PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วิกฤติพรรคการเมืองใหญ่

03122558 วิกฤตพรรคการเมืองใหญ่ โอกาสของพรรคการเมืองภาคประชาชน ( 2 )
หมายเหตุ
1. ตีพิมพ์ในนสพ. สยามรัฐรายวัน หน้า 3 ฉบับที่ผ่านมา
2. เพื่อให้อ่านต่อเนื่อง จะนำเอา ตอน ( 1 ) ที่ลงมาก่อนหน้านี้ กว่าสัปดาห์มาลงต่อท้าย
• จุดอ่อนของ คนไทย คือ จะคอยให้ผู้มีอำนาจ เป็นผู้กำหนด แล้วส่งต่อให้ประชาชน
โดยได้แต่วิพากษ์ วิจารณ์ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แต่ไม่เข้าไปร่วมการเปลี่ยนแปลง
เพราะคิดว่า ไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเรา แต่เป็นของผู้มีอำนาจ
อีกด้านหนึ่ง กลับปล่อยอำนาจอีกขั้วหนึ่ง กระทำคัดค้านในสิ่งที่ขัดประโยชน์ของตน
@ แล้ว สิ่งทีถูกต้องคืออะไร
ต้องตั้งคำถามและตอบตัวเอง
โดยเฉพาะผู้นำภาคประชาชนหรือนักประชาธิปไตย
บ้านเมืองนี้ของใคร ?
แน่นอนบ้านนี้เมืองนี้เป็นของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง
และเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของแผ่นดิน มีสิทธิเต็มที่ แล้วมีเสียงข้างมากเป็นส่วนใหญ่
แต่ก็จะมีเสียงดังขึ้นมาอีกว่า
แต่เราไม่มีอำนาจหรือพลัง ที่จะไปทำอะไร กำหนดอะไร ?
นี่คือปัญหาความคิด และเป็นความผิดพลาดใหญ่ของฝ่ายประชาชน
เราเข้าใจอยู่แล้วว่า : ฝ่ายขั้วอำนาจเก่า ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อประชาชน
การเปลี่ยนแปลงจักเกิดขึ้น จากการออกแรงออกความคิดใช้พลังของประชามหาชน
เริ่มต้น จากคนส่วนน้อยที่จริงจัง เอาการเอางาน แน่วแน่ กล้าหาญเสียสละ
ประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องประชาธิปไตย ก็เป็นเช่นนั้น
@ เอาล่ะ เข้าใจแล้วใช่ไหม
สังคมไทย มีคนที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องการการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย
และอีกไม่น้อย เคยมีประสบการณ์ ทั้งด้านประสบความสำเร็จในเบื้องต้น และ
บาดเจ็บเสียหายไปในช่วงท้าย เพราะไม่สามารถรักษาพลังของตนได้
อีกทั้งฝ่ายอำนาจ “ ทุน-นักการเมือง-ข้าราชการ” ที่ไม่ดี ได้สมคมร่วมมือกันทำลายเรา
@ บัดนี้มีโอกาส ฟ้าสีทองแห่งการเปลี่ยนแปลง เริ่มโผล่ส่องแสงแห่งความหวังขึ้น
จากสภาพการณ์ที่ฝ่ายอำนาจเก่าถูกสยบไปชั่วคราวด้วยอำนาจใหม่ และ
ฝ่ายอำนาจใหม่ ได้เห็นภัยและวิกฤตของชาติที่เกิดจากฝ่ายอำนาจเก่าพรรคการเมืองเก่า
และได้สร้างสิ่งใหม่ขึ้น ท่ามกลางสิ่งเก่าที่ยังมีอยู่มาก และบางเรื่องก็สร้างปัญหาใหม่
แต่เรา : ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้ริเริ่ม ต้องกุมหลักการใหญ่
มองด้านหลัก ภาพรวม และแนวโน้ม เป็นหลัก แล้วเริ่มต้นจากแสงสว่างปลายอุโมงค์นี้
@ สภาพที่เป็นโอกาสทองเล็กๆแบบ SME คือ
๑. คสช. รัฐบาลประยุทธ์ ได้แสดงเจตนารมณ์และมีการเริ่มต้น ไม่เอาเก่า ต้องการใหม่
๒. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชุด อาจารย์มีชัย ได้นำเสนอสิ่งใหม่หลายเรื่อง
โดยเฉพาะ “การลดบทบาทพรรคการเมืองใหญ่และนักการเมืองที่สร้างปัญหา การทุจริต”
• ฉะนั้นสิ่งที่ผู้นำภาคประชาชน ผู้ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเริ่มทำและ ทำทันที่
๑. รวบรวมผู้คนที่มีประสบการณ์จากพรรคการเมืองเล็กๆ-นักประชาธิปไตยทั้งประเทศ
มาคุยแลกเปลี่ยนและประชุมกัน ในเรื่องของการร่วมพลังกันสร้างประชาธิปไตย
วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง สภาพเงื่อนไข โอกาสและแนวโน้ม
๒. ต้องร่วมสนับสนุนผลักดันสิ่งที่ดีและถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ
กล่าวโดยเฉพาะ : การแก้ไขรัฐธรรมนูญชุดมีชัย ในเรื่องที่ดี
และที่สำคัญ คือ การลดบทบาทของพรรคการเมืองใหญ่ที่สร้างวิกฤตประเทศ
และการเพิ่มอำนาจและบทบาทของพรรคการเมืองเล็กและประชาชน
คือ ทั้งทำเอง และสนับสนุนสิ่งที่ดีที่ “ รัฐบาลและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” ได้ทำ
๓. ต้องร่วมกันคัดค้านสิ่งที่ไม่ดี ที่ทำเพื่อคงอำนาจของพรรคใหญ่ไม่ดีต่อประชาชน
กล่าวโดยเฉพาะ : การคัดค้านการลดบทบาทของพรรคการเมืองเก่าฯ
โดย ฝ่ายพรรคการเมืองใหญ่และอำนาจเก่า
เราจะต้องเปิดโปง ให้ประชาชน ได้รับรู้ความจริง และเป้าหมายมิชอบของพวกเขา
ซึ่งรวมทั้งสื่อทุกระบบของพวกเขา และสื่อ นสพ. TV ฯลฯ
๔. ดำเนินการร่าง แนวคิด แนวทาง เป้าหมาย ของฝ่ายประชาชนขึ้นอย่างเป็นระบบ
เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน และผู้ที่สนใจ ให้เข้ามีส่วนร่วมพลังในการเปลี่ยนแปลงนี้
๕. ต้องมีแผนงาน และการจัดการ อย่างมีจังหวะก้าว ขั้นตอน เป็นรูปธรรม
การสนับสนุนคนของเรา เพื่อนมิตร และคนดีมีอุดมการณ์
ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองทุกระดับ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ท้องถิ่น กทม.ประเทศ
รวมทั้งการสร้างโอกาสเข้าไปร่วมในองค์กรอิสระ องค์กรมหาชน และสว.สรรหาฯลฯ
๖. ต้องมีนักวิชาการ นักกฎหมาย และผู้มีประสบการณ์ เข้ามาร่วมให้มากพอ
๗. ต้องมีการระดมทุน ในการดำเนินการ ซึ่งจำเป็นต้องหานักธุรกิจและนายทุนที่รักชาติ
๘. ต้องสนใจคนที่รักชาติในส่วนงานราชการ การเมือง และคนไทยในต่างประเทศ
๙. ต้องสร้างสื่อ และช่องทางการเผยแพร่ปชส.ให้ประชาชนในวงกว้างได้รับความจริง
๑๐. ต้องมีการประชุมหารือ สรุปบทเรียนกันอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ
• นักปฏิวัติที่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย ได้ให้สูตรของความสำเร็จว่า
“ ในโลกนี้ สิ่งที่ศัตรูของประชาชนกลัว คือ การเอาจริงของประชาชน “ .
............................................
วิกฤตพรรคการเมืองใหญ่ โอกาสของพรรคการเมืองภาคประชาชน ( 1 )
• คนไทยส่วนไม่น้อย มองพรรคการเมืองใหญ่ที่เคยเป็นรัฐบาล เป็นตัวปัญหา
ทั้งผลของโพล์ในปัจจุบัน และช่วงกปปส.คนเรือนล้านๆออกมาปฏิเสธการเมืองเก่า
และนำเสนอคำขวัญที่ดังกึกก้องไปทั่วไทย คือ “ ต้องปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง “
หากรวมความเห็นของประชาชนดังกล่าว อาจกล่าวว่า
“ ต้องปฏิรูป พรรคการเมืองสามานย์ให้เป็นประชาธิปไตย ก่อนมีการเลือกตั้ง”
สิ่งที่นักการเมืองในสังกัดพรรคดังกล่าว อย่ามากล่าวหาใคร หรือ รัฐบาลประยุทธ
แต่ต้องกลับไปทบทวนตัวเองและพรรคการเมืองของตน ทำอะไรให้ประเทศเสียหาย
“ โกงข้าวโกงชาวนา ห้าแสนล้าน , โกงบ่อบำบัดน้ำคลองด่านหลายหมื่นล้าน
โกงงบประมาณในกรมชลและเกษตรกร , โกงโรงพักตำรวจ และสารพัดโกง ฯลฯ
การใช้อำนาจรัฐ โยกย้ายเรียกเงินข้าราชการ การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มอำนาจตน
สั่งตำรวจมาสลายการชุมนุมของประชาชนที่ใช้สิทธิตามรธน.ปี51
การปกป้องแกนนำผู้ชุมนุมติดอาวุธชุดดำ ที่ทำร้ายประชาชนทำลายประเทศ ปี 53
และเมื่อ22 พฤษภา 2557 พลเอกประยุทธ ทำการรัฐประหาร มวลมหาชนสนับสนุน
โดยสรุปนี่คือ วิกฤตของพรรคการเมือง จากการกระทำของนักการเมืองเอง
• แล้วประชาชน จะสรุปบทเรียนนี้ ให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมืองได้อย่างไร
ก. บทเรียนของวิกฤตพรรคการเมืองใหญ่
๑. วิกฤตของพรรคการเมืองนักการเมือง เพราะการใช้อำนาจไม่ถูกต้องชอบธรรม
ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองพวกพ้อง มิใช่ประชาชนและประเทศชาติ
๒. เพราะพรรคการเมืองมิใช่พรรคประชาธิปไตย มีนายทุนเป็นเจ้าของบงการพรรค
แต่พรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ คือพรรคมวลชน สมาชิกเป็นเจ้าของพรรค
๓. เพราะ รัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง มิได้ควบคุมพรรคและนักการเมือง
ปล่อยให้นักการเมืองที่เข้าไปเป็นสส. นายกรมต.ประธานรัฐสภา มีอำนาจล้นฟ้า
และใช้อำนาจรัฐไปในทางมิชอบ โกงงบประมาณ รังแกข้าราชการเอาเปรียบชาวบ้าน
๔. ประชาชนเรือนล้าน ปฏิเสธ พรรคการเมืองเก่า ทั้งใหญ่กลางเล็ก ที่สร้างปัญหา
ข. โอกาสของพรรคประชาชน
๑. แนวโน้ม การไปสู่ประเทศประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้ง โดยพรรคการเมือง
แต่ต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน
๒. เป็นโอกาสของพรรคการเมืองที่ดี และประชาชนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองที่ดีขึ้น
๓. แต่ประชาชน คสช. กมธ.ร่างรธน. จะต้องคิดให้ออกว่า What is to be done
• มาศึกษาบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาของพรรคการเมืองประเทศไทย
ผมเป็นคนเดือนตุลา 14 ตุลาคม 16 ได้รับรู้และได้เข้าร่วม-ก่อตั้งพรรคการเมืองฯ
ร่วมก่อตั้ง เป็นกรรมการ-รองเลขาธิการ-รองประธานพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
เข้าร่วมกับพรรคพลังธรรม หลังเหตุการณ์17 พฤษภา 35 เป็นกรรมการ-รองเลขาธิการ
ได้เห็นพลังประชาชน บทบาทผู้นำนักศึกษาประชาชนนักธุรกิจ ที่ต้องการประชาธิปไตย
และเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองและความตื่นตัวของประชาชนได้ดี
จึงขอสรุปให้เห็นประเด็นที่สำคัญ เพื่อนำมาคิดประยุกต์ต่อ ในสถานการณืปัจจุบัน คือ
๑. ประเทศไทยเคยมีพรรคการเมืองที่ดี มีลักษณะพรรคมวลชนเกิดขึ้น
เช่น พรรคประชาธิปัตย์ในยุคต้นๆ พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
พรรคแนวร่วมสังคมนิยม พรรคพลังใหม่ พรรคก้าวหน้า ฯลฯ
๒. พรรคการเมืองเหล่านี้ เป็นการรวมตัวของคนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์
และสามารถนำเสนอและผลักดันนโยบาย ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน
๓. สถานการณ์ในช่วงนั้น เปิดโอกาส เพราะ
ก. ประชาชนเติบโต รับรู้ปัญหาเผด็จการ ต้องการประชาธิปไตย
ข. ระบบเผด็จการทหารลดบทบาท ระบบพรรคการเมืองไม่ผูกขาดอำนาจ
ค. การเลือกตั้ง ไม่ใช่เงินมาก การซื้อเสียงมีน้อย ไม่มีการซื้อพรรคการเมือง
ง. สื่อ มีจรรยาบรรณ มีอิสระ และมีสื่อที่ก้าวหน้า สื่อประชาธิปไตย
โดยสรุป สังคมการเมืองยังมีภาวะสมดุล ทุกฝ่าย มีโอกาส ในการเลือกตั้ง
• สภาพสังคมและการเมืองในปัจจุบัน มีเงื่อนไขและมีโอกาส
๑. พรรคการเมืองเก่า ใหญ่กลางเล็ก ต้องถูกยุติบทบาท ( ไปชั่วคราว )
๒. ประชาชนปฏิเสธการเมืองเก่า ต้องการการเมืองใหม่
๓. รัฐบาลพลเอกประยุทธ คสช. ฯ ได้มองเห็นต้นเหตุวิกฤต ที่มาจากนักการเมืองเก่า
๔. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชุดอาจารย์มีชัย เห็นปัญหา ได้นำเสนอการแก้วิกฤต
ลดอำนาจบทบาทของพรรคการเมืองใหญ่ เพิ่มอำนาจในการใช้สิทธิของประชาชน
กวดขันเข้มงวดคุณสมบัติ ไม่เอานักการเมืองทุจริต ปฏิเสธคนไทยย้ายสัญชาติฯ
๕. คนมีอุดมการณ์ นักประชาธิปไตย มีการตื่นตัว พูดคุยแลกเปลี่ยน ที่จะมีการรวมตัว
เข้าร่วมการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ และฟื้นฟูพรรคการเมืองเก่าที่มีอุดมการณ์
• แล้วประชาชน จะมีส่วนร่วมในการผลักดันเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น: