PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อาลัยแด่จันทร์ทิพย์ ผู้เป็นเมียของผัวและแม่ของลูกผู้อดทนหนักแน่น ควรค่าแก่การระลึกถึง (ต่อ)


หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพ
อาลัยแด่จันทร์ทิพย์ ผู้เป็นเมียของผัวและแม่ของลูกผู้อดทนหนักแน่น ควรค่าแก่การระลึกถึง (ต่อ)
๕ กันยายน ๒๕๕๙
๔ โมงเศษๆ ฉันเดินทางถึงวัดมงกุฎ ณ. ศาลา ๑๐ พอไปถึงพิธีรดน้ำศพกำลังเริ่ม
พวกญาติพี่น้องผู้ตายและเจ้าปั๊ปจึงให้ฉันได้รดน้ำศพ อีจันทร์ก่อน
ฉันเห็นหน้าอีจันทร์ แล้วก็รำพึงรำพันอยู่ในใจว่า ลูกเอย ไปดีเถอะนะลูก วันนี้กูมารดน้ำซากมึงแล้วจุติ จุตัง อรหัง จุติ นะลูก
แล้วยื่นซองใส่เงินของวัดอ้อน้อย และมูลนิธิธรรมอิสระ ที่ถวายให้ฉันมาร่วมบริจาคเป็นเจ้าภาพงานศพอีจันทร์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
หากจะถามว่าทำไมถึงได้มากขนาดนี้ เพราะฉันรู้ว่าตอนนี้ครอบครัวอีจันทร์กำลังลำบาก ฝืดเคืองขัดสนเรื่องการเงิน
แม้ว่าเงินหนึ่งแสนจะดูไม่มากในสายตาของคนมีอันจะกิน แต่ก็เป็นเศษเสี้ยวหนึ่ง ที่จะช่วยต่อลมหายใจให้กับครอบครัวอีจันทร์มันได้บ้าง
อีกทั้งพี่น้อง เพื่อนพ้อง ที่ไปร่วมงาน และที่จะมาร่วมงานสวดศพของอีจันทร์
หากจะนำพวงหรีดหรือดอกไม้มาเคารพศพ ก็ขอเปลี่ยนเป็นเงินใส่ซองมาช่วยงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จะเป็นบุญอย่างยิ่ง
หลังจากรดน้ำศพอีจันทร์แล้ว ก็มานั่งเห็นแขกผู้มีเกียรติมากันมากมาย เช่นลุงจำลอง หรือพลตรีจำลอง ศรีเมือง ด็อกเตอร์อาทิตย์ อุไรรัตน์ ท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คุณไพบูลย์ นิติตะวัน และตัวแทนของมูลนิธิธรรมอิสระ รวมทั้งพี่น้องพันธมิตร วงศาคณาญาติของอีจันทร์ ผู้ล่วงลับ
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ทำให้หวนรำลึกถึงวันเวลาที่
อีจันทร์และนายสนธิ มันมาเป็นลูกศิษย์ร่วม ๒๐ ปี อีจันทร์มันจะพูดกับฉันทุกเรื่อง มีอยู่เรื่องเดียวที่มันไม่พูด ก็คือเรื่องของครอบครัว เรื่องของผัว เรื่องของลูก มันไม่เคยมาพูดคุยกับฉันเลย จนบางครั้งฉันสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้เอ่ยปากถามมัน ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาอะไร
ฉันในฐานะเป็นครูบาอาจารย์ ก็ได้แต่แนะนำให้กำลังใจให้มันทำหน้าที่ของแม่และเมียที่ดี พร้อมบอกมันว่า น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตายนะโว้ย
เริ่มรดน้ำศพตั้งแต่ ๔ โมง มาเลิกเอาร่วม ๖ โมง ฉันจึงลุกจากที่นั่งไปทำพิธีนำร่าง
อีจันทร์ใส่โลง พอมองเห็นโลงที่เตรียมไว้ใส่ร่างมันแล้วให้นึกหดหู่ใจว่า คนเราไม่ว่าร่ำรวยหรือยากจน กระจอกหรือยิ่งใหญ่ มีชื่อเสียงหรือไร้ศักดิ์ศรี สุดท้ายก็หนีนอนในโลงไม่ได้
ฉันบอกให้เจ้าปั๊ปจุดธูปบอกแม่มันแล้วกราบตีนแม่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะนำบรรจุใส่โลง ฉันสั่งให้นำผ้ามาทอดลงบนตัวอีจันทร์ แล้วนิมนต์พระ ๔ รูปมาชักผ้าบังสุกุล สัปเหร่อนำสายสิญจน์มาให้ฉันผูกข้อมืออีจันทร์ เพื่อโยงเอาไว้ใช้ทอดผ้าบังสุกุล เพื่อให้พระ ๔ รูปชักบังสุกุล
เสร็จแล้วจึงบอกให้เจ้าปั๊ปและญาติๆ ของอีจันทร์ เอาเศษสตางค์ใส่ไปในโลง ที่โบราณเขาเชื่อว่า เขาไว้ให้ผู้ตายจ่ายค่าผ่านทาง หรือเอาไว้จ่ายเป็นค่าข้ามน้ำ ข้ามสะพาน
แต่เท่าที่ฉันรู้สัปเหร่อ เอาไปกินหมดทุกราย
เมื่อนำโรงศพขึ้นตั้งประดับดอกไม้เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาพระขึ้นเทศน์ ตามกำหนดการแจ้งว่า จะมีการแสดงธรรมของวัดนาป่าพง หรือพวก “ลัทธิพุทธวจนะ ” ที่เจ้าลัทธิมีประวัติฉาวโฉ่ลือลั่น ดังกระฉ่อนโลกโซเชียล ว่าลวนลามพยาบาลสาว แถมยังโชว์ของลับให้น้องหญิงได้เห็นอีกตะหาก
ตามกำหนดการวันนี้เจ้าลัทธิต้องมาเทศน์ แต่พอรู้ว่าพุทธะอิสระนั่งอยู่ในศาลาตั้งศพ เจ้าลัทธิเลยขังตัวเองอยู่บนรถ ไม่กล้าลงมาร่วมงาน ปล่อยให้สาวก ๒ รูป มานั่งแสดงพุทธวจนะ แต่ทำเอาผู้คนทั้งศาลาพากันแปลกใจ
เมื่อพิธีกรขอศีล นักบวชสาวกลัทธินี้ กลับไม่ยอมให้ศีลแถมยังบอกว่า ตามธรรมเนียมของพระอริยเจ้าต้องนั่งด้วยอาการสงบ
แม้ฉันพยายามจะทำความเข้าใจว่า การสำรวมกาย สำรวมวาจา นั่งแหล่ะคือการเป็นผู้มีศีล แต่พอได้ฟังคำชี้แจงจึงได้รู้ว่า สาวกลัทธินี้เขาไม่นิยมให้ศีลชาวบ้าน แต่นิยมให้นั่งฟังนิ่งๆ
ทำความประหลาดใจครั้งแรกแล้ว คงยังไม่หนำใจ พระเดชพระคุณภันเตถึงกับตบท้ายการแสดงธรรม ด้วยการโปรโมทว่า ผู้ที่เข้าลัทธินี้เมื่อตายแล้ว ศพจะเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ไม่เน่าไม่เปื่อย
ซึ่งสาวกของลัทธินี้เขาโฆษณาว่า เขาเห็นมาหลายศพแล้ว แถมยังบอกว่าคุณจันทร์ทิพย์ จักได้ไปเกิดเป็นในสวรรค์ชั้นสุทธาวาส และจะบรรลุพระอริยบุคคล อยู่ในสวรรค์ชั้นนั้น อาจได้เป็นถึงพระอรหันต์ เลยครับพี่น้อง
เอา....เอา เข้าไป อวดตามสบายเท่าที่ความโลภของตนเองมี
เอาเป็นว่าหากใครอยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง หลังจากตายแล้ว ก็ให้รีบๆ ไปสมัครเข้าลัทธิ “พุทธวจนะ ” ให้ไว เวลาตายศพจะได้สวย แถมยังมีโปรโมชั่นว่าศพจะไม่เน่าไม่เปื่อยเป็นของแถม อีกด้วยนะพี่น้อง
ฉันบอกกับเจ้าปั๊ปว่า ถ้ากูไม่เห็นแก่หน้าอีจันทร์แม่มึง กูคงไม่ปล่อยให้ไอ้สาวกลัทธินี้ มานั่งตีฝีปากอวดอ้างคุณวิเศษอุตริมนุษธรรม อยู่ต่อหน้าเช่นนี้เป็นแน่
ถือว่าวันนี้รอดได้เพราะผีอีจันทร์ช่วย
แต่ถ้าหากคราวหน้ากูเจออีก คงจะไม่ปล่อยให้พวกอ้างพุทธอ้างพระ มาแหกตาหลอกลวงชาวบ้าน หากินเช่นนี้ดอก
ฉันเลยต้องเทศน์ให้เจ้าปั๊ปฟังเสีย ๒ กัณฑ์ใหญ่
๑. ตัวมึงๆ ก็บวชและเคยอยู่ ก็รู้อยู่แก่ใจว่า คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ย่อลงเหลือแค่ ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
หากชาวบ้านเขาต้องการเรียนศีล ขอร้องให้พระสอนศีล แต่พระกลับนั่งนิ่งเฉยแล้วโลกนี้จะมีศีลเอาไว้ทำไม
๒. พวกชอบที่อ้างพุทธวจนะ แล้วมาพยากรณ์พระอริยบุคคลให้แม่มึงฟังแบบนี้นี่
คนที่เขามีสติปัญญา เขาศึกษารู้จักพระธรรมวินัยมาเขาจะตำหนิติพวกมึงได้ว่า ไปงมงายหลงเชื่ออะไรกับพวกลัทธิที่มีปัญหา และสร้างปัญหาให้แก่พระธรรมวินัย อันบริสุทธิ์บริบูรณ์ของพระพุทธเจ้า
ฉันจึงต้องเทศน์ยกที่สองแก่เจ้าปั๊ปต่อว่า มึงเป็นลูกเป็นหลานกู เป็นศิษย์กู ก็ต้องรับรู้ว่า กูต่อสู้ยืนหยัดมาได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้ ก็เพราะกูสู้ด้วยความจริง คิด ทำ พูด ต้องพิสูจน์ได้เป็นวิทยาศาสตร์
วันข้างหน้ามึงก็ต้องรับไม้ต่อจากพ่อมึงและรับมรดกตกทอดจากกู จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์
แล้วทำไมถึงได้ไปฝักใฝ่งมงายกับพวกที่หลบหนีความจริง ทำ พูด คิด แล้วหาข้อผิด ถูก ไม่ได้ ถ้ามึงยังคิดว่ากูเป็นพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ก็เอาคำพูดกูไปวิเคราะห์ดูว่าเท็จ จริง อย่างไร และมึงต้องเข้าใจด้วยว่า การที่มึงจะยืนหยัดขึ้นได้อย่างสง่างามในท่ามกลางคนหมู่มากนั้นมีสิ่งเดียวที่มึงควรทำคือ
จริงจัง จริงใจ ซื่อตรง และเหยียบยืนอยู่กับข้างที่ถูกต้อง ไม่ใช่คลุมเครือ
ผู้ตามมึงและคนที่เขามีความรู้ เขาจะตำหนิมึงได้ว่า ไม่มีสติปัญญา แยกแยะดีชั่ว ไม่ออก
เขาจะกล่าวหาว่า พ่อแม่ครูบาอาจารย์ไม่ได้สั่งสอน หวังว่าลูกคงจะเข้าใจในความหวังดีครั้งนี้ และถ้ากูพูดผิดไป หรือไม่เข้าหูมึง มึงจะเกลียดกู กูก็ไม่ว่า ไม่บ่น เพราะยังไงๆ มึงก็คือลูกศิษย์ของกู
พุทธะอิสระ

ไม่มีความคิดเห็น: