"รอยเตอร์แทรกแซงกิจการภายในของไทย !" ชี้แนวโน้มต่ำ‘จัดเลือกตั้ง’โอกาสสูงมากสถานการณ์ชักนำสู่‘รปห.’-
รอยเตอร์ - สำนักข่าวรอยเตอร์เสนอภาพจำลองสถานการณ์ (scenario) 5 แบบ ซึ่งอาจบังเกิดขึ้นจากวิกฤตการเมืองไทยในปัจจุบัน ซึ่งทั้งฝ่ายประชาชนที่ต่อต้านทั้งฝ่ายรัฐบาลไม่มีใครยอมถอย โดยที่สำนักข่าวสัญชาติอังกฤษแห่งนี้บอกด้วยว่า เวลานี้ยังห่างไกลจากความชัดเจนนักว่าจะมีการจัดการเลือกตั้ง ขณะที่ข่าวลือเรื่องการทำปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพแพร่สะพัด
รอยเตอร์บอกว่า ฝ่ายผู้ประท้วงนั้นต้องการชะลอสิ่งที่พวกเขาเห็นว่า เป็นประชาธิปไตยอันเปราะบางซึ่งชักใยโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ถูกกล่าวหาเล่นพรรคเล่นพวกและทุจริตโกงกิน และกวาดล้างอิทธิพลของตระกูลนี้ด้วยการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งซึ่งพวกเขายังไม่ได้ระบุออกมาอย่างชัดเจน แต่กลุ่มผู้สนับสนุน “แม้ว” ที่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด มีแนวโน้มออกมาประท้วงอีกครั้งหากเชื่อว่า ผลประโยชน์ของตนถูกชนชั้นนำในเมืองหลวงมองข้าม
ต่อไปนี้คือภาพจำลองสถานการณ์จำลองของการเมืองไทยที่อาจจะดำเนินไปรวม 5 แบบในสายตารอยเตอร์
**ตุลาการปฏิวัติ** สำนักข่าวแห่งนี้ระบุว่า หลายสัปดาห์มานี้ สถาบันตุลาการมีความคืบหน้าในการพิจารณาคดีสำคัญผิดปกติ โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับความพยายามของพรรคเพื่อไทย (พ.ท.) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อีกไม่นานเกินรอ สมาชิกรัฐสภา 308 คน ส่วนใหญ่จากพ.ท. อาจถูกฟ้องร้องต่อศาลฎีกาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งถูกวินิจฉัยแล้วว่า ขัดต่อกฎหมาย
ในอีกด้านหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญก็กำลังพิจารณาคดีที่ว่า การอนุญาตให้รัฐบาลทำข้อตกลงกับต่างประเทศโดยไม่ต้องชี้แจงหรือขอความคิดเห็นจากรัฐสภาเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ลงโทษยิ่งลักษณ์และคณะรัฐมนตรี สำหรับความผิดในคดีนี้ด้วยการจำกัดสิทธิ์ทางการเมือง
ที่ผ่านมา ศาลซึ่งรอยเตอร์ระบุว่า ถูกการเมืองแทรกแซง เคยแบนพันธมิตรของทักษิณและบีบให้รัฐบาลโปรแม้วหลุดจากอำนาจ หรือที่เรียกว่า “ตุลาการปฏิวัติ” อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ศาลจะมีคำตัดสินอย่างไรในคดีทางการเมืองเหล่านี้ โดยมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีการตัดสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้ง ห้ามมีส่วนร่วมทางการเมือง หรือยุบพ.ท.
**ทหารแทรกแซง-ระบอบต้านแม้วผงาด**กองทัพที่รอยเตอร์ชี้ว่าได้เคยปฏิวัติรัฐประหารมาหลายครั้ง เวลานี้พยายามวางตัวเป็นกลางในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ดูเหมือนนายทหารระดับสูงจะมีอารมณ์ร่วมกับกระแสชิงชังทักษิณ
การชุมนุมประท้วงส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย และรัฐบาลหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า กระนั้น หากความรุนแรงปะทุขึ้นและแม้ไม่ชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลัง กองทัพอาจเข้าแทรกแซงและยึดอำนาจเพื่อป้องกันเหตุการณ์วุ่นวาย
ในภาพจำลองสถานการณ์แบบนี้ อาจมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวโดยผู้พิพากษาและวุฒิสมาชิก และทูลเกล้าให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยรับรอง รัฐบาลเฉพาะกาลนี้อาจแก้ไขกลไกการเลือกตั้งตามเสียงเรียกร้องของผู้ประท้วงเพื่อขจัดอิทธิพลของของทักษิณ จากนั้นจึงจัดการเลือกตั้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อดับกระแสเสียงคัดค้านจากนานาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครองโดยฝ่ายทหาร
**พ.ท.ชนะเลือกตั้ง**มีความสงสัยเพิ่มมากขึ้นทุกทีว่าการเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นภาพจำลองสถานการณ์แบบนี้จึงอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยที่สุด แต่หากมีการเดินหน้าเลือกตั้งกันจริงๆ แล้ว พ.ท.จะใช้คลังทรัพย์สินอันเหลือเฟือของตนทำการโปรโมทนโยบายประชานิยม และประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ของพ.ท.อย่างภาคเหนือและอีสาน มีแนวโน้มออกมาเทคะแนนและทำให้พรรคนี้ได้รับชัยชนะอีกครั้ง
ถึงตอนนั้นกำลังของกลุ่มต่อต้านแม้วอาจแผ่วลงเช่นเดียวกับการสนับสนุนทางการเงิน แต่อาจจะยังพยายามรักษาหน้าด้วยการไปตกลงหลังฉากกับทักษิณ เพื่อยอมให้พ.ท.บริหารประเทศ โดยมีข้อแม้ห้ามแม้วกลับเมืองไทย
น.ส.ยิ่งลักษณ์จะจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งให้สัญญาปฏิรูปและสมานฉันท์ จัดการกับบางเรื่องที่ผู้ประท้วงคับข้องใจ เช่น ยกเลิกนโยบายประชานิยมที่สูญเปล่าและแก้ปัญหาคอร์รัปชัน เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าในอนาคต ควบคู่ไปกับรักษาระยะห่างจากพี่ชาย
**พ.ท.ชนะ-เลือกตั้งโมฆะ**แม้พ.ท.ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ฝ่ายต่อต้านระบอบแม้วอาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง รวมทั้งก่อกวนการเลือกตั้งด้วยการกล่าวหาว่า มีการโกงและการฝ่าฝืนต่างๆ นานา
นอกจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจไม่รับรองการเลือกตั้ง และถึงแม้รับรอง แต่อาจมีการฟ้องร้องเพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
สถานการณ์จะวุ่นวาย และผู้ประท้วงที่ไม่ยอมรับการเลือกตั้งแต่แรกจะยิ่งลุกฮือต่อต้านรัฐบาลรักษาการที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจนโยบายใดๆ และมีความเป็นไปได้ว่า ทหารจะเข้าแทรกแซง
**เลื่อนเลือกตั้งไม่มีกำหนด**กลุ่มต่อต้านทักษิณอาจใช้ช่องทางทางกฎหมายทั้งหมดสกัดการเลือกตั้ง โดยขณะนี้ทั้งศาลและกกต. ได้รับเรื่องร้องเรียนมากมาย แต่ปัญหาที่ชัดเจนคือ การมีผู้สมัครเลือกตั้งไม่ครบเพราะพรรคประชาธิปัตย์คว่ำบาตรการเลือกตั้ง เท่ากับว่าสภาไม่สามารถเปิดประชุมได้เนื่องจากมีสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม
การประท้วงจะลุกลามและท้ายที่สุดกกต.หรือศาลอาจวินิจฉัยว่า ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งที่ชอบธรรมได้ และสถานการณ์จะชุลมุนวุ่นวาย เปิดทางให้ทหารเข้าแทรกแซงอีกเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น