PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

แกะรอยจากเอกสารคดีสินบนโรลส์-รอยซ์ อ้าง"บิ๊ก"กองทัพอากาศพัวพัน(ตอนที่ 1)

[นายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary)] มีความกังวลเมื่อ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพอากาศไทย [a senior military officer in the Royal Thai AirForce] ถูกบีบให้ลาออก และบริษัท RR มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการสนับสนุนในประเทศไทยต่อไป"
thaiairway
ถือเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกกันเลยทีเดียว กรณี บริษัทโรลส์-รอยส์ ออกมายอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษว่า ได้จ่ายสินบนให้หลายประเทศที่ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์ รวมถึงได้จ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ไทย และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2534 - 2548 รวม ครั้ง วงเงินกว่า 1,200-1,300  ล้านบาทเพื่อแลกเปลี่ยนให้ความช่วยเหลือในการทำสัญญาจัดซื้อเครื่องยนต์ Trent 800
สำนักข่าวอิศรา แปลคำแถลงสรุปคดีจาก STATEMENT OF FACTS PREPARED PURSUANT TO PARAGRAPH 5(1) OF SCHEDULE 17 TO THE CRIME AND COURTS ACT 2013 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย หน้า 9 -18 
การจ่ายสินบนครั้งที่1 เกิดขึ้นระหว่าง 1 มิถุนายน 2534-30 มิถุนายน 2535 (1ปี)
49. บริษัทโรลส์-รอยส์ (RR) ตกลงจ่ายเงิน 18.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ให้แก่นายหน้าในภูมิภาค (Regional Intermediary) และนายหน้าคนอื่น หรือนายหน้า 3 (Intermediary 3) โดยเงินบางส่วนจ่ายให้แก่ ผู้แทน (Agents) ในประเทศไทย และพนักงานของการบินไทย โดยคาดหวังว่าบุคคลเหล่านี้จะให้ความช่วยเหลือ ให้การบินไทยเลือกซื้อเครื่องยนต์ T800 ของโรลส์-รอยส์ 
ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่มีการตรวจพบ พบว่า  
50. ในเดือนมิถุนายน 2534 สายการบินไทย (“ไทย”) ได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 6 ลำ ซึ่งหลังจากนั้นได้เพิ่มจำนวนการสั่งซื้อเป็น 8 ลำ โดยมีบริษัท RR เป็นผู้จำหน่าย เครื่องยนต์ Trent 800 (“T800”) ให้กับเครื่องบินของไทย ซึ่งในขณะที่ RR กำลังจัดสรรงบประมาณ ปรากฎว่า ได้มีการแบ่งเงินบางส่วนให้กับนายหน้า เป็นสินบนเพื่อชักจูงใจในการตัดสินใจซื้อขาย
51. นายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary) ของ RR แจ้งว่า ค่าส่วนแบ่งจากราคาเครื่องบินที่ทางประเทศไทยสั่งซื้อตกอยู่ที่ 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อลำ หรือมากกว่านั้น
52.  ในเดือนกรกฎาคม 2534 มีบันทึกข้อความภายในของบริษัท RR ระบุว่า นายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary)แจ้งตัวเลขสุทธิ (the extent of the ‘demands' ) อยู่ที่ 8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ  ซึ่งบริษัท RR ได้จัดงบประมาณเพื่อจ่ายให้กับนายหน้า (Intermediary 3) จำนวน 1.33 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อลำ
53.  พนักงานที่เป็นคนบันทึกข้อความเสนอให้ ทำลายสำเนาทั้งหมด และเก็บไว้เพียงแต่ตัวต้นฉบับ
54.  สืบเนื่องจากสัญญาข้อ 2 ถึง เมื่อมีข้อตกลงหรือมีการจ่ายเงินใดใดให้กับนายหน้า 3 (Intermediary 3) จะต้องมีหนังสือขยายความสัญญาข้อตกลงระหว่างนายหน้า 3 (Intermediary 3)และทางบริษัท RR อย่างถูกต้องชัดเจน"
55.  จดหมายแนบฉบับนี้ระบุ ยอดเงินจำนวน 1.33 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อลำ ไว้ว่า เป็น “Success Fee” หรือค่าตอบแทนทางธุรกิจ ซึ่งในเอกสารดังกล่าวไม่มีการอ้างถึงบุคคลที่สามที่ได้รับเงินแต่อย่างใด
56.  ในเดือนสิงหาคม 2534 บันทึกข้อความอีกฉบับระบุว่า “ได้มีข้อเรียกร้องเพิ่มเติม  จากข้อตกลง ซึ่งได้แก่งบประมาณมูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ต้องชำระให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ ตามที่ระบุในสัญญาอย่างชัดเจนเพื่อซื้อเครื่องยนต์ Trent.” การแก้ไขร่างสัญญาให้เป็นเอกสารตัวจริงเพื่อระบุว่า ได้มีชำระเงินให้นายหน้า  3(Intermediary 3) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อตกลงค่าคอมมิสชั่นดังกล่าวได้รับการรับรองโดยพนักงานอาวุโสของบริษัท RRเรียบร้อยแล้ว
57. ในเดือนตุลาคม 2534 มีการหารือกำหนดวันจ่ายเงินระหว่างบริษัท RR  และนายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary)
58.  นายหน้า  3 (Intermediary 3)ยืนยันว่า ต้องได้รับเปอร์เซนต์ค่าคอมมิสชั่นต่างหาก นอกเหนือจากจำนวนเงินมหาศาลที่ทางบริษัท RR ต้องจ่ายให้นายหน้าอยู่แล้ว ทั้งนี้ พนักงานบริษัท RR ตกลงส่วนแบ่งของค่าคอมมิสชั่นไว้ว่านายหน้า 3 (Intermediary 3)รับ 50% ของค่าคอมมิสชั่นทันทีในครั้งแรก ซึ่งเพิ่มจากที่ตกลงไว้แต่เดิมเพียง 25%  ทั้งนี้รักษาความกระตือรือร้นของบุคลากรในภูมิภาคไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต ( “maintain local enthusiasm for further business”)
59.  14 พฤศจิกายน 2534  บริษัท RR ชนะประมูลทำสัญญาซื้อขายเครื่องยนต์ให้เครื่องบินจำนวนทั้งสิ้น 6 ลำโดยเริ่มจ่ายค่าคอมมิสชั่นตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2534 ถึง กุมภาพันธ์ 2535
60. ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2535 ทางบริษัท RR ได้จ่ายเงินจำนวนทั้งสิ้น 4.75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ให้กับนายหน้า  3 (Intermediary 3)โดยพบว่า การจ่ายเงินทั้งสองงวดรวม (1.9 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และ 2.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ) ซึ่งได้รับการรับรองจากพนักงานอาวุโสของบริษัทRR . 
61.  คำสั่งอนุมัติซื้อจากรัฐบาลไทยล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ เนื่องจากได้เปลี่ยนจำนวนเครื่องบินที่สั่งซื้อ จาก 6ลำเป็น 8 ลำ ซึ่งคำสั่งซื้อจำนวน ลำนั้น ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทยในเวลาต่อมา ในเดือนมีนาคม 2535
62.  เดือนมีนาคม ปี 2534 มีบันทึกภายในส่งถึงพนักงานอาวุโส 2 ท่านของบริษัท RR ระบุว่า  มีการค้างจ่ายค่านายหน้า 3 (Intermediary 3)จำนวน 4.75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยมีพนักงานอาวุโสเป็นผู้อนุมัติการเบิกจ่ายดังกล่าว
ทั้งนี้ บันทึกข้อความระบุว่า “ ทางเราต้องปล่อยงบโดยทันทีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับ [เจ้าหน้าที่อาวุโสของการบินไทย] [a senior officer of Thai]” 
63.  ในวันถัดมา มีบันทึกข้อความเพิ่มเติมส่งถึงพนักงานอาวุโสของบริษัท RR คนเดิม (2 ท่านกล่าวว่าสัญญาการซื้อขายกับนายหน้า เป็นแบบลำต่อลำ จึงจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุมัติการซื้อขายเพิ่มเติมเป็นยอดเงิน 2.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเครื่องบินที่ทางการบินไทยต้องการซื้อเพิ่มเติม
64.  ยอดชำระสุดท้ายเป็นจำนวนเงิน 4.75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และ 2.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เสร็จสิ้นในเดือน มีนาคม2535 
65. ในช่วงเดือนเมษายน 2535 บริษัท RR  อนุมัติการชำระเงินเพิ่ม 1 แสนดอลล่าร์สหรัฐฯ ให้กับนายหน้า ซึ่งส่งผลให้นายหน้า 3 (Intermediary 3)สามารถจ่ายเงินให้กับ “disappointed recipients” ซึ่งได้รับเงินไปแล้ว แต่คาดหวังส่วนแบ่งเปอร์เซนต์ค่าคอมมิสชั่นจากนายหน้า 3
66.  วันที่ 15 พฤษภาคม 2535 มีการแก้ไขสัญญาอย่างเป็นทางการระหว่างบริษัท RR และไทย ซึ่งว่าด้วยเรื่องจำนวนการสั่งซื้อเครื่องบินและอะไหล่ต่างๆ
67.  วันที่ 18 มิถุนายน 2535 จดหมายถึงนายหน้า 3 (Intermediary 3)ซึ่งส่งไปยังนายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary)ด้วย ระบุว่าได้ชำระ  ค่าความสำเร็จ “success fee”เรียบร้อยแล้ว
68.  อย่างไรก็ดี ในระหว่างวันที่ 22 - 26 มิถุนายน 2535  ทางนายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary )ได้ร้องเรียนว่าลูกค้า(ของนายหน้ารู้สึกว่า มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับอะไหล่ สำรองที่ขายให้กับไทยคู่มากับอะไหล่ที่ติดตั้งมากับเครื่องบิน 
“[นายหน้าในภูมิภาค ( Regional Intermediary)] มีความกังวลเมื่อ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพอากาศไทย [a senior military officer in the Royal Thai AirForce] ถูกบีบให้ลาออก และบริษัท RR มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการสนับสนุนในประเทศไทยต่อไป"
69.  ทาง RR ได้ออกมาตอบกลับเรื่องนี้ว่า ทางบริษัทจะจัดทำหนังสือขยายความสัญญา เพิ่มเติมไป ยังนายหน้า 3 (Intermediary 3)โดยมีเนื้อความว่า:
"[...] สืบเนื่องจากการบวกเพิ่มการขายเครื่องบินโบอิ้ง 777เป็น 8ลำ และอะไหล่สำรองของบริษัท Rolls-Royce Trent ที่ต้องให้กับไทย ทางบริษัทพร้อมจ่ายค่าคอมมิสชั่นเพิ่มเติม"
70.  มีจดหมายส่งถึง นายหน้า ระบุการจ่ายเงิน 1.33 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และค่าล่วงหน้า 1.33 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับจากจัดซื้อในล็อตที่สอง ของการบินไทย สำหรับโบอิ้ง 777 หลังจากบรรลุข้อตกลงดังกล่าวเเล้ว ทางพนักงานอาวุโสของบริษัท RR ได้สั่งจ่ายเงินจำนวน 1.33 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ  ให้แก่ นายหน้า 3 (Intermediary 3)แล้ว
นี่เป็นเพียงแค่การจัดซื้อครั้งแรก ระหว่างปี 2534-2535 ที่บริษัทโรลส์-รอยส์ ได้จ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐ และพนักงานการบินไทย  ตอนต่อไป คือการติดสินบนครั้งที่ 2 และ 3 ซึ่งพบหลักฐานว่ามีรัฐมนตรีในยุคนั้นมีเอี่ยวด้วย

อ่านประกอบ 

ประมวลชัดๆ 'ข้อมูลจัดซื้อ-เส้นทางสินบน' คดีโรลส์รอยซ์-บินไทย 1.2 พันล.

จ่ายก้อน3 ช่วง นัดรมต.ยุคแม้วกินข้าว!สตง.แจ้งSFOขอผลสอบคดีสินบนโรลส์รอยซ์'

ชวน "ดร.เมธี- ต่อตระกูล" คุยกรณีโรลส์-รอยซ์ ติดสินบนซื้อเครื่องยนต์

ขอบคุณภาพประกอบจาก BBC 

ไม่มีความคิดเห็น: