PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ถามหา"สารวัตรหนุ่ย"

หลายต่อหลายครั้งที่ปรากฏภาพของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ผ่านทางสื่อต่างๆ เชื่อเหลือเกินว่า ภาพหนึ่งที่เราต่างเห็นกันอย่างชินตา คือ ภาพของชายรูปร่างสันทัด หน้าตาคมสัน ตัดผมรองทรง ใส่สูทผูกเนคไท มีหูฟังเสียบติดรูหู พร้อมกระเตงวิทยุสื่อสารขนาดกะทัดรัดไว้ข้างเอวตลอดเวลา..!
บุคคลคนนี้ มักยืนหราปกปิดซ่อนอาวุธสังหารประจำกาย คอยทำหน้าที่เดินนำหน้า เลียบข้างระวังหลัง สอดส่องสายตาเบิกตามองจ้อง "เขม็ง" ชนิดสายตาแทบไม่กระพริบอยู่ตลอดเวลา
หากมองเพียงผิวเผิน ไม่ต้องเกาก็รู้ว่า บุคคลผู้นี้เป็นทีม "บอดี้การ์ด" ระดับมือโปรที่คอยระแวดระวังรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลผู้นำการเมืองระดับ "วีไอพี" เท่านั้น
ใช่แล้ว..! เขาคือ "สารวัตรหนุ่ย" พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ดีกรีนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 49
ทั้งนี้ แม้ชื่อเสียงด้านปราบปราม สืบสวนสวนของเขาจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ทว่าเส้นทางสาย "บอดี้การ์ด" ต้องถือว่าไม่ธรรมดา
โดย พ.ต.อ.วทัญญู เริ่มชีวิตข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ก่อนโยกมาประจำสำนักงาน พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร.แต่ก็เพียงไม่ได้นาน เพราะหลังจากนั้นก็ถูก พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รอง ผบก.ส.3 ซึ่งมีความสนิทสนมกับตั้งแต่อยู่ที่ บก.ตชด.ดึงให้มาร่วมอยู่ในทีมอารักขาบุคคลสำคัญระดับวีไอพี ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นชายที่ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจาก "รัฐบาลทักษิณ" ถูกยึดอำนาจ พ.ต.อ.วทัญญู ก็ถูกจับเด้งไปอยู่ไกลลิบ เป็นสารวัตรสืบสวนปราบปรามอยู่ที่ สภ.กรงปรินัง แต่ก็เพียงชั่วคราว เพราะต่อมาภายหลัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น ก็ได้ยื่นมาช่วยเหลือด้วยการดึงให้มาช่วยราชการที่สำนักงาน รอง ผบ.ตร.
ต่อมา เมื่อพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู ก็ได้นั่งเก้าอี้ สว.ฝขว.10 บก.ส.1 (บก.น.7) พร้อมได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัย "บ้านจันทร์ส่องหล้า" รวมทั้งรักษาความปลอดภัยให้กับคนในตระกูลชินวัตร
ปี 2555 หลังจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.จึงได้ตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู ให้ขึ้นเป็น รอง ผกก.ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.
แต่นั่นก็เพียงในนามเท่านั้น เพราะความจริง พ.ต.อ.วทัญญู ได้รับมอบหมายให้เป็นทีมอารักขาให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลานั้น
โดย พ.ต.อ.วทัญญู ถือว่าเป็น "เงาตามตัว" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปในทุกที่ ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ
นอกจากนี้ ว่ากันว่า พ.ต.อ.วทัญญู ยังรับหน้าที่เป็น "ช่างภาพส่วนตัว" ระดับเอ็กซ์คลูซีพ คอยถ่ายภาพการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อัพเดตขึ้นโซเชียลมีเดียทุกแห่งชนิดไม่เว้นแต่ละวัน
จึงไม่น่าแปลกใจอะไร ที่ภายหลังจากพ้นอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี "สารวัตรหนุ่ย" จึงถูกขอตัวมาเป็นนายเวรตำรวจ ทำหน้าที่อารักขาให้กับ "นายสาว" คนนี้อยู่ต่อไป
และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรอีกเช่นกัน ที่ในวันที่ "ยิ่งลักษณ์" หายตัวหลบหนีคดีออกจากประเทศ จึงมีเสียงถามหา "สารวัตรหนุ่ย" ดังลั่นห้องประชุมชุดสืบสวนที่มี "พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล" รอง ผบ.ตร.เป็นประธาน ว่า "นายตำรวจคนนี้หายไปไหน ให้ไปตามตัวมา"
เพราะทุกคนเชื่อว่าเขา คือ "จิ๊กซอว์" ชิ้นสำคัญที่จะบอกได้ว่า "ยิ่งลักษณ์" หนีไปไหน หนีไปยังไง และหนีไปกับใคร
เพราะทุกคนรู้ดีว่า "สารวัตรหนุ่ย" คนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ "บอดี้การ์ด" ธรรมดาของ "ยิ่งลักษณ์" แต่เป็นเขาเป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่า "ยิ่งลักษณ์" และคนในตระกูลชินวัตร "เลือก" และไว้ใจ

ไม่มีความคิดเห็น: