PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จังหวะเข้าเหลี่ยมถนัด

จังหวะเข้าเหลี่ยมถนัด

“guilt” แปลว่า รู้สึกผิด
อารมณ์นี้น่าจะเหมาะสุดกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในยามนี้ ที่ต้องรับผิดชอบกับสภาพของ “น้องปู” อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังเดินซ้ำรอยวิบากของพี่ชาย

ถูกตีตราเป็นคนหนีคดี ระเหเร่ร่อน ลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน

ผลมาจากแผนการทางการเมืองที่พี่ชายวางให้น้องสาวเป็นหมากบนกระดานอำนาจ ลุยถั่วสู้กับฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่สนว่าชนกับใคร สู้ทั้งๆที่ไม่เคยชนะ

สุดท้ายก็พ่ายแพ้แบบหมดรูป หนีหัวซุกหัวซุน

ที่แน่ๆด้วยชะตากรรมของ “ยิ่งลักษณ์” ที่ซ้ำรอย “ทักษิณ” ก็คงจะกระตุกขวัญคนในตระกูลชินวัตร
แทบไม่ต้องคิดเรื่องการส่งคนในตระกูลมาเป็นเหยื่อรายต่อไป

แม้แต่ “นอมินี” ที่จะมาเป็นมือเป็นไม้ให้ “ทักษิณ” ก็คงกล้าๆกลัวๆ เมื่อได้เห็นชะตากรรมโหดๆของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกอ่วมคนละ 30–40 ปี ในขณะที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจชิ่งในนาทีสุดท้าย

พวกตายแทนนาย เหมือนถูกถีบทิ้งทะเล

ตามสภาพการณ์แบบที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” โพสต์เฟซบุ๊กเปิดปมเบื้องหลังที่เคยเปิดอกคุยกับนายบุญทรงในฐานะเพื่อนรัก มีบางตอนที่เค้นถามเกี่ยวกับใบสั่งในโครงการระบายข้าวที่ล่อแหลมสุ่มเสี่ยง คำตอบคือ “กูบอกมึงไม่ได้”

นั่นหมายถึงนายบุญทรงยอมตายแทนใครบางคน

สุดท้ายก็ต้องเซ่นสังเวยด้วย “เสรีภาพ” จริงๆ

แน่นอน ด้วยสภาพของ “ยิ่งลักษณ์” ที่น่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของการเมืองรูปแบบบริษัทจำกัดภายใต้ตระกูลชินวัตร ต่อเนื่องกับสภาพของ “บุญทรง” ที่ทำให้พวก “นอมินี” ต้องสะดุ้งกับการทุ่มเทรับใช้นาย

นี่คือจุดเปลี่ยนทางการเมืองของยี่ห้อ “ทักษิณ”

เครือข่าย “นายใหญ่” ทั้งพรรคเพื่อไทยและมวลชนเสื้อแดง นปช.คงต้องปรับยุทธศาสตร์กันครั้งใหญ่
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ตระกูลชินวัตรแหยงโดดมาเป็นแม่ทัพ ขณะที่ยี่ห้อเพื่อไทยถึงแม้จะยังขายได้ แต่ปรากฏการณ์ของ “ยิ่งลักษณ์” ก็ทำให้กองเชียร์ไม่น้อยที่ผิดหวัง

จับทาง “พี่ชาย-น้องสาว” ถึงที่สุดก็หนี ทิ้งมวลชนให้สู้ลำพัง

ตรงกันข้าม ประกายแห่ง “ความหวัง” ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใดที่ฟากประชาธิปัตย์

ตั้งแต่ที่มีข่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค สั่งลูกหาบให้สงบปากสงบคำในการวิจารณ์คดีจำนำข้าวของ “ยิ่งลักษณ์” ตั้งแต่ยังไม่ตัดสิน ประคองกระแสนารีตีกลับ

สังเกตมีแต่รุ่นใหญ่ออกมาเล่น ไม่มีพวกเหรียญบาทเหรียญสลึง

และจับอาการตั้งแต่นาทีแรกๆที่ชัดเจนว่า “ยิ่งลักษณ์” ไม่มาศาล เพราะน้ำในหูไม่เท่ากัน ก็มี
ปรากฏการณ์ที่มีการแก้ข่าวปม “อภิสิทธิ์” บอกปัดซ้ำเติม “ยิ่งลักษณ์”

ก่อนจะปล่อยโพลส่วนตัวถามกองเชียร์มองอย่างไรที่ “ยิ่งลักษณ์” หนีศาล

ตามจังหวะมันก็ชัด “อภิสิทธิ์” พยายามแทรกตัวเข้ามาในสถานการณ์ที่เพื่อไทยกำลังโกลาหล คู่แข่งสำคัญในสนามเลือกตั้งกำลังอ่อนแอ

สร้างโมเมนตัมให้กับยี่ห้อประชาธิปัตย์

อีกด้านหนึ่งก็เป็นนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่โหมประโคมกระแสในโซเชียลฯ แสดงอาการ “ข้องใจ” เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปล่อย “ยิ่งลักษณ์” หลุดการตามประกบ

โยงกระแทกไปถึงฝ่ายความมั่นคงในรัฐบาลทหาร คสช.เป็นนัยเปิดทางให้หนี

ตามเหลี่ยมประชาธิปัตย์ตีปี๊บเกม “ฮั้ว” ระหว่างผู้มีอำนาจกับฝ่าย “ทักษิณ”

เดินหมากทีเดียว กะกินรวบทั้งขึ้นทั้งล่อง

และไม่ต้องสงสัย นับแต่นี้ไปจะได้เห็นลีลาประชาธิปัตย์พลิกบทจากแนวร่วมฝั่งเดียวกับท็อปบูต มาเป็นแถวหน้าในการต่อสู้กับเผด็จการทหาร

คอยจ้องจับผิดรัฐบาล คสช. สร้างกระแสโจมตีเผด็จการ

แสดงตัวแสดงตนเป็นแกนของฝ่ายประชาธิปไตยในการต่อสู้เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง

เขี้ยวยังไงก็เขี้ยวอย่างนั้น ยี่ห้อประชาธิปัตย์ถนัดอยู่แล้ว

ฉกฉวยสถานการณ์หยิบชิ้นปลามัน.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: