PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พท.-ปชป.กระอัก แพ้แรงดูด ปิดคอกย้ายพรรค

สุดารัตน์เล็งสมัครลงเขต ภท.ไล่ต้อนส.ส.กทม.-ส.ก. โวสุราษฎร์ฯ ล้มเทพเทือก น้องนิสิตนปช.ซุกพปชร.

ปิดคอกนักการเมืองย้ายสังกัดพรรค 90 วัน กกต.เผยอดีต ส.ส.ไม่ไว้ใจกลัวถูกค่ายเก่าดึงชื่อไว้ทำหมดสิทธิลงสนาม ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนพรรคเป็นร้อยคน พท.สาหัสเลือดไหลโกรกมากสุด ลูกพรรคตีจาก 32 ราย ถ่ายเลือดไปไทยรักษาชาติเพียบ จัดทัพสู้ตาย “โอ๊ค” ร่วมคาราวานลุยหาเสียง “เจ๊หน่อย” เล็งลง ส.ส.กทม.เขตเซฟตี้โซน “นิสิต” ปวดใจน้องสาวทิ้งอุดมการณ์เสื้อแดงซบขั้วเผด็จการ ปชป.อ่วมไม่แพ้กันเด็กเก่าชิ่งหนี 20 คน พปชร.แฮปปี้ดี๊ด๊าเปิดบ้านต้อนรับหัวกระไดไม่แห้ง ภูมิใจไทยยิ้มร่ากวาดเรียบอดีต ส.ส.-ส.ก.-ส.ข. “มนตรี” ปรามาส “ลุงกำนัน” จะไม่ได้ ส.ส.สุราษฎร์ฯแม้แต่คนเดียว “บิ๊กตู่” ถก คสช.จ่อหารือพรรคการเมืองปลดล็อก โฆษกรัฐบาลคาดปล่อยผีหลังได้วันประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง รับสมัคร ส.ว.วันแรกเงียบเหงา ปชป.จวกละเลงงบฯ 1.3 พันล้านเล่นปาหี่เฟ้น ส.ว.ลากตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หารือ คสช.กำหนดกรอบการหารือร่วมกับพรรคการ เมือง เรื่องการปลดล็อกทางการเมือง โดยโฆษกรัฐบาลคาดว่าจะมีการปลดล็อกให้พรรคต่างๆทำกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งได้หลังจากประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมาแล้ว

นายกฯ บ่นคนไทยสนใจแต่กระพี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม คสช. และการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนขึ้นห้องประชุมนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีทางการเมืองในวันสุดท้ายที่นักการเมืองต้องสังกัดพรรคการเมือง เพื่อรักษาสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกฯตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ให้ไปดูกฎหมาย” ก่อนเดินไปที่โถงกลางตึกบัญชาการพบกับคณะของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ ที่มาประชาสัมพันธ์กิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบในสังคม เพื่อติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้ จากนั้น พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้าพบประชาสัมพันธ์กิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นำเสนอโมเดลสื่อต้นแบบการเรียนการสอนในโครงการ อย.น้อย “พัฒนาเด็ก ด้วยนวัตกรรม เพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน” และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน นำเสนอผลงานของศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center) ตามลำดับ นายกฯกล่าวว่า สิ่งดีๆมันเกิดเยอะ ถ้าทุกคนไปสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ไม่รู้เรื่องว่าทำอะไรกันบ้าง สนใจกันแต่เรื่องกระพี้

คสช.ดึงปลดล็อกหลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุม คสช.ว่า คสช.ได้ใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง โดยที่ประชุม คสช.ได้หารือถึงวันที่นายกฯจะประชุมร่วมกับพรรคการเมืองวันที่ 7 ธ.ค. เพื่อพิจารณารับความคิดเห็นถึงการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม โดยนายกฯได้ให้การบ้านขอให้ คสช. แต่ละคนไปคิดรายละเอียดมาว่า จะมีอะไรบ้างที่ต้องนำไปคุยในวันที่ 7 ธ.ค. พร้อมเห็นว่าหลังประชุมแล้ว ควรมีระเบียบกฎเกณฑ์ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทำตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ ส่วนการปลดล็อกยังเป็นไปตามเดิมคือหลังจากมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง สำหรับวันเลือกตั้งที่ประชุม คสช.ได้ประเมินสถานการณ์แล้ว ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 24 ก.พ.62

วางกรอบถกพรรคการเมือง 7 ธ.ค.

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ประชุม คสช.พูดกันถึงคำสั่ง คสช.ว่าจะปลดล็อกกันอย่างไร จะได้คำตอบหลังจากการประชุมกับพรรค การเมืองวันที่ 7 ธ.ค. พยายามจะปลดล็อกให้เร็วที่สุดขอให้เข้าใจ จากนั้นเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เรื่องการหาเสียงซึ่งเป็นเรื่องของ กกต. ถ้าทุกคนตั้งหลักว่าจะเกิดความขัดแย้งมันก็จะขัดแย้ง ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ตั้งสติใช้สติปัญญาแก้ปัญหาให้ได้ ไหนๆจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยแล้ว ทุกอย่างเราพยายามให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเต็มที่

“บิ๊กตู่” เมินนิด้าโพลตามก้น “เจ๊หน่อย”

เมื่อถามถึงผลสำรวจนิด้าโพลสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เหมาะสมจะเป็นนายกฯ อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอันดับ 2 นายกฯตอบว่า วันนี้มีโพลจำนวนมาก วิธีการทำโพลทุกสำนักมีจุดมุ่งหมายด้วยกันทั้งสิ้นว่าอยากให้คำตอบออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและการตั้งคำถาม สิ่งที่ได้มานั้นจะใช่หรือไม่ยังไม่รู้ เพราะไม่อาจหยั่งรู้จิตใจของประชาชนทุกคนได้ แต่ผลโพลไม่ใช่ความเห็นของคนที่มีสิทธิ เลือกตั้งทั้งประเทศ การสำรวจความเห็นของคน 1,000-2,000 คนไม่ได้อะไร วันข้างหน้าผลโพลผิดทุกครั้งไป ต้องไปดูเป้าหมายว่าทำโพลเพื่ออะไรจากใครจากไหน บางครั้งการมีอะไรอยู่เบื้องหลัง จึงไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะเชื่อมั่นในประชาชนวันนี้ประชาชนเรียนรู้มาก อย่าใช้วิธีการเหมือนเดิมจนทำให้ประชาชนเกิดความไม่เข้าใจ

แต่งตัวรอคนทาบใส่ชื่อชิงนายกฯ

เมื่อถามว่าท่าทีทางการเมืองตัดสินใจแล้วหรือยัง นายกฯตอบว่า ถามฝ่ายกฎหมายและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยืนยันว่าตนไม่จำเป็นต้องสมัครพรรคการเมืองอะไรทั้งนั้น วันนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดทาบทาม เมื่อถามย้ำว่า ที่ว่าไม่จำเป็นต้องสมัครอะไรนั้น หมายถึงตำแหน่งใด นายกฯตอบว่า หมายถึงไม่ต้องสมัครสมาชิกพรรค เมื่อกฎหมายออกมาจะชัดเจนเองว่าตนจะอยู่ตรงไหน ถ้าใครทาบทามมา ตนก็จะตัดสินใจ แต่ถ้าไม่มีใครทาบทามก็ไม่เอา เขามีกำหนดเมื่อไหร่ให้ทาบทามเมื่อไหร่ ให้เสนอชื่อนายกฯเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แล้วจะรับหรือเปล่ายังไม่รู้เหมือนกัน ดูใจตนก่อนว่าสิ่งที่เขาจะมาขอตรงกับใจตรงกับความคิดตนหรือเปล่า เมื่อถามว่าแล้ววันนี้ใจนายกฯไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นายกฯตอบว่า ไม่มีกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้ามีก็ร้อยไปเลยไม่มีทีละสิบ ทีละหน่อย

ปัดไม่เกี่ยวดูดนักการเมืองเข้า พปชร.

เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักการเมืองแห่เข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นจำนวนมาก นายกฯ ตอบว่า รัฐบาลก่อนหน้าก็มีการย้ายพรรค เป็นเรื่องความสมัครใจ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ย้ายเพราะตนสั่งให้ย้ายหรืออย่างไร ย้ายมาเพราะเห็นว่านโยบายทางการเมืองตรงกัน อยากแก้ไขปัญหาความบกพร่องในอดีต หากจะไปร่วมกับพรรคใดพรรคหนึ่งต้องเรียนรู้ว่าระบบการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ประชาชนจะเลือกจากส่วนใด นโยบายหลักการและเหตุผล นำยุทธศาสตร์ชาติเป็นหลักในการทำงาน พรรคใดที่ทำแบบนี้เชื่อว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ถ้าทำเป็นอย่างอื่นก็จนใจ ตนไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ถ้าอนาคตแก้ปัญหาไม่ได้ ปฏิรูปไม่ได้ มาโทษตนว่าเสียของโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง วันนี้มีการบิดเบือนว่าจะยกเลิก สปก.เอาที่ดินคืน อย่าไปเชื่อใคร จัดระเบียบค้าขายต่างๆ การใช้ประโยชน์บนถนนรวมสาธารณะ จะให้เป็นเหมือนเดิมทั้งหมด เรื่องยางเรื่องปาล์มอย่าไปเชื่อ กรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ระบุถ้าได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกกฎหมายประมงแล้วร่างใหม่ ยืนยันว่าแก้ไขไม่ได้ กฎหมายและประกาศต่างๆออกมาแล้วกว่า 70 ฉบับ ต้องอิงกับพันธะสัญญาระหว่างประเทศ

หยอดห่วงสื่อตกงานแนะอัปเกรด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้ห่วงสื่อสารมวลชน นักข่าว การทำงานต่างๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกำลังแข่งขันอยู่ในโลกโซเชียล ยุคการใช้เทคโนโลยี เห็นนักข่าวหลายคนที่อยู่กับสื่อต่างประเทศมีปัญหาพอสมควร ทุกคนต้องอัปเกรดตัวเองให้ได้เรียนรู้ เพิ่มศักยภาพตัวเอง มองโลกให้กว้างขึ้น ถ้ามองแต่ในประเทศ วันหน้างานจะลดลงไปเรื่อยๆ ฝากถึงทุกคนขอให้ทุกคนก้าวหน้า มีเงินใช้ทุกคน ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติด้วยแล้วกัน อย่างที่ตนพยายามอย่างเต็มที่ตอนนี้ จะไม่อยู่ 2-3 วัน ไม่ต้องคิดถึงมาก

“บิ๊กป้อม” โต้งัดคดีบีบ ส.ส.ย้ายคอก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐใช้เงื่อนไขคดีความกดดันให้อดีตนักการเมืองย้ายมาเป็นสมาชิกพรรคว่า “โอ๊ย มีที่ไหน พรรค พปชร.เขาจะไปช่วยอะไรได้ คดีความ ต้องไปพูดกับศาลเท่านั้น ต่อให้ใครมาพูดอะไรกับตน ตนไม่สามารถช่วยได้ คนที่โดนคดีจะเกี่ยวข้องอะไรกับผม เพราะไม่เกี่ยวกับพรรค ไม่มีใครไปควบคุมศาลได้” เมื่อถามว่า พรรค พปชร.ประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯอีกสมัย ทำให้มองไปถึงยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ตั้งพรรคสามัคคีธรรมขึ้นมา พล.อ.ประวิตรถามกลับว่า รัฐบาลเคยไปยุ่งหรือไม่ รัฐบาลไม่เคยไปยุ่งอะไรเลย ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว เป็นเรื่องของรัฐมนตรีที่เข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่รัฐบาลทำเพื่อปูทางให้นั้น จะปูทาง ได้อย่างไร พรรค พปชร.ไม่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง ที่ประกาศจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯไม่รู้เป็นเรื่องของเขา ต้องไปถามคนเสนอ

ปัดฝ่ายมั่นคงไม่เคยทำโพลการเมือง

เมื่อถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพลคะแนนประชาชนอยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ สูงกว่า พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนิด้าโพล แต่เวลาที่คะแนนนายกฯมาเป็นอันดับหนึ่งทำไมไม่มาถามกันบ้าง และนิด้าโพลก็สำรวจความคิดเห็นแค่ 1,200 คน แต่ประชาชนมี 70 ล้านคน เมื่อถามว่าที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคงเคยสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะทำไปทำไม เพราะไม่ได้เล่นการเมืองไม่รู้จะวัดกระแสทำไม หากจะทำควรวัดกระแสว่าจะมีเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกหรือไม่จะดีกว่า จะไปวัดเรื่องการเมืองทำไม และ คสช.ไปเกี่ยวอะไร เมื่อถามย้ำว่า การพูดเช่นนี้แสดงว่าจะมีความขัดแย้งในวันข้างหน้าหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้

โฆษกรัฐย้ำปล่อยผีหลังประกาศ พ.ร.ฎ.

เมื่อเวลา 14.45 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกฯและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า นายกฯได้สั่งการในที่ประชุมว่ายังยืนยันที่จะพบกับพรรคการเมืองวันที่ 7 ธ.ค. ส่วน พ.ร.ฎ.เลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. จะกำหนดและดำเนินการตามความพร้อมของ กกต. ขณะที่การปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม คสช.จะพิจารณาหลังจากที่ได้วันประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ทั้งนี้ ครม.ได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่พรรคการเมือง กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้พรรคการเมือง นำไปหักลดหย่อนคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่บริจาค แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 10,000 บาทในปีภาษีนั้น ให้มีผลใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ.2561 ที่ต้องยื่นรายการในปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ส่วนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินให้พรรคการเมือง นำไปหักรายจ่ายได้ตามจำนวนที่บริจาค แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 50,000 บาท ในรอบระยะเวลาบัญชี มีผลใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป

เยือนเยอรมนียืนยันเครดิตผู้นำ

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า นายกฯมีกำหนดการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) เวลา 24.00 น. วันที่ 26 พ.ย. เพื่อเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ หลังจากสหภาพยุโรปปรับข้อมติต่อไทย ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืนผ่านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาตามนโยบายประเทศไทย 4.0 สะท้อนว่านายกฯได้รับความยอมรับและเชื่อมั่นทางการเมืองจากประเทศชั้นนำอย่างเยอรมนี จะหารือกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกฯเยอรมนี เพื่อย้ำความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับทวิภาคี นอกจากนี้ จะไปศึกษาดูงานที่ Fraunhofer IPK ร่วมกิจกรรม Thai-German Business Forum : Asia-Europe Partnership for the Future พบหารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนของเยอรมนี ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับภาคเอกชนเยอรมัน-ไทย

น้องสาว “นิสิต” แหกโผเข้า พปชร.

ด้านความเคลื่อนไหวในการย้ายสังกัดพรรคที่ครบกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน หากการ เลือกตั้งเป็นวันที่ 4 ก.พ.62 ซึ่งเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ถือเป็นวันสุดท้าย ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังมีอดีต ส.ส.มาสมัครสมาชิกพรรค อาทิ นายดนัยฤทธิ์ วัชราภรณ์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย น้องชายนายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มาสมัครก่อนแล้ว ที่น่าสนใจนางจุรีพร สินธุไพร รองนายก อบจ.ร้อยเอ็ด แกนนำ นปช.ภาคตะวันออก น้องสาวของนายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยและฐานะอดีตแกนนำ นปช.นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครที่สร้างสีสันให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อ น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น หรืออ้อแอ้ อายุ 33 ปี พริตตี้เอ็มซีมาสมัคร มีกลุ่มเพื่อนพริตตี้สาวแห่มาให้กำลังใจ น.ส.นพวรรณระบุว่า ตั้งใจเป็นตัวแทนกลุ่มพริตตี้เอ็มซี เรียนจบปริญญาโทนิเทศศาสตร์ อยากช่วยงานประชาสัมพันธ์พรรค

ไม่หวั่นยืนคนละขั้วกับพี่ชาย

นางจุรีพรกล่าวว่า การตัดสินใจมาพรรคนี้ไม่ได้ปรึกษากับนายนิสิต สินธุไพร พี่ชาย ที่ยังร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการที่มาอยู่พรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในพื้นที่ เพราะไม่ควรทะเลาะกันแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าประชาชนจะสับสนหรือไม่ที่พี่กับน้องอยู่ต่างพรรคกัน นางจุรีพรตอบว่า คิดว่าประชาชนจะแยกแยะได้ และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน พร้อมจะลงเลือกตั้ง ส.ส.ใน จ.ร้อยเอ็ด

อดีต ส.ส.ราชบุรีโผซุกปีกเพียบ

ช่วงเย็นมีอดีต ส.ส.เดินมาสมัครอาทิ นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข พร้อมบุตรสาวคือ น.ส.กุลวดี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคชาติไทยพัฒนา และบุตรสาว น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ มาสมัครซึ่งทั้งคู่จะส่งลูกสาวลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. รวมทั้ง น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทยได้มาสมัครด้วย

“สุวิทย์” ชี้อย่าเชื่อนัก “หน่อย” แซง “บิ๊กตู่”

ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลสำรวจนิด้าโพลรอบล่าสุดระบุคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย มีคะแนนแซง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ที่อยากให้เป็นนายกฯนั้น โพลก็คือโพล อย่าไปเชื่อมาก ต้องเช็กหลายๆโพล ยึดเอาที่ใดที่หนึ่งแล้วบอกว่าใครชนะไม่ได้ ยังแค่เริ่มต้น ต้องดูอีก 2-3 เดือน หลายอย่างเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเชื่อโพลมากและไม่คิดว่าจะทำให้สมาชิกพลังประชารัฐหวั่นไหว

“สนธิรัตน์” ยังไม่ได้เชิญ “ประยุทธ์”

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าอดีต ส.ส.ที่เข้าร่วมพรรคเพราะถูกบีบเรื่องคดี ซึ่งการวิจารณ์แบบนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมกับผู้มาสมัคร ส่วนผลโพลพรรคพลังประชารัฐยังแพ้พรรคเพื่อไทย ถือเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งเพราะมีอีกหลายโพลที่ต้องดูคงไม่มีผลต่อกำลังใจ เพราะเชื่อพรรคพลังประชารัฐยังแรงจึงไม่กังวลใจอะไร ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งดีกว่าจะแผ่วปลายหรือไม่ ส่วน 4 รัฐมนตรีที่บอกรอลาออกในเวลาเหมาะสมให้ดูทางพฤตินัย ส่วนการเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังไม่ถึงเวลา

ภท.แฮปปี้กวาดเพลิน ส.ส.-ส.ก.-ส.ข.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า ตลอดทั้งวันมีอดีต ส.ส. ส.ก. ส.ข. มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคหลายราย อาทิ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย น.ส.ปราณี เชื้อเกตุ อดีต ส.ก.บางเขน น.ส.สายรุ้ง ปิ่นโมรา อดีต ส.ก.คลองสามวา นายไสว โชติกะสุภา อดีต ส.ก.ราษฎร์บูรณะทุ่งครุ นายณัทวุฒิ หมัดนุรักษ์ อดีต ส.ก.สวนหลวง น.ส.อุไร อนันตสิน อดีต ส.ก.ปทุมวัน นายทวีพร อนุตรพงษ์สกุล อดีต ส.ก.ป้อมปราบศัตรูพ่าย นายอนุชาญ กวางทอง อดีต ส.ข.พญาไท นายบวรกิตติ์ สันทัด อดีต ส.ข.จตุจักร นายบุญมี พิบูลย์คณารักษ์ อดีต ส.ข.คลองสามวา นายพงศ์ไพศาล มะลูลีม อดีต ส.ข.เขตมีนบุรี นายอำนวย ชัยพรประเสริฐ อดีต ส.ข. สายไหม นางณิฐ์ภาวรรณย์ จ้อยเอม อดีต ส.ข. ดอนเมือง นายอัครกฤษ นุ่นจันทร์ อดีต ส.ข.บางกระปิ นายสามารถ หวังพิทักษ์ อดีต ส.ข.สะพานสูง และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.ในจังหวัดเชียงใหม่มาสมัครโดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับ

“มนตรี” โอ่โค่น “เทือก” ไม่ได้ ส.ส.สุราษฎร์

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายมนตรี เพชรขุ้ม อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานีและอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่าพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ประชาชนทั่วไปอาจคิดว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ความจริงอาจไม่ใช่ตามที่สังคมไทยคิด เพราะคนทำงานภาคประชาชนรู้ดีว่า จ.สุราษฎร์ธานีเป็นสนามแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์เพียง 2 พรรคเท่านั้น มั่นใจว่า 6 เขตเลือกตั้งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการหยั่งเสียงประชาชนพรรคภูมิใจไทยจะได้ 3 เสียง ที่เหลือเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคของลุงกำนันไม่มีโอกาสได้แม้แต่ที่นั่งเดียว เรามีนโยบายระดับพื้นที่ 3 เรื่องคือ ปัญหาที่ทำกินของราษฎร ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ การผลักดันราคายาง และปาล์ม ขยายผลนำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นพลังไฟฟ้าบริสุทธิ์ เป็นที่ฮือฮาของพี่น้องภาคใต้มาก และพี่น้องชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยด้านท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย เกาะพะงัน เรือขนาดเล็ก เรือขนาดใหญ่ ต้องมีกติกาที่ชัดเจน ทำมาหากินอย่างมีความสุข และไม่รบกวนธรรมชาติจนเกิดความเสียหาย

กลุ่มสหพันธ์ขนส่งแห่สมัคร ทษช.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำสมาชิกสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย 11 สมาคมรวมถึงเครือข่ายสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย 7 เครือข่ายเข้าสมัครสมาชิกพรรค โดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรคให้การต้อนรับ นายทองอยู่กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศมีความเห็นตรงกันว่า แนวทางนโยบายของพรรคไทยรักษาชาติจะสามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของมวลสมาชิกจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนประเทศ

โอ่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ไหลซบอื้อ

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการสมัครสังกัดพรรคการเมือง จากนี้พรรคจะคัดแยกและให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาเพราะมีผู้สมัครจำนวนมากแจ้งความประสงค์ลงสมัครในพื้นที่ กทม.ซึ่งคงต้องพูดคุยกันถึงพื้นที่ทับซ้อนเพราะแต่ละคนต้องการเป็นผู้สมัครพื้นที่ กทม.แต่เรื่องการแบ่งเขตยังเหนือการควบคุมของพรรค จึงอยากฝากถึง กกต.ให้ทำงานตรงไปตรงมาให้เกิดความมั่นใจกับพรรคการเมือง ซึ่งเราคอยการเลือกตั้งมาหลายปีอย่าให้เสียของ จัดการเลือกตั้งที่ยุติธรรม เริ่มต้นจากการแบ่งเขตที่เป็นธรรม ส่วนที่รัฐบาลจะปลดล็อกการเมืองในวันที่ 7 ธ.ค.นั้น ควรปลดล็อกก่อนปีหนึ่งด้วยซ้ำ เพราะหัวใจสำคัญของพรรคการเมืองคือพบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาจะปลดล็อกวันที่ 7 ธ.ค. หรือวันใดให้รีบปลดก็แล้วกัน และอย่าไปก้าวก่ายการทำงานของ กกต.ที่สังคมกังวลที่สุด

“เต้น” ชี้คนพลิกขั้วอย่าอ้างสู้เพื่อ ปชต.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีแกนนำคนเสื้อแดงไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า การตัดสิน ใจสมัครเข้าร่วมพรรคที่มีแนวทางสืบทอดอำนาจเผด็จการชัดเจน พี่น้องที่เคยต่อสู้ร่วมอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยกันมา ถ้าตัดสินใจไปอยู่กับพรรคที่มีแนวทางสืบทอดอำนาจเผด็จการขอให้ไปดี ไม่มีการด่าทอหรือโกรธเคือง แต่อยากให้นึกถึงหัวใจที่ต่อสู้มาด้วยกัน ให้เคารพความรู้สึกที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา และอย่าใช้สถานะแกนนำ นปช.หรืออย่าเอ่ยอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในวันที่ไปยืนเคียงข้างเผด็จการ ขอให้เชื่อมั่นว่าพลังผู้รักประชาธิปไตยยังมีอยู่ จะพ่ายแพ้หรือชนะการเลือกตั้งไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าจะซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยจนลมหายใจสุดท้าย เพื่อปฏิเสธการสืบทอดอำนาจเผด็จการ

ทษช.ส่ง ส.ส.เขตเกินครึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติว่า จากรายชื่อผู้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจนถึงวันที่ 26 พ.ย. พรรคจะพิจารณาส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ได้มากที่สุด เบื้องต้นจะส่งผู้สมัครเกิน 175 เขตหรือครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.เขตแน่นอน จากนี้จะนำรายชื่อสมาชิกพรรคทั้งหมดรวมกัน เพื่อพิจารณาคัดเลือกว่าจะให้ใครลงสมัครเขตไหน รวมถึงรายชื่อของผู้ที่จะไปอยู่ในบัญชี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

ยอดเด็ก พท.ไหลออกพุ่ง 32 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่าหลังครบกำหนดการสมัครสมาชิกสังกัดพรรคการเมือง 90 วันปรากฏว่ามีอดีต ส.ส.เพื่อไทยย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองต่างๆไม่ต่ำกว่า 32 คน อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข นายวันชัย บุษบา อดีต ส.ส.เลย นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. นครราชสีมา นายสุพล ฟองงาม นายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี นายฐานิสร์ เทียนทอง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว นายไผ่ ลิกค์ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย นายอนันต์ ผลอำนวย อดีต ส.ส.กำแพงเพชร นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นายอนุชา สะสมทรัพย์ และนายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร อดีต ส.ส.นครปฐม ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล อดีต ส.ส.อยุธยา นายพหล วรปัญญา อดีต ส.ส.ลพบุรี ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย

ผ่องถ่ายเข้าร่วม “ทษช.” อื้อซ่า

นอกจากนี้ ยังมีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พาณิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำระดับสูงพรรคเพื่อไทย ที่ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติเช่นกัน ส่วนที่ย้ายไปพรรคเพื่อชาติ อาทิ นายอัสนี เชิดชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ

เปิดตัว “โอ๊ค” ร่วมคาราวานหาเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงยุทธ์ศาสตร์การหาเสียงของพรรคในการเลือกตั้งว่า จากกรณีที่แกนนำพรรคย้ายไปร่วมพรรคการเมืองอื่นจำนวนมาก ทำให้เหลือแกนนำในการปราศรัยครั้งนี้ไม่มากโดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 24 พ.ย.โดยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของนายพานทองแท้ เป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กับอดีต ส.ส.ที่ปักหลักอยู่กับพรรคเพื่อไทย และยืนยันให้เห็นว่านายทักษิณ ชินวัตร ไม่ทิ้งพรรคไปไหนซึ่งนายพานทองแท้จะไปร่วมหาเสียงในลักษณะโรดโชว์ ขึ้นเวทีโชว์ตัวโดยไม่ต้องปราศรัยเพื่อให้ประชาชนเห็นว่านี่เป็น “ดีเอ็นเอ” ที่นายทักษิณส่งมาให้มั่นใจว่าทักษิณยังอยู่

คาด “เจ๊หน่อย” ลงสมัคร ส.ส.เขต

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส. กทม. ว่าเบื้องต้นมีอดีต ส.ส.กทม. 10 เขต ยังลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายวัน อยู่บำรุง นายประพนธ์ เนตรรังษี และนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ส่วนอดีตผู้สมัครของพรรคที่มีคะแนนครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ย้ายไปลงสมัครพรรคไทยรักษาชาติ จะมีบางเขตที่ส่งผู้สมัครแข่งกันทั้งสองพรรค ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มจะลงสมัคร ส.ส.กทม.ส่วนจะลงเขตใดยังอยู่ระหว่างตัดสินใจ แต่ต้องเป็นพื้นที่ลงสมัครแล้วต้องชนะเลือกตั้ง ส่วนพื้นที่ จ.เชียงใหม่ที่นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลาออกไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ได้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ในเขตนี้แทน

“นิสิต” เสียใจน้องสาวซบเผด็จการ

นายนิสิต สินธุไพร สมาชิกพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีนางจุรีพร สินธุไพร น้องสาว ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ทราบมาก่อนเลย มารู้บ้างเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.ว่า จะย้ายไป โทร.ไปก็ไม่รับสาย จนตอนเช้ามาเป็นข่าวว่าไปแล้ว ก่อนหน้าไม่ได้มาถามก่อน คงรู้ถ้ามาถามตนคงไม่ให้ไป ในหลักการย้ายพรรคถือเป็นสิทธิเราเคารพการตัดสินใจ แต่ไม่คิดว่าจะเลือกเดินเส้นทางนี้ ไปเลือกพรรคที่มีแนวคิดสืบทอดอำนาจ หากไปพรรคที่มีเส้นทางประชาธิปไตยคงไม่คิดอะไรมาก เพราะนายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร น้องชาย ไปสมัครพรรคอนาคตใหม่ ยังอยู่ในเส้นทางประชาธิปไตยรับได้ ที่ผ่านมาเราต่อสู้กันมานาน ตนเคยติดคุกติดตะราง ไม่เข้าใจเขาไปด้วยเหตุผลอะไร ส่วนเรื่องคดีที่มีการมองกันถูกนำมาต่อรองนั้นคงไม่น่ามี ช่วงรัฐประหาร 2557 ทั้งตน น้องสาวและสามีเขาเคยถูกทหารเรียกไปคุมตัว แต่หลังจากนั้นถูกปล่อยออกมา แต่ตนยังมีคดีต่างๆเหลืออยู่ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ไปไหน ไปไหนไม่ได้ เพราะสู้ทางนี้มานาน แม้จะสู้ไม่ได้จะสนับสนุนลูกหลานต่อไป

คน ปชป.ถูกทึ้ง “นาถยา” เลี้ยวกลับ

ด้านพรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกพรรคที่มีอดีต ส.ส. ส.ก. และ ส.ข.ไหลออกไม่น้อย วันสุดท้ายของการย้ายพรรคนางนาถยา แดงบุหงา อดีต ส.ส.กทม.เขตประเวศ-สะพานสูง ได้ลาออกและออกจากไลน์กลุ่มอดีต ส.ส.พรรคไปตั้งแต่เวลา 10.00 น. หลังได้คุยนางนันทพร วีรกุลสุนทร อดีต ส.ส.กทม. เขตจอมทอง ว่าจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย แต่นางนันทพรไม่ได้ลาออกไปด้วยตามที่ตกลงกันไว้ กระทั่งช่วงเที่ยงนางนาถยาได้เดินทางกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง ที่ห้องทำงาน น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรค มีนายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.กทม. เจรจาให้กลับมาร่วมงานกันเหมือนเดิม นางนาถยายอมรับว่าได้ลาออกจากสมาชิกพรรคจริง ตัวเองไขว้เขวไปบ้าง เพราะถูกทาบทามให้ไปเข้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเรื่องในครอบครัวส่วนตัวที่สนับสนุน แต่สุดท้ายตัดสินใจกลับมาพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม เพราะผูกพันเพื่อนๆพี่ๆ อดีต ส.ส. เกิดจากพรรคนี้ขออยู่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ส.ก. ส.ข.พรรคประชาธิปัตย์ถูกดูดไปจำนวนหนึ่งแล้ว ล่าสุดยังมี ส.ก.และ ส.ข.ถูกดูดไปอีก อาทิ นางปราณี เชื้อเกตุ อดีต ส.ก.เขตบางเขน นายจักรพันธุ์ พรนิมิตร อดีต ส.ก.บางพลัด ไปพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายไสว โชติกะสุภา อดีต ส.ก.ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ ไปลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย

เปิดตัว “อร่ามอาชว์วัต-ผู้การแต้ม”

ขณะเดียวกัน ก็มีอดีต ส.ส.เข้ามาสมัครสมาชิกใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน โดยเมื่อเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับ สวมเสื้อประจำพรรคเปิดตัวนายอร่ามอาชว์วัต โล่ห์วีระ อดีต รมช.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิทั้ง 6 เขต รวมทั้ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. เจ้าของฉายามือปราบหูดำ และที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ที่จะลงสมัคร ส.ส.กทม. โดย พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ตรงกัน เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์สุจริต ยืนเคียงข้างกับประชาธิปไตยมาโดยตลอด มั่นใจว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้ ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. เขตจตุจักร ระบุว่า พล.ต.ต.วิชัยเหมาะลงสมัคร ส.ส.เขตหลักสี่แทนนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม.

“หมออสิ” ไป ทษช.ฉุนถูกดองเลือดเย็น

ขณะที่อดีต ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ล่าสุด นพ.อสิ มะหะมัดยังกี อดีต ส.ส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นพ.อสิกล่าวว่าทำงานให้พรรคมากว่า 10 ปี แต่พรรคกลับส่งคนอื่นลงแทน ไม่ว่ากันหากพรรคส่งใคร แต่ควรจะบอกกล่าวให้ตนรู้ตัว ไม่ใช่ยังบอกให้ตนลงพื้นที่และเพิ่งมาบอกตนให้ทราบเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ว่า จะส่งนายอิบรอฮิม อาดัม อดีตกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูลและอดีต ส.ว.ลงสมัครแทน ในพื้นที่ชาวบ้านรู้ว่าเขาอยู่ในเครือพรรคเพื่อไทย อยู่สายนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ทำให้ทีมงานและชาวบ้านในพื้นที่ยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนไม่โกรธใครที่ทำตัวมือหนึ่งถือดอกไม้อีกมือถือมีด แต่ทำไมถึงทำกับตนเช่นนี้ ไม่ส่งลงสมัครไม่ว่าแต่ต้องบอกให้รู้ตัว ส่วนตัวยังรู้สึกดีและไม่ได้ทำผิดอะไรต่อพรรค ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับการบริหารจัดการภายในพรรค แต่ที่ทำกับตนมันเลือดเย็นและโหดร้ายมากเกินไป ไม่ส่งตนลงควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอกหรือไม่มีทางไป หลายพรรคก็ทาบทาม แต่มาบอกเมื่อใกล้เวลาจะหมด หลายพรรคมีผู้สมัครครบแล้ว ยังดีที่พอมีเพื่อนอย่าง นพ.อิสระ หัสดิน ที่อยู่พรรค ทษช. จึงชวนไปอยู่ด้วย เพราะเหลือเวลาวันสุดท้ายแล้ว ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสสู้ จึงไม่แปลกใจที่ทำไมคนออกจากพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก สงสัยว่าเกิดอะไรกับพรรคที่เป็นสถาบันและเคยมีมาตรฐาน นพ.อสิกล่าว

เบื้องต้นคน ปชป.ทิ้งพรรค 20 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เบื้องต้นมีอดีต ส.ส.ของพรรคลาออกไปร่วมงานกับพรรคอื่นรวม 20 คน โดยไปร่วมกับพรรค รปช.คือนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.นราธิวาส นายรำรี มามะ อดีต ส.ส.นราธิวาส นายเจะอาหมิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส นายอับดุลการิม เต็งกะรีนา อดีต ส.ส.ยะลา นายอับดุลรามัน มะยูโซะ อดีต ส.ส.ปัตตานี นายซาตา อาแวกือจิ อดีต ส.ส.ปัตตานี นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายเชน เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี และพรรคพลังประชารัฐ นายสรวุฒิ เนื่องจำนง อดีต ส.ส.ชลบุรี นางกัลยา รุ่งวิจิตรชัยกุล อดีต ส.ส.สระบุรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยกุล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส่วนที่ไปพรรคพลังท้องถิ่นไท คือ นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.กทม. และพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายธวัชชัย อานามพงษ์ อดีตส.ส.จันทบุรี นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา อดีต ส.ส.จันทบุรี นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา ส่วน นพ.อสิ มะหะมัดยังกี อดีต ส.ส.สตูล ไปพรรคไทยรักษาชาติ

“มาร์ค” จิกย้อนยุค 20 ปีปฏิรูปตรงไหน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ กล่าวถึงสาเหตุที่อดีต ส.ส.จำนวนมากย้ายพรรคว่า ในมุมมองนักการเมืองต้องปลอดภัยไว้ก่อน ที่อดีต ส.ส.หลายพรรค โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยย้ายไปสมัครพรรคพลังประชารัฐจำนวนมาก มองจากที่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ย้ายออกไป เพราะได้รับข้อเสนอแทบทุกเรื่อง อาทิ 1.เรื่องเงิน 2.โครงการของรัฐเข้าพื้นที่ 3.นำเขตเลือกตั้งมาต่อรอง 4.นำคดีความมาต่อรอง แต่สิ่งที่ตนยอมรับได้ยากก็คือใครบอกจะมาปฏิรูปการเมือง จะมาทำการเมืองให้ดีขึ้น สุดท้ายพฤติกรรมที่ทำอยู่ขณะนี้ไม่ได้ดีกว่าเดิม ซ้ำร้ายหลายกรณีแย่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก อยากถามพรรคพลังประชารัฐว่า คุณรับทุกคนเลยหรือไม่ นักการเมืองที่เคยกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ศาลตัดสินว่ามีความผิดแล้ว แต่วันนี้อยากได้กำลังของเขาทางการเมืองก็รับเขาแล้ว ยังมองไม่ค่อยออกว่ามันแตกต่างกันอย่างไรระหว่างพรรคเก่ากับพรรคใหม่ที่ย้ายเข้าไป หากนำคนที่ย้ายพรรคมาถ่ายรูปหมู่ เทียบกับรูปหมู่เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เปลี่ยนแค่หัวข้างบน จะเชื่อหรือไม่ว่าการเมืองเปลี่ยนแปลง เชื่อหรือไม่ว่าคือการต่อสู้กับสิ่งที่บอกสังคมว่าน่าจะถูกขจัดออกไป

“สมชัย” เชียร์ “โอ๊ค” กระทบชิ่งอีแอบ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า “เขาโพสต์ถึงการคลี่คลายของชีวิต ที่ต้องเดินหน้าเข้าสู่การเมือง เห็นถึงเจตนาในการเปลี่ยนแปลง คนมีเงินมาลงการเมืองไม่ใช่เรื่องแปลก ดีเสียอีกที่เปิดหน้าเล่น ดีกว่าอีกมากที่แอบหนุนหลังสนับสนุนทุกฝ่ายที่คาดว่าจะมีอำนาจเพื่อปกป้องธุรกิจตัวเอง การเล่นการเมืองแบบเปิดหน้า จึงหมายถึงความกล้าหาญ กล้าแสดงตัว พร้อมจะถูกวิจารณ์ตรวจสอบ ขอสนับสนุนให้กำลังใจ ขอให้การทำงานการเมืองประสบความสำเร็จ”

“กัญจนา” ให้เกียรติเว้นพื้นที่อ่างทอง

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมแกนนำต้อนรับสมาชิกคนรุ่นใหม่กว่า 100 คน อาทิ น.ส.วราไพรินทร์ ธนวริสพร อดีตนักแสดง นายสุระและนายวิโรจน์ แสนคำ หรือเขาทรายกับเขาค้อ แกแล็คซี่ สองอดีตนักชกฝาแฝด น.ส.กัญจนาให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นคาดว่าจะส่งผู้สมัครไม่ครบ 350 เขตเลือกตั้ง กทม.จะส่ง 30 เขต คนรุ่นใหม่ที่มาเพิ่ม ต้องทำงานผสมผสานกับทุกคน คนอาวุโสเป็นกำลังของพรรค ส่วนสองพี่น้องตระกูลปริศนานันทกุล เคารพการตัดสินใจ คงจะไม่ก้าวก่ายอะไรอีก น้องๆ ตัดสินใจไปแล้วถือว่าจบ ส่วนตัวคิดว่าจะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อให้เกียรติครอบครัวปริศนานันทกุล

กกต.เผยเพื่อไทยเลือดไหลมากสุด

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตลอดทั้งวันมีสมาชิกพรรคการเมืองเข้ายื่นใบลาออกจากพรรคที่สังกัดอยู่เดิมประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย ย้ายไปสังกัดพรรคอื่น ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา โดยผู้ที่มาลาออกกับนายทะเบียนพรรคการเมืองเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าลาออกกับพรรคแล้ว ทางพรรคจะส่งมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือไม่ เกรงว่าถ้าถูกดึงชื่อไว้ทำให้หมดสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งหากไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองภายใน 90 วัน

รับรองจดจัดตั้งเพิ่มอีก 5 พรรค

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.เปิดเผยว่าที่ประชุม กกต.มีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดจัดตั้งพรรคการเมืองเพิ่มอีก 5 พรรค ประกอบด้วยพรรคพลังศรัทธา พรรคภูมิพลังเกษตรกรไทย พรรคพลังสังคม พรรคพลังแรงงานไทย พรรคพลังไทสร้างชาติ ทำให้ยังเหลือพรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาตรวจสอบก่อนรับรองจดจัดตั้งพรรค 10 พรรค

สมัคร ส.ว.วันแรกยังเงียบเหงา

อีกเรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศวันแรก เป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยเฉพาะที่หอประชุมอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าฯขอนแก่น ตรวจสอบความเรียบร้อยกำชับแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบโดยมีผู้มาสมัครเพียงรายเดียว และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา บรรยากาศเงียบเหงามีเพียงเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีผู้มาสมัครแม้แต่รายเดียว ส่วนที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่า มีผู้มาสมัคร 3 ราย ที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี มีผู้สมัคร 2 ราย ที่ว่าการอำเภอเมืองแม่ฮ่อนสอน มีผู้สมัคร 1 ราย และที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ มีผู้สมัคร 1 ราย

ปชป.จวกเทงบฯปาหี่เฟ้น ส.ว.ลากตั้ง

นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้คนอาจไปสนใจว่าใครจะย้ายพรรคใครถูกดูด แต่อยากให้ประชาชนรู้ทัน อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญระบุให้มีสมาชิกวุฒิสภา 250 คนมามีส่วนร่วมโหวตเลือกนายกฯได้ กระบวนการเริ่มแล้วอย่างเงียบๆ ชาวบ้านไม่รู้จักหน้าค่าตาเลย เหมือนปิดหูปิดตาประชาชน ไม่เหมือนเลือกผู้แทนฯอย่างน้อยชาวบ้านรู้ว่าใครเป็นใคร แม้จะเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภาจากองค์กรแต่ปลายทางอยู่ที่ คสช.เลือก ใครก็อ่านออกว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วม เขียนให้ ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ เพื่อไปยกมือให้ใคร

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สุดท้ายปลายทางล้วนอยู่ที่ คสช.ทั้งสิ้น ที่ใช้งบฯกว่า 1,300 ล้านบาท เฉลี่ยคนละกว่า 20 ล้านบาทสิ้นเปลืองเปล่าประโยชน์ เมื่อให้ คสช.เลือกอยู่แล้วก็เลือกเองเสียให้หมดเลย จะไปพยายามสร้างพิธีกรรมให้เหมือนประชาชนมีส่วนร่วม เสียเงินโดยใช่เหตุทำไม ประชาชนคงไม่ต้องไปหวังว่า ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามา หน้าเดิมๆในแม่น้ำ 5 สายคงเข้ามาเกินครึ่ง คนเขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ได้เปรียบตรงนี้ มีฐานเสียงในกระเป๋าอยู่แล้ว

ครม.คลอด ก.ม.สอยผู้บริหารท้องถิ่น

วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกฯและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น สาระสำคัญให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าชื่อร้องขอให้พิจารณาออกข้อบัญญัติ ใน กทม.ต้องมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 คน กำหนดให้คำร้องขอพิจารณาออกข้อบัญญัติต้องมีชื่อ ที่อยู่ และลายมือชื่อของผู้เข้าชื่อทุกคน พร้อมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ขณะเดียวกัน ครม.ยังอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดย อปท.ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 100,000 คน ต้องเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่น้อยกว่า 5,000 คน สุดแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า อปท.ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิน 100,000 คน แต่ไม่เกิน 1,000,000 คน ต้องมีผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 10,000 คน ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ถ้ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิน 1,000,000 คน ต้องมีผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 20,000 คน

ไม่มีความคิดเห็น: