PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

“บิ๊กตู่” ระบุ ประเทศไทยป่วยเรื้อรัง มา 10 ปี คสช.ขออาสาเป็น "หมออาสา" มารักษา 3 ระยะ

“บิ๊กตู่” ระบุ ประเทศไทยป่วยเรื้อรัง มา 10 ปี คสช.ขออาสาเป็น "หมออาสา" มารักษา 3 ระยะ เป้าหมายสุดท้ายให้นักกีฬากลับสู่สนาม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เขียนบทความ ในคอลัมน์ "จากใจนายกรัฐมนตรี" ลงในจดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน ฉบับที่ 16
นายกฯ ระบุว่า 10 ปีแล้วที่ประเทศไทยป่วยร่างกายอ่อนแอ เพราะไม่เข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ไม่ได้รับการส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขัน ปราศจากการวางรากฐานการพัฒนาที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขาดภูมิคุ้มกัน ปล่อยให้เชื้อโรคร้ายกัดกินสังคมไทย ทั้ง การทุจริตคอรัปชั่น ความเหลื่อมล้ำ คนจนถูกเอาเปรียบ จิตใจไม่สงบจนขาดสติ ขัดแย้งกันทางการเมืองนำไปสู่การแตกแยก และไม่มีทุนชีวิตในการต่อสู้โรคร้าย เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติถูกดึงมาใช้อย่างไร้วินัย ปราศจากการทดแทนจนขาดความมั่นคง ประเทศไทยจึงป่วยเรื้อรัง ด้วยขาดสมดุลย์ใน 4 มิติ คือการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
นายกฯ กล่าวว่า 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา คสช.เปรียบเสมือน "หมออาสา" เข้ามาดูแลและรักษาอาการป่วยของประเทศด้วยแผนการรักษา 3 ระยะ
1.การให้ยาตามอาการป่วยและผลข้างเคียง มุ่งระงับความขัดแย้งทางการเมือง แก้ไขปัญหาเร่งด่วนทางสังคม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศต่อไปให้ได้
2.การผ่าตัดเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอวัยวะทั้งภายในและภายนอก อาศัยความร่วมมือร่วมใจจากหมอในหลายสาขาด้วยกัน อาสา รัฐบาลบริหารขับเคลื่อนประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ในเบื้องต้น และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)ในปัจจุบัน กำหนดกรอบแนวทางการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและคณะกรรมการธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในการปกครองและบริหารประเทศที่มีกลไกเครื่องมือแก้ไขปัญหาในอดีต ป้องกันปัญหาในอนาคต
3.การคืนนักกีฬาสู่สนามแข่งขันคือเป้าหมายสุดท้ายในการทำงานของผม รัฐบาลและคสช.ในการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า
นายกฯ กล่าวว่า 12 กันยายน 2557 ถึงวันนี้ผมนำทีมประเทศไทยมุ่งมั่นทำงานภายใต้นโยบาย “ทำก่อน ทำจริง ทำทันที” มีผลสัมฤทธิ์และยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สร้างความปรองดองให้คนในชาติ จัดระเบียบสังคมและของประเทศเพื่อรองรับความท้าทายใหม่และการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยหลัก 3 ประการ คือ น้อมนำหลักปรัญญาเศรษฐกิจพอเพียง การใช้โครงสร้างการทำงาน การยึดแนวทางประชารัฐ
“ทุกคือและวันที่ผมตื่นเช้าขึ้นมา ผมคิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรให้คนไทยทุกคนมีร่างกายเข้มแข็ง กินอิ่มนอนหลับ มีแรงทำงาน มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและมีจิตใจที่สุขสงบ ยึดมั่นในค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการเพราะการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนต้องยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” นายกฯ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: