PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

"บิ๊กตู่"เขินมีชื่อติดนายกฯคนกลาง-ขัดแย้งไม่จบต้องใช้วิธีพิเศษ"ผมไม่สัญญาปฏิวัติจะมีหรือไม่".

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)...ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 กุมภาพนธ์ ภายหลังเป็นประธานเปิดเวทีมวยลุมพีนีแห่งใหม่(รามอินทรา) ถึงกระแสข่าวมีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า "อย่าไปพูดถึง ยังไม่ไปถึงตรงนั้น" และตอบคำถามที่ว่ารู้สึกดีใจหรือไม่ที่มีชื่อติดหนึ่งในนายกรัฐมนตรีคนกลาง “ผมคงไปดีใจหรือเสียใจไม่ได้ เพราะวันนี้สถานการณ์ตึงเครียดและคงจะไม่มีความสุขกันเท่าไหร่ ไม่ว่า จะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร และ ตำรวจ รวมถึงประชาชนทั่วไป ทุกคนเป็นห่วงสถานการณ์ จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายมีสติในการแก้ไขปัญหา"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ต้องการเจรจากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและรมว.กระทรวงกลาโหม ว่าเป็นเรื่องของท่านสองคนที่จะต้องคุยกัน และวันนี้ก็มีหลายฝ่ายมาเสนอหลายทาง รวมถึงกลุ่มอื่น ๆที่อยากจะเข้าร่วมด้วย ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอน ส่วนกองทัพจะเข้าไปมีส่วนร่วมหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราอยู่ในฐานะบทบาทของเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลความปลอดภัยและรักษาสถานการณ์ความมั่นคงโดยรวมของประเทศ

"ส่วนนายกรัฐมนตรี ที่มีเงื่อนไขให้ยุติการชุมนุม และให้มีการเลือกตั้งก่อนคุยมีการเปิดโต๊ะคุยกันนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของคู่เจรจา ซึ่งเป็นเงื่อนไขทุกภารกิจที่มีความขัดแย้งต่างฝ่ายต่างมีข้อเสนอของตนเอง แต่ถ้าหากปรับกันได้ก็คงจะลดราวาศอกกันไปเอง และคงจะพูดคุยกันได้บ้าง ซึ่งคงจะไม่ยุติภายในวันเดียว"ผบ.ทบ.ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการใช้เอ็ม 79 ก่อเหตุเป็นจำนวนมาก ผบ.ทบ.กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ แต่คงไม่ได้มาจากหน่วยทหาร เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพจะต้องอยู่ในคลัง และมีการตรวจเช็คกันทุกวัน การใช้อาวุธเอ็ม 79 ขณะนี้เป็นการลักลอบเข้ามามากกว่า เพราะในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมการลักลอบอาวุธสงครามได้ตลอด พอมีการชุมนุมทางการเมืองก็นำมาใช้ ซึ่งพวกนี้ไม่ค่อยมีจิตใจเป็นมนุษย์ เพราะเอ็ม 79 เอาไว้ใช้ในยามสงครามต่อสู้กับอริราชศัตรู แต่เอามายิงประชาชน ทั้งเด็ก ผู้หญิง และ คนชรา เสียชีวิตมากมาย เป็นสิ่งที่ต้องประนาม คนเหล่านี้จิตใจมันไม่ใช่มนุษย์ และหากจับกุมได้จะต้องถูกดำเนินคดีสถานหนัก

กรณีมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่แต่ละจังหวัด พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าเป็นการใช้อำนาจในฐานะที่เป็น รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ผอ.รมน.) และตนได้นำเรียนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้ในคำสั่งไม่ได้ให้จับตาใครเป็นพิเศษ แต่ให้ดูแลทุกกลุ่มที่ฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคง และการพูดจาก็กำลังดูอยู่ว่า สิ่งไหนผิด บางอย่างต้องเข้าใจว่าเป็นคำพูด การกระทำยังไม่เกิด หากการกระทำที่สมบูรณ์ความผิดก็จะเกิดขึ้น และสามารถดำเนินคดีทางกฎหมายได้ ทุกอย่างเป็นเพียงคำพูดทั้งที่บอกว่า จะมีกบฏหรือการก่อการร้าย แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่าทำหรือไม่ทำ

ผู้บัญชาการทหารบก ย้อนนักข่าวที่ถามว่าถ้ามีการปลุกระดมและมีการนำคนเสื้อแดงเข้ามาในกทม.ว่า "มันผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะขณะนี้มีฝ่ายหนึ่งที่ทำผิดกฎหมายและดำเนินการทางกฎหมายอยู่ และมีอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามา จะมาบอกว่าทางนี้เคลื่อนไหวได้ แล้วจะเคลื่อนไหวบ้างก็ผิดกันทุกกลุ่ม เมื่อมาเผชิญหน้ากันก็จะทำให้เกิดความรุนแรงและแก้ปัญหายาก วันนี้จะต้องหยุดทุกพวกทุกฝ่ายให้ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

“เรื่องไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เป็นสิ่งที่มีปัญหามาก ทั้ง การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้าเราไม่ยึดถือสิ่งเหล่านี้จะแก้ไขปัญหายาก จะบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะต้องไปพิสูจน์ทราบกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องมีพูดคุยกัน ให้โอกาสในการสู้คดี ถ้ามองว่าไม่ยุติธรรมทุกอย่างก็จบ แล้วจะมีกระบวนการยุติธรรมไว้ทำไม

ศาลพิจารณาคดีหลายเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง ถ้ามองว่าไม่ยุติธรรมคดีอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองก็มาร้องเรียนกันหมด ศาลตัดสินทุกคดีทุกคดีตามหลักฐาน ใครจะมาบอกว่ามีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ผมคิดว่าทำไม่ได้และในฐานะที่ผมเป็นองค์กรหนึ่งที่จะไม่ก้าวล่วงศาลและกระบวนการยุติธรรม เรื่องความไม่เป็นธรรม ทุกคนสามารถคิดได้แต่ต้องเคารพกัน และต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐาน หากหลักฐานชัดเจนก็เถียงไม่ได้” ผบ.ทบ.กล่าว

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าทหารเอียงเอนไปทางผู้ชุมนุมกปปส. พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับอีกว่าเอียงตรงไหน ถ้าเอียงก็ไปอยู่กับผู้ชุมนุมแล้ว ที่ส่งทหารไปอยู่ไม่ได้ไปอยู่ในม็อบ แต่อยู่ในพื้นที่รอบนอก เพื่อดูแลประชาชนทุกคน หากมีอันตรายมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปประชาชนก็จะได้รับบาดเจ็บสูญเสีย จะเป็น กปปส.หรือ นปช. ก็คนไทยด้วยกัน ปัญหาอยู่ที่ว่าความขัดแย้งอยู่ที่ไหน และใครเป็นผู้รับผิดชอบก็ไปแก้กัน ไม่ใช่ให้สังคมมาประนามว่าเป็นทหาร หรือตำรวจ เละเทะกันไปหมด ศาลก็เจ๊ง และถามว่าจะแก้ไขกันด้วยอะไร จะให้ตนสั่งกำลังพลทั้งสองแสนถืออาวุธและมาปราบ ตนทำไม่ได้

เพราะ 1.เป็นคนไทยด้วยกันเอง 2. ความขัดแย้งก็เป็นเรื่องของเรากันเองก็จะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง และ 3.ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องให้ทหารถืออาวุธมาปรามปราม ตนจะใช้ปฏิบัติกับกองกำลังที่ถืออาวุธ อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวนและประสานงานร่วมกับตำรวจหาคนที่ก่อเหตุรุนแรงซึ่งมีหลายกลุ่ม ให้ระวังตัวไว้ให้ดี

ถามว่ามีทหารไปในนามส่วนตัวและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบ ทหารไม่มีกฎห้ามชุมนุม หากไปนอกเวลาราชการ เขามีอิสระเต็มที่ จะไปไหนก็ได้ เพียงแต่ห้ามพกอาวุธทางราชการ หากพบก็ถูกจับ และเตือนให้วางตัวให้เหมาะสม แต่ถ้าใช้เวลาราชการพกอาวุธไปด้วยถูกจับได้ก็ต้องปลดออกราชการ ซึ่งทุกกองทัพก็เป็นแบบนี้หมด ส่วนกรณีที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กำลังจะครบวาระการประกาศใช้นั้น เป็นเรื่องของศรส. ที่จะผู้พิจารณาว่าจะใช้ต่อหรือไม่ หรือถ้าไม่ใช้พ.ร.ก.ก็จะกลับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเหมือนเดิม ส่วนโอกาสที่จะใช้กฎอัยการศึกนั้น ก็จะต้องรอให้เกิดจลาจล ถ้าไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้

ต่อข้อถามว่าได้คุยกับนายกรัฐมนตรี กรณีที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวที นปช.ประกาศ ในนามรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะนำข้อเสนอ การแบ่งประเทศ และให้ประชาชนจับอาวุธต่อสู้มาปฏิบัติตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาทำหรือยัง เป็นพวกกบฏน้ำลายทั้งนั้น ตามกฎหมายทำได้หรือไม่ ก็ทำไม่ได้และถามว่าสื่อยอมให้มีการแบ่งแยกประเทศหรือไม่ ถ้าสื่อไม่ยอม ตนเองก็ไม่ยอม ส่วนกรณีที่มีการสวนสนามตำรวจบ้านที่จ.พะเยา ใช้ธงชาติแดงแทนธงชาติไทยนั้น เป็นการสวนสนามของตำรวจบ้าน แต่เรื่องนี้ตนได้สอบสวน และเตือนไปหมดแล้วว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก

ซักว่าหากเกิดสงครามกลางเมืองจะรับมืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่าคงไม่รุนแรงขนาดนั้น เพียงแต่คนไทยขี้โมโห ก็เหมือนกับตน ไม่นานก็หาย แต่อย่าไปเร่งไฟจนตีกันแล้วหยุดไม่ได้เพราะมันอันตราย คนไทยเป็นคนเลือดร้อนใจเร็ว ฉะนั้นจะต้องประคับประคองและไปกันให้ได้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎกติกา ทุกวันนี้ตนเอาทหารออกมา 56 กองร้อย มานอนอยู่บนถนนมันไม่ใช่น้อย ๆ แล้วจะให้ทำอย่างไรอีก หากจะให้ประกาศกฎอัยการศึก ก็ใช้กฎหมายเหมือนเดิมเพียงแต่ให้ทหารมาสั่งการ ซึ่งถ้าให้ตนสั่งการ ก็จะต้องสั่งการให้กลับบ้านกันหมดทุกพวกแล้วจะกลับกันหรือไม่

นักข่าวตั้งคำถามว่า ปฏิวัติรัฐประหารเลิกคิดไปเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดกันทุกวัน ส่วนใครจะมองว่า สถานการณ์จะไปสิ้นสุดด้วยการปฏิวัติก็มองได้ อยากให้ทหารทำอะไรก็บอกว่า การปฏิวัติที่ผ่านมา เพราะมีเหตุการณ์รุนแรง ความไม่เป็นธรรม แต่ในวันนี้โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประชาชนก็เปลี่ยน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปถึงตรงนั้นเพราะเป็นเรื่องที่อันตาย

"และผมคงไม่สัญญาว่าการปฏิวัติจะมีหรือไม่มี แต่ก็ยอมรับว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางนิตินัย แต่การปฏิวัติทุกครั้ง ก็เพื่อให้สถานการณ์ยุติ แล้วยุติได้หรือไม่ ก็ต้องไปนั่งวิเคราะห์กัน ทุกสถานการณ์ก็จะต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย หากแก้ไม่ได้ก็จะต้องใช้วิธีพิเศษ ส่วนจะเป็นวิธีพิเศษอย่างไรก็จะต้องไปว่ากัน อย่ามาโจมตีทหาร"ผบ.ทบ. ระบุ


ไม่มีความคิดเห็น: