PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สั่งเด้งซ้ำ! 'รองอธิบดีอัยการ' โพสต์วิจารณ์กรณี 'น้องบิ๊กตู่' หลังถูกตั้งกก.สอบ

โดนตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงยังไม่พอ! อัยการสูงสุด สั่งเด้ง 'ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม' รองอธิบดีอัยการคดีอาญา โพสต์เฟซบุ๊ก วิจารณ์สอบน้องชายบิ๊กตู่ กระทบ 'นายกฯ –รองวิษณุ' ไปรักษาการ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุดแทน เริ่มมีผล 10 ต.ค.นี้ 
picakkkkkk005 9 16
จากกรณีที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธ์ภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด มีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยแพร่สู่สาธารณะวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่า ตามที่มีการเผยแพร่เรื่อง หรือบทความที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เขียนเรื่องลงเฟซบุ๊กส่วนตัวที่เผยแพร่สู่สาธารณะ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสว.กทม.และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ร้องให้สอบสวน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ในกรณีต่าง ๆ โดยมีข้อความดังกล่าวพาดพิงถึงพล.อ. ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมามีสื่อมวลชน นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่สื่อต่าง ๆ อย่างแพร่หลายนั้น  
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2559 ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธ์ภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 1905/2559 เรื่องให้ พนักงานอัยการช่วยราชการ และปฏิบัติราชการ 
ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 13 มาตรา 15 มาตรา 19 และมาตรา 27 แห่งพ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 จึงมีคำสั่งให้พนักงานอัยการช่วยราชการและปฏิบัติราชการดังนี้ 
1. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด รักษาการในตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา
2. นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา รักษาการในตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด 
ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป (ดูคำสั่งประกอบ) 
picakkkkkk5 9 16
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดแถลงข่าวกรณี ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธ์ภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด มีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยแพร่สู่สาธารณะวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 
โดยระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ขอชี้แจงว่า การเขียนเรื่องหรือบทความของนายปรเมศวร์ เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสำนักงานอัยการสูงสุดแต่อย่างใด และตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสาร พ.ศ.2554 ข้อ 13 กำหนดว่า การเขียนเรื่องหรือบทความเผยแพร่ทางสื่อมวลชนให้กระทำได้ แต่ต้องอยู่ภายในขอบเขตของกฎหมาย หรือระเบียบ และจะต้องไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด บุคคลใดหรือหน่วยงานใด และไม่มีลักษณะเป็นการให้ข่าวและบริการข่าวสารของสำนักงานอัยการสูงสุดโดยผู้เขียนไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ
ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังระบุด้วยว่า เมื่อเกิดกรณีดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือเวียน ลงวันที่ 4 ต.ค.59 กำชับให้บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดทั่วประเทศ ถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสาร พ.ศ.2554 โดยเคร่งครัด
“สำหรับกรณีนายปรเมศวร์ เขียนเรื่องหรือบทความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวและมีข้อความพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งวันนี้ ( 5 ต.ค.) ให้นายประนต ผ่องแผ้ว ผู้ตรวจการอัยการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเสนอความเห็นรายงานอัยการสูงสุดทราบและพิจารณาต่อไป ” ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด 
sommmjjdjdddddd

ไม่มีความคิดเห็น: