PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

มทภ.1ยันต้องมี กม.ดูแลความสงบแทนกฎอัยการศึก

แม่ทัพภาค1 /ผบ.กกล.รส.ยัน ต้องมีกฎหมายดูแลความสงบ แทนกฎอัยการศึก โดยเชื่อว่า จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ผู้บังคับบัญชากำลังชั่งน้ำหนัก หาเครืองมือทำให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย เผยรู้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ หลังจากนี้จะใช้เพียงการพูดคุยทำความเข้าใจ จะไม่ใช้อำนาจเพื่อเรียกมาปรับทัศนคติ เพราะทุกคนคือคนไทย เผยคสช.ตามเช็คSocial network ที่หาให้ถึงต้นตอ ใช้พูดคุยทำความเข้าใจ ยันให้เกียรติทุกคน เผยพูดคุยกับแกนนำกลุ่มต่างๆ ทางโทรศัพท์ตลอด

พลโท กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาค1 และ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบ(ผบ.กกล.รส.) กล่าวถึง การใช้มาตรา 44 แทนการประกาศใช้กฎอัยการศึก ว่า ผู้บังคับบัญชากำลังชั่งน้ำหนัก ซึ่งจะเป็นเครืองมือในการทำให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย และเกื้อกูลกันเพื่อให้ประเทศนำไปสู่การปฏิรูปและเป็นไปตามโร้ดแมพ และในฐานะที่ผมดูแลงานด้านรักษาความสงบเรียบร้อย มีหน้าที่ที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายมีความรักความสามัคคีเพือให้สังคมและประเทศชาติเกิดความสงบสุข ซึ่งที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีการประเมินสถานการณ์ในทุกวันและทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ซึ่งหลังจากนี้จะใช้เพียงการพูดคุยทำความเข้าใจ จะไม่ใช้อำนาจเพื่อเรียกมาปรับทัศนคติ เพราะทุกคนคือคนไทย ที่เชื่อว่า มีความรักบ้านเมือง แต่ก็ ไม่หนักใจกับสถานการณ์ตอนนี้เพราะถือว่า ยังสงบเรียบร้อยดี และเชื่อว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้ รวมถึง การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเข้มงวดและใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ

ส่วนการแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียที่อาจทำให้สับสน แม่ทัพภาค 1 ระบุว่า ต้องตามหาให้ถึงต้นตอ และใช้การพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ เพราะผมให้เกียรติทุกคนและใช้ความจริงใจในการพูดคุย โดยเฉพาะกับแกนนำกลุ่มต่างๆมีการโทรศัพท์พูดคุยกันตลอด
ส่วน การร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องนำความเห็นของหลายฝ่ายมารวมกัน ตอนนี้ยังไม่ตกผลึก เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด

ที่มา : เพจ วาสนา นาน่วม 

ไม่มีความคิดเห็น: