PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

กำนันสุเทพ'ยกระดับกระชับพื้นที่!

กำนันสุเทพ'ยกระดับกระชับพื้นที่!

การประกาศยกระดับการชุมนุมของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ใจมวลชน แต่ทำให้คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี พากันนั่งเก้าอี้ไม่ติด

เพราะการประกาศของ "สุเทพ" มีเนื้อหาว่า "ภายใน 2-3 วันนี้ จะปิดสถานที่ราชการให้หมด โดยจะนำไปยึดสถานที่ราชการบางแห่ง และจะมีการควบคุมนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีให้หมด ตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรี หากยังดื้อด้านก็จะควบคุมตัวและขอให้แต่ละคนส่งลูกเมียไปที่อื่นก่อน หากฉุกเฉินจะได้หนีได้สะดวก"

การประกาศยกระดับของ "สุเทพ" ในครั้งนี้ทำให้มวลชนที่มาร่วมชุมนุมเห็นทิศทางการเคลื่อนไหวของ "แกนนำ" มากขึ้น เพราะไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุมแค่ไหน แต่ดูเหมือนรัฐบาลยังเล่นบท "นิ่งเฉย" ไม่สะทกสะท้านต่อกระแสเรียกร้องของผู้ชุมนุม พร้อมกับพยายาม "หลบหน้า" ไม่ปะทะโดยหันไปกระตุ้นให้เกิดการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว

แม้ว่า "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" (กกต.) จะเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 4 พฤษภาคม เนื่องจากเห็นว่าหากยังเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปการจัดการเลือกตั้งจะไม่เรียบร้อย และสถานการณ์จะมีแนวโน้มเกิดความรุนแรง

สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ขณะที่ "กลุ่มผู้ชุมนุม" ได้เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคใต้อย่างน้อย 28 เขต ไม่มีผู้สมัคร และอีก 22 เขต มีผู้สมัครเพียงคนเดียว ยังไม่รวมถึงไม่มี "กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง" (กปน.) บางพื้นที่ในภาคใต้ และกทม.หลายหมื่นคน ดังนั้น แม้จะมีการเลือกตั้งย่อมส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎร มีส.ส.ไม่ครบ 475 คน ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้

แต่ที่หลายฝ่ายกังวลจะเกิดภาพความรุนแรงหากยังเดินหน้าเลือกตั้ง โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะมีการ "ฉีกบัตรเลือกตั้ง" เกิดเหตุการณ์ประท้วงหน้าหน่วยเลือกตั้งจนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และไม่อยากให้เหตุการณ์รุกลามบานปลายเหมือนกับการเลือกตั้งในบังกลาเทศ ที่ผู้คัดค้านการเลือกตั้งจุดไฟเผาและขว้างระเบิดใส่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงพยายามบุกเผาบัตรลงคะแนน และอุปกรณ์เลือกตั้ง

ดังนั้น การประกาศยกระดับ "กระชับพื้นที่" ของ "สุเทพ" บนเวทีแยกอโศกครั้งนี้ถือเป็นการเรียก "ขวัญและกำลังใจ" ให้กับมวลชนที่ไม่แน่ใจการเคลื่อนไหวจะรุกคืบรัฐบาลในรูปแบบไหนอย่างไรต่อไปเริ่มเข้าใจและมั่นใจในตัวผู้นำ

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าหลังจาก "งานวันเด็ก" หนึ่งวันสถานการณ์ทางการเมืองที่คุกรุ่นจะ "มีข่าวดี" มีผู้เสียสละ เพราะทนสภาพแรงกดดันที่เป็นอยู่ไม่ไหว แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการประชุมทีมยุทธศาสตร์ที่ประชุมไม่เห็นด้วย ทำให้ "คำสัญญา" ที่เคยรับปากเป็นอันต้องล้มไป

ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง การยกระดับการชุมนุมจากเพียงแค่เวทีราชดำเนินเพิ่มเป็น 7-8 จุด ในวันที่ 13 มกราคม ทำให้ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ต้องหาพื้นที่ปักหลักทำงาน และเพื่อความปลอดภัยให้ตัวเองและคณะรัฐมนตรี โดยยึดพื้นที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะมองว่าปลอดภัยมากกว่าที่อื่น

แม้จะรู้ว่าในกองทัพก็มีบางคนเห็นต่างแต่ยามนี้ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ยังมองไม่เห็นที่ปลอดภัยกว่านี้ เพราะทุกพื้นที่ย่อมมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานไม่มีการข้ามเขต

ส่วนแนวคิดก่อตั้ง "รัฐบาลพลัดถิ่น" ที่ภาคเหนือ หรือภาคอีสาน นาทีนี้ถือว่าปิดเกม เพราะไม่ว่าภาคเหนือ หรือภาคอีสาน ให้ไปดูว่าหน่วยงานกรมกองไหนดูแลรับผิดชอบอยู่

ขณะที่ "สุเทพ" หลังจากถูกแจ้งข้อหาเป็น "กบฏ" เวลาเดินทางไปไหนก็ต้องมีการ์ดคอยดูแล เพราะมีเจ้าหน้าที่แฝงตัวมาอยู่ในผู้ชุมนุมเตรียมควบคุมตัวอยู่ตลอดเวลา

ด้าน "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" หลังจาก "สุเทพ" ประกาศยกระดับกระชับพื้นที่บนเวทีแยกอโศกในครั้งนี้ก็ยิ่งบีบให้พื้นที่ของ "นายกฯ" เหลือน้อยและแคบลง ยิ่งนานวันยิ่งทำให้สถานการณ์ของ "นายกฯยิ่งลักษณ์" อยู่ยากยิ่ง

นับจากนาทีนี้ต้องมาจับตาดูว่าระหว่าง "สุเทพ-ยิ่งลักษณ์" ใครจะเดินเกมพลาด!

ไม่มีความคิดเห็น: