OCTOBER 11, 2015
ความเดิมตอนที่แล้ว คลิก นายปูตินกำลังมีมุมคิดอยู่สามด้านครับ หนึ่งด้านคนที่รักเค้าเพราะเค้าสร้างความรุ่งเรื่องให้ประชาชน ด้านที่สองคือ คนเริ่มกังขาในความคิดของเค้าว่ากำลังทำอะไรจะเป็นประธานาธิบดีกันไปทำไมให้มันหลายสมัยเหลือเกิน และ ด้านที่สามคือ ความคิดของตัวเค้าเอง อันนี้สิครับที่สำคัญ
บล็อกที่ 5 นี้ผมหวังว่าผู้อ่านจะไปคิดเอาเองว่า ด้านที่ 3 นี้มันเกี่ยวกับอะไรนะครับ
หลังจากที่นายปูตินได้แสดงออกให้ผู้นำโลกตะวันตกได้รู้ว่า อย่ามาหวังว่าคนอย่างผมจะเดินตามเส้นทางที่พวกคุณขีดไว้ ระบอบประชาธิปไตยแบบของคุณมันไม่ใช่ทางของผมหรอก ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้นจะทราบว่าปรัชญาชีวิตของนายปูตินคือ นำความยิ่งใหญ่กลับมาให้รัสเซียอีกครั้ง เค้ารักความยิ่งใหญ่ของความเป็นสหภาพโซเวียตมาก รักการเป็น KGB มาก ต่อมาเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายและเค้าได้เข้ามาทำสิ่งที่เค้าฝัน เค้าจึงเดินหน้าอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม (ก็แหงล่ะครับ เค้าไม่ได้นับถือพราหมณ์)
เมื่อเค้าได้ขึ้นตำแหน่งประธานาธิบดีแทนนายเยลต์ซินต์ สิ่งที่เค้าตอบแทนนายเก่าก็คือ ทำนิรโทษกรรมทุกอย่างให้กับนายเยลต์ซินทั้งหมดเพื่อให้สมกับที่ได้รับการคาดหวัง หลังจากนั้นก็ดำเนินนโยบายสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับประเทศของเค้าประชาชนของเค้าห้วงแรกๆทางโลกยุโรปและอเมริกาก็มองเค้าในทางที่ไว้วางใจ
นายปูตินส่งสายตาให้จอร์จ บุช เกิดความไว้วางใจ
ในปี 2001 ในการประชุมสุดยอดที่ Slovania ประธานาธิบดีจอร์ช บุช ถึงกับประกาศความไว้วางใจในตัวปูตินให้โลกรู้ว่า เป็นคนที่ไว้ใจได้ เค้าบอกว่าเค้ามองเข้าไปในตาของปูตินแล้วเค้าพบความน่าไว้วางใจ “I looked the man in the eye. I found him to be very straight forward and trustworthy and we had a very good dialogue. I was able to get a sense of his soul. He’s a man deeply committed to his country and the best interests of his country and I appreciate very much the frank dialogue and that’s the beginning of a very constructive relationship,” Bush said.
นักวิจารณ์บอกว่า จอร์จ บุช ตกหลุมของนายปูตินเสียแล้ว เพราะนายปูตินถูกฝึกให้เป็นสายลับ เค้าสามารถแสดงสายตาได้หลายแบบเพื่อที่จะหลอกศัตรู วันนั้นเค้าแสดงสายตายที่ทำให้โลกตายใจในสิ่งที่เค้าเป็น และ สิ่งที่เค้าจะทำ นายปูตินทำให้อเมริกาคิดว่า สงครามเย็นจบลงแล้วและเป็นหน้าที่ของอเมริกาและรัสเซียที่จะรักษาสันติภาพของโลก
แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานในยุคสมัยของนายจอร์จ บุชนั้นเอง พวกเค้าเริ่มรู้สึกว่า ไม่ใช่แล้ว นายปูตินไม่ใช่คนอย่างที่เค้าคิดไว้ จากตอนแรกที่นายปูตินพยายามที่จะทำให้ผู้นำยุโรปต่างๆเห็นว่ารัสเซียอยากที่จะเป็นส่วนนึงของยุโรป เมื่อเรื่องราวกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือว่านายปูตินไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
วิกฤติการณ์ในยูเครน เป็นสิ่งที่สะท้อนความคิดของนายปูตินที่จะสร้างความย่ิงใหญ่ให้กับรัสเซียอีกครั้ง และ อเมริกาก็ไม่รอช้าที่จะเอาเหตุการณ์ในยูเครนมาสร้างภาพความเป็น”ผู้ร้าย”ให้กับนายปูตินทันทีครับ
ยูเครนอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียเป็นสะพานไปสู่ยุโรป
เรื่องราวก็คือ เมื่อยุโรปเริ่มรู้ว่านายปูตินไม่ได้อยากจะเป็นส่วนนึงของยุโรปแล้ว สิ่งที่พวกเค้าร่วมกันทำคือลดความแข็งแกร่งของรัสเซียลงให้ได้ ด้วยการที่จะดึงยูเครนมาเป็นฝ่ายของยุโรปและลดอิทธิพลของนายปูตินในยูเครนลงให้ได้เพราะยูเครนคือสะพานที่เชื่อมรัสเซียกับยุโรปทั้งหมด
ทางอียูเสนอที่จะให้เงินกู้กับทางยูเครน แต่ประธานาธิบดี Viktor Yunikovych ที่มาจากสายรัสเซียไม่เอา(เพราะรัสเซียไม่ให้เอา) ประชาชนในยูเครนก็ลุกฮือขึ้นขับไล่ประธานาธิบดี นาย Yunikovych หนีออกจากประเทศ ชนชาวยูเครนเลยตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ และรัสเซียไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ แต่ในยูเครนก็ยังมีคนส่วนมากอีกส่วนนึงที่เป็นสายรัสเซีย ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันเลยเกิดวิกฤติการณ์ในยูเครนขึ้น รัสเซียแอบส่งทหารและอาวุธเข้าไปรบกับทหารของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นหลังจากนาย Yunikovych บินหนีออกมา เกิดความวุ่นวายไปทั่วยูเครน
Euromaidan panoramic view taken from the top of the Revolution Christmas tree. December 8, 2013.
คราวนี้อเมริกาได้ที ก็เอาเรื่องนี้ประโคมไปทั่วโลกว่า นายปูตินรุกรานประเทศเพื่อนบ้านหวังให้พวกยุโรปคว่ำบาตรการค้ากับรัสเซีย ซึ่งพวกยุโรปต้องซื้อแก็ซธรรมชาติจากรัสเซีย พวกยุโรปก็ลังเลๆเพราะอากาศมันหนาว (555555555555 เลยทำเป็นเฉยๆไปก่อน) แต่ อเมริกาจะปล่อยให้ยุโรปทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ เพราะเท่ากับว่า รัสเซียจะมีเงินจากการขายพลังงานเอามาต่อกรกับอเมริกาและทำศึกในยูเครนต่อไป เรื่องนี้อเมริกายอมไม่ได้เด็ดขาด จนกระทั่ง…………….
MH17 ตกลงในยูเครน ใครยิง?
สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ MH17 ถูกยิงตกในยูเครน ทันทีที่เครื่องบินตกข่าวสารจากโลกตะวันตกก็ออกมาทันทีว่า ทหารฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยูเครนที่รัสเซียหนุนหลังเป็นคนยิง ข่าวคราวที่ออกมาเป็นแรงกดดันให้ยุโรปจะทำทองไม่รู้ร้อนไม่ได้แล้ว พวกยุโรปเลยต้องตัดสินใจคว่ำบาตรการค้ากับรัสเซีย (สังเกตุได้ว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่มาเมืองไทยหายไปทันทีกว่า 50% เพราะค่าเงินรูเบิลตกรูดลงมา 50% ออกมาเที่ยวกันไม่ไหว) แต่เรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า การที่เครื่องบินตกครั้งนี้ใครได้ประโยชน์ รัสเซียไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย คนที่ได้รับประโยชน์ก็คือ อเมริกาที่พยายามป้ายสีให้กับนายปูติน อันนี้จนวันนี้ก็ไม่มีใครออกมาพิสูจน์ว่า ใครเป็นคนยิงเครื่องบิน MH17 ลำนั้น แต่มีข่าวลือออกมาว่ามีภาพดาวเทียมที่รู้ว่า ใครเป็นคนยิงแล้ว อนิจจา คนพวกนี้เค้าเอาชีวิตคนมาต่อรองกันแบบนี้เลยหรือนี่
จากเหตุการณ์ในยูเครน โลกเริ่มสงสัยตัวนายปูตินขึ้นมา โลกเริ่มกลับมาใช้คำว่า สงครามเย็นกันอีกครั้ง อเมริกา และ รัสเซียกำลังกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รัสเซียไม่ได้มามือเปล่าดันมีเพื่อนซี้จากจีนที่พร้อมที่จะก้าวไปด้วยกัน เพราะจีนก็ถูกอเมริกากดดันไม่ให้มีอำนาจมากเกินไป หนทางที่จะสกัดจีนได้คือการสกัดเส้นทางน้ำมันที่จะวิ่งจากตะวันออกกลางไปยังจีน แต่ การที่รัสเซียมีแหล่งพลังงานเหลือเฟือ จีนจึงเห็นทางรอดของอนาคต อีกทั้งการร่วมมือกับรัสเซีย เท่ากับเป็นการกดดันอเมริกาได้ดีที่สุด
คู่ซี้ที่อเมริกากังวลใจ
ขณะเดียวกันนายปูตินก็รู้ดีว่าเค้าต้องรักษา Popularity ไว้ให้ได้ทั้งภายในและภายนอกประเทศ การกดดันให้เศรษฐกิจของรัสเซียพังพินาศเป็นสูตรเก่าเล่ายี่ห้อของอเมริกาที่จะหวังสร้างให้เกิดการวุ่นวายในประเทศรัสเซียเพื่อยืมมือผู้คนในประเทศออกมาเดินต่อต้านนายปูติน แล้วอเมริกาก็จะเข้าไปทำเก๊กหล่อในประเทศรัสเซียอีกที แต่นายปูตินไม่ได้โง่ นายปูตินเริ่มแผนโปรยสเน่ห์ผู้นำรุ่นใหม่ หนุ่ม หล่อ แข็งแรง เพื่อสร้างความนิยมในตัวเองให้แตกต่างจากผู้นำที่ผ่านมาของสหภาพโซเวียต และเริ่มสร้างภาพว่า ที่รัสเซียแย่ทุกวันนี้ก็เพราะไอ้พวกยุโรปนี่แหละ ความนิยมในตัวเค้าในประเทศรัสเซียกับความโหดของเค้าในการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามสยบสถานการณ์ได้ระดับนึงเลยทีเดียว
ผู้นำหนุ่ม แข็งแรง
นอกจากความนิยมภายในประเทศ เค้ายังต้องการมิตรประเทศอีกมากมายที่จะร่วมเป็นกลุ่มพลังต่อรองกับอเมริกา เค้ามองไปทั่วๆแล้วพบว่า ห้วงเวลาที่รัสเซียอ่อนแอ อเมริกาก็วางตัวเป็นตำรวจของโลกเข้าจุ้นกับกิจการภายในประเทศต่างๆทั่วโลกจนคนเริ่มเอือมระอา แต่ว่า ประเทศเหล่านั้นทำอะไรไม่ได้ ประเทศที่กำลังเซ็งๆกับอเมริกาเหล่านี้แหละ คือพันธมิตรชั้นดีของปูติน
แสนยานุภาพของรัสเซียที่โลกตะลึง
เมื่ออเมริกาหวังครองแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลางแต่เพียงผู้เดียวด้วยการสร้าง ISIS ขึ้นมาเพื่อสร้างความวุ่นวายไปทั่วตะวันออกกลาง ถึงจุดๆนี้เป็นจุดที่ลงตัวพอดีเมื่อ ISIS ก้าวเข้าไปในซีเรีย นายปูตินมองเห็นโอกาส กระสุนนัดเดียวได้นก 4 ตัวคือ
- ได้ใจชาวตะวันออกกลางและชาวโลกที่เอือมระอาต่อพฤติกรรมของ ISIS เต็มทน
- ได้ใจคนทั่วโลกที่จะมีใครสักคนมาปราบตำรวจเถื่อนของโลกเสียที
- ซีเรียที่ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก การได้ซีเรียมาเป็นพวกเท่ากับเค้าจะมีท่าเรือในทะเลเมดิเตอเรเนียนไว้กดดันพวกนาโต้ได้อย่าง”เนียนๆ”
- สุดท้ายคือ การแสดงแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซีย ที่ทำให้โลกเชื่อว่า รัสเซียไม่เป็นสองรองใคร ยิ่งการยิงขีปนาวุธจากเรือทะเลสาปแคสเปี้ยน บินๆเลี้ยวลัดเลาะเข้าถล่มรัง ISIS ในซีเรียที่ห่างออกไปถึง 1400 กิโลเมตร สร้างความซี้ดซ้าดให้กับผู้ที่ติดตามความทันสมัยของแสนยานุภาพของรัสเซียเป็นอย่างมากว่า ทำได้อย่างไร ไกลขนาดนี้และแม่นราวกับจับวาง (อเมริกาโดย CNN พยายามปล่อยข่าวว่า มีขีปนาวุธไปตกในอิหร่านมีคนล้มตาย แต่ ไม่มีหลักฐานเป็นภาพออกมา แถมอิหร่านก็ปฏิเสธข่าวด้วย หน้าที่ CNN เค้าหละครับ )
ปูตินถล่ม ISIS ในซีเรียด้วยขีปนาวุธจาก Caspian Sea
ศึกถล่ม ISIS ในซีเรียครั้งนี้ถึงใจพระเดชพระคุณผู้คนไปทั่วโลก รวมทั้งหลายๆคนในประเทศไทยไปด้วยเลย ถ้าวัดความนิยมในตัวของนายปูตินแล้วเชื่อว่า คะแนนความนิยมพุ่งกระฉูดไม่ว่าทางอเมริกาจะพยายามที่จะลดคะแนนลงด้วยแผนอะไรอย่างไรก็ตาม
ข่าวคราวที่น่าเชื่อถือว่า นายปูติน มีส่วนกับการคอรัปชั่น การกำจัดฝ่ายต่อต้านอย่างเหี้ยมโหด การรู้เห็นเป็นใจกับแก๊งอาชญากรรม และอื่นๆอีกมากมายหลายคดีพอจะมีมูล ทำให้เค้าต้องหาทางอยู่ในตำแหน่งไปอีกสักพักนึง ซึ่งเชื่อว่าเค้าคงจะเป็นไปจนถึงปี 2024 เป็นอย่างน้อย ระหว่างนี้เค้าคงต้องหาทางลงจากตำแหน่งอย่างสวยสดงดงามและที่สำคัญ รัสเซียจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้งในยุคของเค้า จนกว่าจะมีลูกน้องคนโปรดที่จะมาแทนและปกป้องเค้าจากการเช็คบิลย้อนหลังให้ได้สักคน ซึ่งตอนนี้ยังมองไม่เห็นใครสักที เค้าคงต้องอยู่ไปอีกนานพอควร
เส้นทางการปกครองรัสเซียของนายปูตินมองไปข้างหน้าแล้วคงจะไม่ราบรื่น เพราะอเมริกาเองคงไม่อยากเห็นว่ามีใครสักคนที่แข็งแรงพอที่จะมาขวางทาง แถมจีนเองก็เข้าเป็นพวกกับรัสเซียในย่านตะวันออกนี้อย่างเด่นชัด หลายปีก่อนที่รัสเซียอ่อนแอ อเมริกาก็เข้าไปวุ่นวายสร้างกลุ่มหัวรุนแรงในอัฟกานิสถานเป็นกันชนไม่ให้รัสเซียแผ่อิทธิพลลงมาทางตะวันออกกลาง จากนี้ไปความคิดความอ่านของอเมริกาจะเปลี่ยนไป การถล่ม ISIS เด็กในคาถาของอเมริกาเป็นสิ่งบอกเหตุให้อเมริการู้ว่า รัสเซียจะไม่ทนอีกต่อไปนะจ๊ะ อย่ามาใช้มุกเดิมๆอีกขอร้อง
ด้วยความคาดหวังของนายปูตินเองเลยที่จะนำรัสเซียกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เค้าจึงบริหารจัดการประเทศมาถึงจุดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าชายคนนึงที่ตกงานกลับบ้านเกิดจะกลายมาเป็นคนที่กำลังเปลี่ยนสมดุลย์ของโลกได้ในวันนี้
ขอจบบทความ 5 ตอนไว้เพียงเท่านี้ครับ ผมหวังว่า ความเข้าใจแนวคิดของนายปูติน จะทำให้ท่านพอมองเห็นเหตุการณ์ของโลกในอนาคตได้บ้างไม่มากก็น้อยครั
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น