PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปิดศึกสายเลือด! ปชป.จัดหนักกันเอง แฉทุจริตใน กทม.อื้อ! หอบหลักฐาน ฟ้อง ป.ป.ช.

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558  มติชน


นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า มีข้าราชการและประชาชนมาร้องเรียนกับตนว่า มีรองผู้ว่าฯ กทม.คนหนึ่งเดินทางไปต่างประเทศทุกเดือน นั่งเครื่องบินชั้นเฟิสต์คลาส และต้องไปจบที่ประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยใช้เงินสดซื้อตั๋ว ตั้งข้อสงสัยว่าที่มาของเงินจะเกี่ยวข้องกับกรณีการทำหนังสือเวียนถึงเขตต่างๆ ที่ขอให้ตรวจสอบและทำเรื่องมาถึงกทม. เพื่อขอให้ซื้อรถต่างๆ เช่น รถดูดเลน รถดูดไขมัน หรือไม่ ซึ่งเดิมแต่ละเขตจะมีอยู่แล้ว 1 คัน แต่มีการสั่งภายในให้ทำเรื่องเสนอมา พร้อมกำหนดสเปก เช่น รถดูดไขมันขนาด 8 คิว คันละ 24 ล้านบาท พอตนแถลงมีการสั่งชะลอเรื่อง และที่ต้องสั่งให้เขตต่างๆ ทำเรื่องขึ้นมาเพื่อใช้อ้างกรณีถูกตรวจสอบว่าเป็นการเสนอขอซื้อจากเขต ไม่ใช่เป็นคำสั่งจากรองผู้ว่าฯ

นอกจากนี้ ยังมีกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกทม. โดยเฉพาะระดับสูง อาทิ การย้ายผู้อำนวยการเขต ต้องใช้เงินถึง 7 หลักไม่แพ้ในวงการตำรวจ อย่างผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ในพื้นที่ตน มีการทำเรื่องย้ายลูกน้องตัวเองซึ่งเป็นนายช่างโยธาเขตจตุจักร มาอยู่เขตบางกอกใหญ่ โดยให้หัวหน้าฝ่ายโยธามีคำสั่งระบุให้ดูแลพื้นที่ฝั่งซ้ายของถนนจรัญสนิทวงศ์และถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นฝั่งที่มีคอนโดมิเนียมจำนวนมาก มีการเรียกค่าเซ็นใบอนุญาตก่อสร้างทั้งที่ถูกแบบกลางของ กทม.แล้ว และยังมีการสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติที่เขตธนบุรี โดยประมูลงานผ่านอี-ออคชั่น แต่ได้บริษัทของคนสนิทของรองผู้ว่าฯ คนหนึ่ง ที่น่าแปลกใจคือมีการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ล่วงหน้า มีการระดมหรือสั่งข้าราชการ กทม.ให้อำนวยความสะดวกให้กับบริษัทดังกล่าวทุกอย่าง เมื่อสร้างสิ่งก่อสร้างเสร็จเพิ่งจะมาเร่งรัดกับทางเขตให้รีบเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โอยอ้างว่ารองผู้ว่าฯ สั่งมาให้รีบเซ็น

“เท่านั้นยังไม่พอ มีการขนทีมงานของรองผู้ว่าฯรายนี้ไปฉลองเกษียณอายุราชการที่ญี่ปุ่น โดยมีการซื้อสินค้าจากบริษัท ชื่อดัง ในช่วงโปรโมชั่น ซื้อครบ 5 หมื่น จะแจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับญี่ปุ่น 1 ใบ ปรากฏว่ามีการสั่งซื้อสินค้าล็อตเดียว 5 ล้านบาท ได้ตั๋วไป-กลับ 100 ใบ ถามว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อสินค้าดังกล่าว ใครเป็นผู้ดูแล และมีการขนข้าราชการ กทม.ในส่วนบริหารไปเที่ยวเป็นระลอก ล่าสุดกำลังไปเที่ยวสหรัฐอีก 7 คน ถามว่าเอาเงินมาจากไหน” นายวิลาศ ระบุ

ทั้งนี้ จะนำเรื่องต่างๆ พร้อมพยานหลักฐานเอกสารและบุคคลเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป.ป.ช. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ใช้จ่ายในเรื่องนี้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า จะมีการนำหลักฐานไปร้องต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในฐานะผู้บริหารระดับสูงหรือไม่ นายวิลาศกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีคำสั่ง คสช.ห้ามพรรคจัดกิจกรรมทางการเมืองใดๆ หากทำได้จะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมพรรคให้พิจารณาด่วน และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหน้าผู้ว่าฯ กทม.เลย และไม่รู้ว่าจะเข้าศาลาว่าการ กทม.เมื่อไหร่ หรือย้ายไปอยู่ดอยแล้ว แต่ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้งบว่า ก่อนหน้านี้ กทม.มีเงินสะสมอยู่ 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันลองไปขอตรวจสอบดูเหลือไม่ถึง 2 พันล้านบาท เพราะแต่ละคนมือฉกาจในการทำเรื่องของบประมาณทั้งนั้น.

ไม่มีความคิดเห็น: