"สุภิญญา"ย้ำ กสท.พักใบอนุญาต2ช่องทีวีดาวเทียมเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ โดยไม่เห็นด้วกับการใช้คำสั่ง คสช.มาเป็นเหตุผลในการสั่งปิด แทนที่จะใช้ระเบียบของ กสทช.เอง ที่มีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว จากเบาไปหาหนัก
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.
ชี้แจงกรณีการพักใช้ใบอนุญาต 7 วัน ช่อง TV 24 สถานีประชาชน มติ กสท. 3:2 เสียง โดยตัวเองอยู่ใน2เสียงข้างน้อย ขณะที่ช่อง PeaceTV มติ กสท. 4:1 เสียง โดยอยู่ฝ่าย 1 เสียงข้างน้อย
ส่วนที่อยู่ฝ่ายเสียงข้างน้อย เพราะเห็นว่ารายการดังกล่าวของ 2 ช่อง เป็นการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์การเมือง แม้เลือกข้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นปลุกปั่น อีกทั้งถ้าบางรายการของช่อง TV24 สถานีประชาชน และ PeaceTV มีปัญหาสุ่มเสี่ยง แต่การให้พักใช้ใบอนุญาตทั้งสถานี อาจเข้าข่ายลงโทษเกินกว่าเหตุได้
"มากไปกว่านั้นดิฉันเห็นว่า กสท. ควรพิจารณาความผิดบนฐานกฏกติกาของ กสทช.เองก่อนจะใช้คำสั่ง หรืออิงประกาศฯ คสช. อีกทั้งการลงโทษผู้รับใบอนุญาตควรเป็นไปตามลำดับขั้นตอน เช่น เตือน ปรับ พักใช้ เพิกถอน เหมือนกรณีความผิดอื่นๆ ไม่ใช่พอเป็นการเมืองแล้วใช้โทษทางลัด กสท.ควรใช้ดุลยพินิจว่า การวิพากษ์การทำงานรัฐบาล สนช. สปช. หรือ แม้แต่ คสช. ยังไม่ใช่ความผิดฐานขัดความมั่นคงในตัวของมันเอง ต้องดูสาระด้วย"นางสาวสุภิญญา กล่าว
นางสาวสุภิญญา ชี้ต่อว่า กรณีช่องทีวีดาวเทียม กสท.เสียงข้างมาก กล้าที่จะใช้อำนาจตนเองบอกว่าขัดประกาศ คสช. แต่เรื่องถือหุ้นเกินของฟรีทีวี แม้เขียนกติกาเอง แต่ไม่ใช้ โดยกรณีสั่งพักใช้ใบอนุญาตช่องทีวีดาวเทียม กสท.เสียงส่วนใหญ่กลับกล้าใช้ดุลยพินิจฟันธงว่าผิด แม้ยังไม่ขัดกติกา กสทช.เอง แต่ไปอิงประกาศ คสช.แทน
"วันนี้โหวตแพ้บางเรื่อง แต่ก็ได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ด้วยการใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ไม่งดออกเสียงด้วย แม้ในวาระที่ทำเอาลำบากใจ สุดท้ายแม้จะโหวตแพ้ ดิฉันก็ยอมรับกติกาประชาธิปไตยใน กสท./กสทช. จากนี้ก็เป็นกระบวนการทางศาลรับช่วงไปตัดสินต่อแล้ว ก็เป็นไปตามกระบวนการ Rule of law ที่รัฐธรรมนูญออกแบบมาแล้ว ทุกฝ่ายก็มีสิทธิ์โต้แย้งการใช้ดุลยพินิจ กสทช. ในศาลพลเรือน/ปกครองจนถึงที่สุด"นางสาวสุภิญญากล่าวย้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น