PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ประธาน สปท.ลั่น! ยึดหลัก"โซเครติส"ทำงาน "2+2=4" ใครก็สั่งไม่ได้!

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17:40:08 น.



เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา  ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท.คนที่ 1  น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท. คนที่ 2 ได้เป็นประธานมอบนโยบายการบริหารราชการแก่ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  โดยเมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ที่การทำงานตรงนี้ถูกมองว่าถูกคสช.สั่งซ้ายหันขวาหันได้

โดย ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าวว่า ผมเป็นนักวิชาการ เปลี่ยนอาชีพมาหลายอาชีพ สุดท้ายมาเป็นอ.มหาวิทยาลัย  สื่อมวลชนอาจจะยังไม่เคยรู้ เล่าให้ฟังอาจจะตกใจ แต่จะเล่าให้ฟังว่า ตอนผมเข้าโรงเรียนนายร้อยจปร. อาจารย์ท่านหนึ่งยศพันเอกถามนักเรียนทุกคนในห้องว่า อาชีพที่พวกเราทำอยู่เป็นอาชีพอะไร นักเรียนนายร้อยตอบกันทั่วห้องไม่มีใครถูก จนกระทั่งอาจารย์เฉลยว่าอาชีพทหารคือการฆ่าคน ผมก็ตกใจ ปัจจุบันผมจึงเปลี่ยนอาชีพมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเต็มตัว เป็นนักวิชาการเต็มตัว ดังน้ัน ผมจะทำงานตามหลักสัจธรรมของโซเครติส  ซึ่งต้อง 2+2 = 4 จะเท่ากับ 3 ไม่ได้ หลักสัจธรรมสำคัญที่สุด ดังนั้น นักวิชาการต้องรักษาสัจธรรม คนไทยต้องรับผิดชอบสังคมส่วนรวม ดังนั้น นักวิชาการจะมาถูกสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ มันอยู่ที่การศึกษา การศึกษาคือการแสวงหาสัจธรรม และการค้นพบ จุดยืนผมอย่างนี้ ผมจึงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ สมัยผมอยู่กับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ผมพูดอะไรไปก็อาจสามารถเปลี่ยนใจท่านได้

หมายเหตุ ทั้งนี้ โสกราตีส เป็นนักปราชญ์ชาวกรีก เป็นอาจารย์ของเพลโต และเป็นอาจารย์ปู่ของอริสโตเติส (อริสโตเติลลูกศิษย์ของเพลโต) ซึ่งนักรัฐศาสตร์และนักกฎหมายทุกคนจะต้องรู้ ในทางประวัติศาสตร์ปรัชญาการเมืองมีความสำคัญคือเป็นผู้ที่ยอมตายเพื่อรักษากฎหมาย แม้ถูกลงโทษตัดสินประหารชีวิตจากข้อกล่าวหาที่ไม่สมเหตุสมผล ก็ยินดีจะถูกประหารชีวิตโดยไม่หนีและไม่หวาดหวั่น

ไม่มีความคิดเห็น: