PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยัน ไม่มี อำนาจพิเศษ ไม่มีอำนาจเหนือ คสช.ช่วย!!



ยัน ไม่มี อำนาจพิเศษ ไม่มีอำนาจเหนือ คสช.ช่วย!!

"ยิ่งลักษณ์" ไม่ใช่คนธรรมดา เป็น อดีตนายกฯ มีคนช่วย มีบารมี มีศักยภาพ ที่จะหนี ไม่ต้องมา Deal เกี้ยเซี๊ยะกับ คสช. ยัน ไม่มี อำนาจพิเศษ ไม่มีอำนาจเหนือ คสช.ช่วย/ ชี้"ทักษิณ"พี่ชาย และตำรวจ ติดตาม ร่วมวางแผนหนี/ยอมรับ ความบกพร่อง ชายแดนมีช่องโหว่ และคาดไม่ถึง "ยิ่งลักษณ์" ลับลวงพราง แสร้งบอกไม่หนี แถมยอมสละเงินประกัน30ล้าน ยัน มีเตรียมการและตัดสินใจล่วงหน้าแล้ว ว่าจะหนี เผย คสช. ให้เกียรติ ไม่ตามประกบทุกฝีก้าว เกตุเพราะคสช. ถูกสังคมกล่าวหาว่า เราไปข่มขู่ คุกคาม จึงถอยกำลังออกมา/ เผย นายกฯด่า /ยอมรับบกพร่อง และโดนสังคมตำหนิ

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ./เลขาธิการ คสช.และ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(ผบ.กกล.รส.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกนอกประเทศ ว่า ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้เร่งรัดหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยว โดยเฉพาะกองทัพบกที่มีกองกำลังตามแนวชายแดน ติดตามตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี ช่วงเวลา และวิธีการ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง

โดยผมได้ตรวจสอบจากกองกำลังชายแดนทั้ง 4 กองทัพภาค ยังไม่ปรากฏสิ่งบอกเหตุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกไปในเส้นทางใด แต่เราพยายามลงรายละเอียดเรื่องกล้องวงจรปิด และช่องทางธรรมชาติต่างๆ ซึ่งยังไม่ปรากฎว่าตรงไหนเป็นเส้นทางที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกไปจริง

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ตามหลักฐาน ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี หรือไม่ อย่างไร แต่ถ้าตามสถานการณ์ เชื่อว่าจะออกนอกประเทศไปแล้ว
" ถ้าถามว่าหลบหนีได้ด้วยตัวเองหรือไม่ จากการวิเคราะห์ ยืนยันว่าด้วยศักยภาพของเขา เป็นถึงอดีตนายกฯ และมีผู้สนับสนุน และมีเครือข่ายพอสมควร ที่พร้อมให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ หลบหนีของจากไทย
อีกทั้งคนรอบข้างก็เป็นคนที่มีความรู้ โดยเฉพาะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลติดตามความปลอดภัยให้ ดังนั้นจะรู้วิธีการและเทคนิคเป็นอย่างดี"

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คสช.เองต้องยอมรับว่าเราไม่ได้ควบคุม นางสาวยิ่งลักษณ์ อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาเคยส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปติดตามเป็นบางช่วง รวมทั้งเฝ้าหน้าบ้านพักบ้าง แต่ก็ถูกสังคมกล่าวหาว่าเราไปข่มขู่ คุกคาม จึงถอยกำลังออกมา ตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้ควบคุมอย่างใกล้ชิด

ถ้าพูดถึงการหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ก็มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นพี่ชาย ผมเชื่อว่าจะเป็นผู้เตรียมการให้ในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น เครื่องบินส่วนตัว หากเป็นคนธรรมดาคงไม่มี

ดังนั้นในภาพรวม น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีศักยภาพพอที่จะหลบหนีด้วยตนเอง และสิ่งสำคัญที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันตนเองมาตลอดเวลาว่าพร้อมพิสูจน์ตนเอง ทั้งตอนขึ้นศาล จนถึงวันพิพากษา ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้ไม่มีใครคิดว่าจะหลบหนี

"ฉะนั้น ยืนยันว่าการหลบหนีครั้งนี้มีการเตรียมการ และตัดสินใจไว้ล่วงหน้า เพียงแต่รอเวลา และโอกาสที่เหมาะสม เท่านั้น"

เมื่อถามว่า
การหลบหนีครั้งนี้ มีผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ กรือมีอำนาจพิเศษ ช่วยเหลือหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่มีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ แต่โดยพื้นฐาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีศักยภาพหลบหนีด้วยตนเอง

"บางคนบอกว่า คสช.เกี้ยเซี๊ยะให้หลบหนี ผมถามว่าจะเกิดประโยชน์อะไร เพราะทุกวันนี้ก็ถูกด่า ซึ่งนายกฯ ได้โทรศัพท์มาเร่งรัดผมทุกวัน

เวลาเขาออกนอกประเทศไปแล้ว จะไปเปิดตัวเคลื่อนไหวต่างๆ อาจจะโจมตี พูดให้ร้าย คสช. ก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่จะกลายเป็นปัญหา เพราะอยู่ในประเทศเราสามารถพูดคุยกันได้ ถ้าเขาผิดเราก็ดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ถ้าออกไปเคลื่อนไหวนอกประเทศจะเอากฎหมายอะไรไปบังคับใช้เขา เขาจึงมีสิทธิ เสรีในการพูด จะพูดอะไรก็ได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าจะอยู่บนข้อเท็จจริงหรือไม่ และประชาชนจะยอมรับสิ่งที่เขาพูด หรือไม่ " พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

แต่ผมยืนยันว่าเราไม่ได้เกี้ยเซี๊ยะ ถ้าบอกเป็นความบกพร่องของคสช. หรือกองทัพบกที่รับผิดชอบกองกำลังชายแดน ผมยอมรับ เพราะอย่าลืมว่าชายแดน รอบประเทศมีความยาว 5,656 กิโลเมตร ดังนั้นการวางกองกำลังเจ้าหน้าที่จะวางกำลังตรงจุดสำคัญ ในกรณีที่มีข่าวแจ้งเตือนเรื่องใดก็ตาม ก็จะเคลื่อนกำลังมาดูแลแต่ละจุด

แต่กรณีนี้กองทัพบกเองไม่เคยสั่งกองกำลังชายแดนต้องหันมาดูเรื่องนี้ เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องพูดเสมอว่า พร้อมที่จะเผชิญหน้าในวันตัดสินคดี" พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามอีกว่า
ความบกพร่องที่เกิดขึ้นใครรับผิดชอบ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ก็ถูกตำหนิอยู่แล้ว คสช.ต้องรับผิดชอบ ซึ่งคสช.จึงตำหนิกองทัพบก ว่าปล่อยให้เกิดความหละหลวม แต่ข้อเท็จจริงเรายังไม่รู้ว่าเขาออกนอกประเทศไปหรือยัง และอยู่ที่ไหน ถ้าสถานการณ์การข่าว เชื่อว่าออกนอกประเทศไปแล้ว ถ้าเป็นหลังเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม จะออกนอกประเทศได้ยาก เพราะจะตรึงกำลังดูแลพื้นที่ทั้งหมด

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า จากการวางแผนออกนอกประเทศ ผมเชื่อว่า คนรอบข้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ คิดเหมือนฝ่ายความมั่นคง โดยวางแผนเป็นขั้นตอน ไม่ปรึกษาใคร เปรียบเป็นงานลับ

" ดังนั้น จะมาดีลกับคสช. แต่ถ้าคสช.ไม่ให้ก็ถูกล็อคตัวทันที จึงเป็นไปไม่ได้ เพราะศักยภาพของเขาสามารถหนีออกนอกประเทศได้อยู่แล้ว "

ส่วนจะเป็นปัจจัยอะไรที่ต้องหลบหนี ตนไม่ทราบ และไม่ขอประเมินแทน เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนักการเมือง และเป็นอดีตนายกฯ ก็มีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากการวิเคราะห์ ให้น้ำหนักทางชายแดนพื้นที่ใด พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าพูดถึงความยากลำบาก และเวลาที่มีในการเคลื่อนไหว หลังคืนวันที่ 23 สิงหาคม มีเวลาไม่มาก ถ้าไปจากกรุงเทพฯต้องใช้รถ

ส่วนจะนั่งเครื่องบินส่วนตัว ออกจากสนามบินภายในประเทศ ตนคิดว่าทำไม่ได้ เพราะมีขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบ การเข้าออกสนามบิน ไม่ใช่จะเขาออกกันง่ายๆ

แต่พื้นที่ชายแดน ยอมรับว่าอาจมีช่องว่างได้ ทั้งทางบกทางทะเล แต่อย่าลืมว่าการตามตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนรอบข้างของเขามีความสามารถด้านนี้ โดยเฉพาะตำรวจติดตาม

ขณะนี้ทราบว่ามี การทิ้งโทรศัพท์ที่เคยใช้ทั้งหมด รวมถึงเปลี่ยนรถที่เคยใช้ ดังนั้นจะไปตามในวิธีการที่เราเคยทำ เป็นเรื่องยาก เพราะต้องสู้ทางเทคนิคพอสมควร

ส่วนจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม นางสาวยิ่งลักษณ์ มาให้ข้อมูลหรือไม่ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ

เมื่อถามอีกว่า ส่วนกองทัพบกจะให้ผู้ช่วยทูตทหารช่วยตรวจสอบ หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ภาพรวม เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งผู้ช่วยทูตทหาร ถ้ามีข้อมูลเป็นประโยชน์เขาจะแจ้งให้เราทราบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง

ถามย้ำอีกว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกไปเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล และคสช.นอกประเทศ จะเกิดกระทบ หรือไม่พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า บางคนบอกว่าออกไปแล้ว จะเป็นประโยชน์กับคสช.

เมื่อถามอีกว่า คสช. กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยพูดคุย ตกลงสร้างความปรองดองมาก่อนหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่เคย เพราะเวทีปรองดองมีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วม ในระดับคสช. เชื่อว่ามีไม่กี่คนที่รู้จักน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะคนทำงานรุ่นหลังๆ มาทำงานหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์พ้นบทบาทไปแล้ว

เมื่อถามว่า เบาใจหรือไม่ ว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะเบาลง พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่เบาใจ เราเดินตามกรอบเดิมทุกอย่าง สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้พิจารณา ตนไม่ทราบว่าทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะปฏิรูปจัดรูปแบบ อย่างไร อาจจะเข้มแข็งกว่าเดิมก็ได้ ถ้าจัดระบบที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้นอย่าปรามาศพรรคเพื่อไทยว่าจะอ่อนแอ

"วันนี้ผมไม่ได้มาชี้แจง ขอความยุติธรรมอะไร แต่มาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงถูกตำหนิอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่ต้องพูดให้เห็นข้อเทจจริงว่าเป็นแบบนี้

เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงอดีตนายกฯ มีบารมีพอสมควร ไม่ใช่ตาสีตาสาที่จะออกนอกประเทศ" เลขาฯ คสช. กล่าว

เมื่อถามย้ำอีกว่า อาจมีคนที่มีอำนาจกว่า คสช.ช่วยเหลือให้หลบหนี พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คนจะคิด หรือ Imagine อะไรก็ได้ อยู่ที่ว่าจริงหรือไม่เท่านั้น

ไม่ต้องถึงศักยภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เลย ในอดีตตำแหน่งที่ต่ำกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังหลบหนีได้

ส่วนจะมีทหารร่วมช่วยเหลือวางแผนการหลบหนีด้วยหรือไม่นั้น ผมไม่รู้สายสนกลใน ลึกขนาดนั้น เพราะเป็นปฏิบัติการลับ และเขาก็ปิดลับได้ดี อีกทั้งเป็นถึงอดีตนายกฯ ก็มีบารมีพอสมควร บ้านเราขนาดรั้วรอบขอบชิด ขโมยเข้ามายังออกไปได้เลย

"ที่ผ่านมา คสช.ไม่ได้ตายใจ แต่เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน เขาอยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผย ที่สำคัญวางเงินประกันตัวไว้ 30 ล้าน ใครจะคิดว่าเขาจะทิ้งเงินประกันไป หลายคนก็ตกใจ
แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเหตุผล พอสถานการณ์คลี่คลายในระดับหนึ่งคงจะออกมาชี้แจงกับสังคม

นอกจากนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ยังกล่าวถึงกรณี นายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ "น้องไปป์" บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางไปฝึกนักศึกษาวิชาการทหาร (นศท.)ที่ศูนย์ฝึก นศท. ถนนวิภาวดีรังสิตว่า เป็นการฝึกตามปกติ และไม่ต้องไปตามประกบ เพราะไม่รู้จะไปประกบทำไม จะดูก็แค่เรื่องความปลอดภัยเท่านั้นเอง
///

ไม่มีความคิดเห็น: