PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

'สัญญาณภัย'ใน'จิตสำนึก'พร่อง เปลว สีเงิน

02/9/58 ไทยโพสต์

"พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" บอกวันก่อน..........!
"การจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และสะพานสาทร เป็นผลจากการสืบของฝ่ายความมั่นคง"
ครับ...ขอชื่นชม "ฝ่ายมั่นคง" จากใจ
หน่วยนี้ ปิดทองหลังพระมาตลอด ทองเพิ่งล้นทะลักออกมาข้างหน้าค่าเหนือเงินไร้สาระ ๓ ล้าน ที่เอามากองออกโทรทัศน์ประจานวุฒิภาวะน่าละอายของใครบางคน วันก่อน
แน่นอน งานรักษาชาติบ้านเมือง เฉพาะหน่วยเดียวทำไม่สำเร็จ นี่เช่นกัน ต้องชื่นชมฝ่ายทหารและตำรวจด้วยเช่นกัน
ประสานการข่าว การสืบ การจับ ผนึกเป็นหนึ่งยูนิตในการทำงาน ชนิดไม่มีการเกี่ยงเอาหน้า-เอาตา
จนคดี "บอมบ์ราชประสงค์" มีผลงาน แสดงถึงศักยภาพคน-ศักยภาพประเทศ ที่ใครก็หยามไม่ได้ ดังประจักษ์
จับมิสเตอร์ X ๑ ในแก๊งคนแรก ที่อพาร์ตเมนต์หนองจอก เมื่อ ๒๙ ส.ค.๕๘........
ด้วยศิลปศาสตร์การสอบปากคำของทหารและตำรวจ มิสเตอร์ X เป็นกุญแจไขไปสู่ขบวนการวินาศกรรมผสม "ไทย-ต่างชาติ"
ที่เป็นขุมกำลังลับ ผนึกตัว "ก่อชั่ว" ในชาติ มานาน!
ถึงขณะนี้ ศาลออกหมายจับแล้ว ๗ คน เป็นไทย ๑ คือนางไมซาเลาะห์ ต่างชาติ ๖ รวมทั้งมิสเตอร์ X
ล่าสุด เมื่อวาน (๑ ก.ย.๕๘)...........
"กองกำลังบูรพา" จับต่างชาติรูปร่างลักษณะเหมือนชายเสื้อเหลืองตามหมายจับได้อีก ๑ คน จากชายแดนไทย-เขมร อรัญประเทศ สระแก้ว ขณะจะซอกซอนออกไป
สรุปขณะนี้ คุมตัวต่างชาติไว้ ๒ คน นางไมซาเลาะห์ "คนไทย" ขอมอบตัว ส่วนอีก ๔ เป็นต่างชาติ ประกาศจับแล้ว
ก็ชัดไปเปลาะว่า ขบวนการวินาศกรรมไทยแก๊งนี้ เท่าที่จับได้ ล้วนต่างชาติ ทางการยังไม่ระบุ เป็นชาติอะไร แต่มีความน่าจะเป็น....คนตุรกี
ล่าสุดที่จับได้ กระเดียดทางซินเจียงอุยกูร์!
อีกอย่างที่ต้องพูด การทำงานครั้งนี้ องค์ประกอบที่ทำให้คดีคลี่คลายมีผลสัมฤทธิ์เร็ว คือ
พระเดช....ด้วย "อำนาจ ม.๔๔"
ที่นายกฯ ประยุทธ์ ใช้เป็นพระคุณ ควบคุมตัวผู้ต้องหา "เพื่อค้นหา" ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง!
เพราะทั้ง ๒ คนที่คุมตัวไว้ ยังไม่มีใครยอมรับ และหลักฐานที่จะใช้ยืนยันถึงการทำผิด ยังไม่สมบูรณ์ถึงระดับ
คนแรก เพียงข้อหา มีวัตถุระเบิด
คนที่สอง เพียงต้องสงสัยเป็นชายเสื้อเหลือง ตามหมายจับของศาล!
ยังไม่ใช่ผู้ต้องหาในความผิดจากเหตุการณ์บอมบ์ราชประสงค์เมื่อ ๑๗ สิงหา โดยตรง การจะคุมตัวไว้นานๆ ระหว่างสอบสวน กฎหมายปกติไม่เอื้อนัก
ดังนั้น ม.๔๔ จึงเป็นคุณมหันต์
คุมตัวสอบสวนได้ ๗ วัน ทำให้การทำงานของชุดคลี่คลายคดีเดินหน้าไปได้ ไม่ถูกเงื่อนเวลาบีบรัด จนมีผลเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์บ้านเมืองดังประจักษ์!
ถ้าเป็นหนัง-ละคร ช่วงนี้ถือว่า "ไคลแมกซ์" เราไม่ควรวิพากษ์ล้ำหน้าการแสดงบนเวที เป็นการเสือกรู้-เสือกฉลาด ที่กวนบาทเพราะผิดกาละ
ดู...และลุ้น ด้วยเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่เขานั่นแหละ ดีที่สุด!
โม่งแดง มือบอมบ์ คือใคร........
และใคร คือ BIG BOSS ในแก๊งผสม "ไทย-ต่างชาติ" ที่ตั้งขบวนการป่วนชาติครั้งนี้?
ใจเย็นๆ ดูไปด้วยกัน จะคั่นฉากด้วยข่าว "ถอดยศทักษิณ" ซักนิดก่อนก็ได้
"ผมเห็นหนังสือแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนาม ไม่ว่าผมจะลงนามวันไหนก็เหมือนกัน ถ้าลงนามเมื่อใด ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม."
นายกฯ ประยุทธ์บอกนักข่าวเมื่อวาน (๑ ก.ย.๕๘) หลังจาก ผบ.ตร.สมยศแย้มข่าวว่า.......
"ขณะนี้ ได้รับหนังสือตอบกลับจากคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารทางราชการ (สขร.) แล้ว
ขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ในความรับผิดชอบผม จากนั้นจะส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป หากเป็นไปได้ จะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้แล้วเสร็จก่อนเกษียณ ๑ ตุลาคมนี้”

อืมมมม...ยามฟ้าจะใส เมฆหนาที่คลุมทึบยาวนาน พลันสลาย โอ้โฮ...เฮะ พร้อมๆ กัน!

เรื่องเงินกู้กรุงไทย ที่หลงอยู่อีก ๔ ราย คุณสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดี DSI บอกวานซืน....

"อยู่ระหว่างคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีฟอกเงิน โดยเชื่อมโยงและขยายผลถึงผู้ที่นำเงินจากการปล่อยกู้ไปใช้ประโยชน์
จะประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี วันที่ ๗ ก.ย.นี้ คาดว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดได้ภายใน ๑ เดือน"

หมกสนิทมา ๘ ปี.........!
หวุดหวิดจะหมดอายุความ จู่ๆ ด้วย "กรรมจัดสรร" บุคคลทั้ง ๔ ที่อาจมีสิทธิ์ได้รับแจ้งข้อหา มีดังนี้
"นายพานทองแท้ ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขาธิการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายวันชัย หงษ์เหิน สามีนางกาญจนา และนายมานพ ทิวารี บิดา น.ต.ศิธา ทิวารี"

ก็กลับไปเรื่องขบวนการวินาศกรรมต่อ มีประเด็นหนึ่งที่อยากให้สังเกตด้วยกัน
พลันที่หน่วยมั่นคงและทหารจับกุมผู้ต้องหาที่อพาร์ตเมนต์หนองจอก-มีนบุรี
ผบ.ตร.สมยศ สั่งย้ายตำรวจท้องที่ ตั้งแต่ระดับผู้กำกับลงมา รวม ๑๖ นาย ใน ๒ โรงพัก คือมีนบุรี และหนองจอก
เหตุผล คือ ไม่รู้-ไม่เห็นอะไรในท้องที่ ทั้งที่ขบวนการร้ายเข้าไปฟักไข่ยั้วเยี้ย
อีกราย เมื่อวาน สั่งย้ายนายตำรวจชุดประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว
การย้ายเป็นเรื่องปกติ จะเห็นว่าระยะนี้บ่อยมาก รวมๆ แล้วเป็นร้อยนาย จนน่าสงสัย ย้ายไปเก็บกรุมากมาย แล้วเอาตำรวจที่ไหนไปทำงานแทน?
และคนที่ย้าย เผลอๆ เดือน-ครึ่งเดือน ก็เห็นแอบย้ายให้กลับไปหน้านวลอยู่ที่เดิม-เหมือนเดิมแล้ว!
ก็เป็นที่ทราบทั่วไป การจะได้ "กินพื้นที่" สำคัญๆ เป็นผู้กำกับอยู่กรุง อยู่ ตม.นั้น
ต้องปึ้ก..และปึกๆ ถึงจะได้ลงตำแหน่ง!

ดังนั้น การย้ายตำรวจประจำด่านสระแก้ว ลำพังแค่กองกำลังบูรพาไปจับต่างชาติคล้ายเสื้อเหลือง
ตม.สระแก้ว "เส้นใหญ่" เกินย้ายด้วยสาเหตุแค่นั้น แต่ที่ ผบ.ตร.สมยศระบุ หลังไปพบนายกฯ ตรงนี้ นับว่าน่าตระหนก....

"สำหรับคำสั่งนี้ สืบเนื่องจากหน่วยความมั่นคงสืบทราบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับขบวนการลักลอบนำพาชาวอุยกูร์เข้ามาในประเทศ โยงใยกับขบวนการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าน้ำสาทร"

น่าตระหนกจริงๆ ทั้งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต!

ย้อนไปตั้งแต่ ๑๙ กันยา ๔๙ ที่พลเอกสนธิ ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ จนเกิดความแตกแยกในชาติ เป็นเหลือง-แดง เรื่อยมา ถึงขั้นจลาจล ฆ่ากันตาย ต่อเนื่องมาร่วม ๑๐ ปี

ด่านข้ามจากไทยไปเขมรตรงนี้ เป็นด่านที่ "ฝ่ายไหน" ใช้ประโยชน์ อำนวยประโยชน์ เพื่อการทำลายล้างไทยกันเอง ก็ทราบกันดีอยู่

ที่เป็นอย่างนั้นได้ ก็ต้องถามกันว่า...........

"ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง" ตรงนี้ ทำหน้าที่ ซื่อตรงด้วยจิตสำนึก ยึดประโยชน์ชาติบ้านเมือง "ด้านความมั่นคง" เป็นหลัก
หรือ...เพื่อความมั่นคง BIG BOSS คนไหน เป็นหลัก มีอย่างนั้นหรือเปล่า?

ผมจึงว่า...บ้านเมืองไทยวันนี้ "ปลวก" จากกากเดนต่างชาติที่ไหลเข้ามา มันก่อรังจากใต้ดิน เติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

โดยที่เราทั้ง รัฐ-ราษฎร์ ไม่สนใจ และไม่ตระหนักถึงภัยชาติ ที่คืบคลานจ้องเขมือบหัว ก็ยังไม่รู้สำนึกตัวกัน!

ไม่ต้องไกล แค่ "รามคำแหง-หนองจอก-มีนบุรี" ท่านนายกฯ ลองให้คนไปเดินเล่น ก็จะพบว่า

คนไทยเจ้าของประเทศ กลายเป็นคนแปลกหน้า เป็นคนส่วนน้อย ในดงคนต่างชาติ-ต่างภาษา ไปแล้ว!

ขนาด ตม.ยังต้องย้ายด้วยเหตุผลด้านมั่นคง ก็ไม่ต้องคิด "ระดับชาวบ้าน" จะใส่ใจไยดีด้านมั่นคง

ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ต้อง "ยกเครื่อง" ใหม่หมดทั้งประเทศ การเมืองเรื่องเลือกตั้ง อย่าเพิ่งคลั่ง เป็น "งั่งประชาธิปไตย" กันนักเลย.

ไม่มีความคิดเห็น: