PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผบ.ทร.โอดคนต้านเรือดำน้ำจีน ขอให้เป็นหน้าที่ใครหน้าที่มัน อย่าก้าวก่าย

ผบ.ทร.โอดคนต้านเรือดำน้ำจีน ขอให้เป็นหน้าที่ใครหน้าที่มัน อย่าก้าวก่าย วอนเชื่อใจทหารเรือ เพราะ จ่ายภาษี เหมือนกัน
พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีการคัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า ขณะขั้นตอนของกองทัพเรือเสร็จแล้ว โดยเป็นเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีน รุ่น เอส 26ที จำนวน 3 ลำ ซึ่ง ครม. ได้ให้กองทัพเรือไปศึกษา เราก็ศึกษาอย่างดีที่สุด ส่วนอย่างอื่นเป็นนโยบาย ตนไม่ยังไม่อยากให้สังคมมาวิจารณ์ในช่วงนี้ ต้องคิดว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ทหารเป็นรั้วของชาติ ตนเป็นทหารเรือก็รับผิดชอบในส่วนของทหารเรือ หน้าที่ของใครของมัน ไม่ควรก้าวก่าย ควรฟังกันบ้าง ไม่ใช่มาตำหนิอย่างเดียว เพราะโอกาสที่จะมีและจัดหาแต่ละครั้งไม่ง่าย กว่าจะได้เรือดำน้ำอย่างน้อยก็ 7 ปี จากนั้นส่งกำลังพลไปฝึก ทั้งนี้เรือดำน้ำเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องปรามและศักยภาพดีที่สุด ส่วนงบประมาณขึ้นอยู่กับ ครม. อนุมัติว่าจะเป็น 7 หรือ 10 ปี และถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำก็ต้องยุทโธปกรณ์อื่นทดแทน สรุปแล้วก็ไม่ได้อะไร งบกลางที่เป็นชิ้นเป็นอันต้องเข้าใจ หากเราไม่ได้เรือดำน้ำ ก็อาจจะไปได้เรือผิวน้ำ หรือเพิ่มเรือตรวจการลาดตระเวณมาทดแทน แต่ภาระกิจบางอย่างทดแทนไม่ได้
 พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์การป้องปรามในอนาคตหากเกิดสงคราม เรือผิวน้ำแทบจะไม่เหลือ สิ่งที่อยู่รอดคือเรือดำน้ำ ทั้งนี้กองทัพเรือไม่ได้มีแผนสำรองหากไม่ได้เรือดำน้ำตนเองคงหยุด แต่ขณะนี้เราดำเนินตาม ครม.อนุมัติให้ไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวเรือดำน้ำ ส่วนจะได้หรือไม่แล้วแต่นโยบาย ขณะนี้ขอให้ได้รับการอนุมัติก่อน ตนจะชี้แจงรายละเอียด แต่ขณะนี้ยังไม่เกิด ถ้า ครม. เห็นชอบเราจะมีการจัดหาตามงบประมาณที่กองทัพเรือได้รับในทุกปีอยู่แล้ว และเป็นงบผูกพันธ์ที่กองทัพเรือมีอยู่ ซึ่งการจ่ายงบประมาณผูกพันไม่ได้จ่ายครั้งเดียว 3 หมื่นล้าน แต่จะจ่าย 200 ล้าน และ 3,000 ล้าน ตามงบประมาณผูกพันตามลำดับที่กองทัพเรือมีอยู่ แต่ถ้าไม่ให้ซื้อเรือดำน้ำ ในปีต่อไปก็จะเอางบนี้ไปซื้อเครื่องบินแอมแบร์ หรือ เครื่องบินลาดตระเวณตรวจการ ขึ้นมาทดแทน กองทัพเรือรบ 3 มิติ ทั้งใต้น้ำ ผิวน้ำ และบนอากาศยาน
 “ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมพอเราจะจัดหาเรือดำน้ำแล้วไม่ได้ แต่ทำไมพอซื้ออย่างอื่นแล้วเฉย พอพูดถึงเรือดำน้ำ ก็ไปคิดกันอย่างโน้นอย่างนี้ อ่าวไทยไม่ได้ตื้นถึงขนาดใช้เรือดำน้ำไม่ได้ เพราะไปศึกษาในรายละเอียดมาแล้วที่เหมือนกับประเทศสวีเดน ”พล.ร.อ.ไกรสร กล่าว
 เมื่อถามว่า เรือดำน้ำจีนแบบเอส26ที ตอบโจทย์หรือไม่ พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าเงินที่ตั้งไว้ไม่ได้เยอะ งบประมาณที่ตั้ง กองทัพเรือเน้นมากที่สุด ซึ่งภายใต้งบประมาณที่จำกัด เรือดำน้ำของจีนแบบเอส26ทีตอบโจทย์มากสุด เพราะเรือดำน้ำของยุโรป เสนอขายแค่เรือ ไม่มีอาวุธและการดูแลรักษา ตลอดจนถึงการซ่อมบำรุง มาแต่เรือเราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอาวุธ แต่ในส่วนของจีนมีทั้งหมดพร้อมอะหลั่ยอีก 8 ปี
 พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า การจัดซื้อเป็นแบบซื้อขายรัฐบาลต่อรัฐบาล ไม่เหมือนเรือดำน้ำมือสองของเยอรมัน ที่ไม่มีการรับรองจากรัฐบาล เพราะไม่ส่งออก ถือเป็นเทคนิคของแต่ละประเทศ กองทัพเรือมีหน้าที่เสนอรายละเอียดและเสนอให้ผู้บัังคับบัญชาในเรื่องความเหมาะสมเท่านั้นเอง

“ตอนนี้อย่าพึ่งไปคิดว่าอะไรดีไม่ดี แต่ทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ต้องเชื่อใจกัน ถ้าให้กองทัพเรือรับผิดชอบในทะเลทั้งหมด ควรเชื่อใจทหารเรือ แต่ถ้ามานั่งคิดว่า ตรงนั้น หรือตรงนี้ไม่ได้ ท่านก็มาเป็นทหารเรือก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร การเป็นทหารเรือไม่ง่าย ถ้าคนที่อยู่ในเรือและต้องดำน้ำ21วันโดยไม่โผล่มาเห็นเดือน เห็นตะวัน เขาเสียสละกันแค่ไหน พวกท่านมาบอกว่าซื้อแล้วจะใช้เงินมากมาย ก็เป็นเงินของผมเหมือนกัน ภาษีของทุกคนเหมือนกัน ผมก็เสียดายตังค์ ถ้าไม่ดี ผมก็ไม่อยากซื้อ ต้องเข้าใจคนอื่นบ้าง อย่าคิดคนเดียว”พล.ร.อ.ไกรสร กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: