3.5 แสนล้านบาทต่อ ปีนี้เก็บภาษีไม่ได้มากพอ เศรษฐกิจโลกก็ไม่กระเตื้อง
"ถ้าเป็นรัฐบาลอื่นทุกอย่างอาจเจ๊ง ไปแล้วก็ได้ เราต้องดูแลประชาชนทั่งหมด ไม่ใช่ขึ้นมาก็ดูแลแต่ 10ล้าน ฝั่งนี้ขึ้นมา ก็ดูแลกลุ่มของตัวเอง แล้วอีก 50-60 ล้านคนไปไหน ไม่ดูแล ผมต้องมาดูแล
วันนี้ทุกคนต้องอย่าคิดว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ เพราะรัฐบาลรู้มาล่วงหน้าว่าจะไม่มีฝน ถึงได้เขียนแผนบริหารจัดการน้ำขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 แต่เมื่อฝนไม่ตกจึงส่งผลกระทบหมดตั้งแต่น้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงการเกษตร"
"อยากขอให้ทุกคนช่วยกันประหยัดน้ำ ไม่ใช่ประหยัดเพื่อตัวเอง แต่เป็นการประหยัดเพื่อคนรุ่นต่อไป โดยต้องร่วมมือกัน มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุขร่วมเสพ"

ที่ผ่านมา พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกรัฐบาลได้พูดเพื่อชี้แจงเกือบทุกวัน จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรับฟังด้วย วันนี้ในเมื่อปลูกข้าวแล้วตาย 2 ถึง 3 รอบเพราะไม่มีน้ำ แล้วเราจะมาปลูกกันทำไม ตอนนี้ต้องดูว่าเราจะปลูกอะไรได้บ้าง ผมไม่ได้บังคับอย่างก่อนหน้านี้ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องของการปลูกหมามุ่ย ก็เพราะอยากว่ามันสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก เกษตรกรสามารถอย่างอื่นได้ ทั้งผัก หญ้า เกษตรออแกนิก และอยากให้เกษตรกรผลิตปุ๋ยเอง เพราะการซื้อปุ๋ยเคมีนั้นมีราคาแพง ได้ไม่คุ้มเสีย มีอันตราย และยังไม่เกิดประโยชน์

ส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าว่า ขอเตือนว่าหากภายใน 1-2 ปีนี้ ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ ค่าไฟจะสูงขึ้น เพราะขณะนี้ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นต้นทุนผลิตไฟฟ้า จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ อย่าคิดเอาเอง เพราะบางอย่างที่เดินหน้าไม่ได้เพราะไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ EIA, HIA หรือผลกระทบสิ่งแวดล้อม หากเป็นเช่นนี้ต่อไปประเทศเราจะอยู่กันอย่างไร ผมอยากให้รวมกลุ่มกันให้ได้เพื่อจะได้ฟังว่าเรากำลังทำอะไร


ไม่มีความคิดเห็น: